xs
xsm
sm
md
lg

'ดีอี' คุมสแกมเมอร์ พบผิดบน Facebook ลด 60%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'ดีอี' ขยับเกมคุมสแกมเมอร์ ถก Facebook พบการกระทำผิดลด 60% ไทยเสนอระบบยืนยันตัวตนเฉพาะประเทศเพิ่มความเชื่อมั่น พร้อมเร่งอุดช่องโหว่บัญชีทั่วไปบน TikTok หลังมิจฉาชีพหลบ AI จนเกิดเคสซื้ออาวุธผ่านแพลตฟอร์ม

หลังจากรัฐบาลเปิดปฏิบัติการ "Cut Down Scam-สยบเครือข่ายค้าข้อมูลส่วนบุคคล" และประกาศเรียกผู้บริหาร Meta เจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook เข้าหารือโดยตรงเรื่องสแกมเมอร์และกลุ่มธุรกิจสีเทา ล่าสุด นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยรายละเอียดการหารือกับผู้แทนจากบริษัท Meta นำโดย Dr.Rafael Frankel Director of Public policy, Meta Platform Inc. และ นางชนิดา คล้ายพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ TikTok บริษัท ติ๊กต๊อก เทคโนโลยีส์ จำกัด ว่า รัฐบาลจะเดินหน้ากดดันเชิงนโยบาย ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้แพลตฟอร์มและผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดดิจิทัลเพิกเฉยต่อความเสียหายของคนไทยอีกต่อไป

นายไชยชนก กล่าวว่า การหารือกับ Facebook เมื่อวันที่ 20 พ.ย.68 แพลตฟอร์มได้นำข้อมูลภาพรวมมาอัปเดตให้ฟังว่า หลังจากไทยกดดันและร่วมมือกันจัดการปัญหาหลอกลวงและการซื้อสินค้าไม่ตรงปกบน Facebook ตัวเลขการกระทำความผิดที่ตรวจพบลดลงราว 60% แม้ฝั่งไทยยังไม่ได้เห็นดาต้าเชิงลึกอย่างเป็นทางการ แต่ก็สะท้อนว่า การกดดันเชิงนโยบายและการทำงานร่วมกันเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรมระดับหนึ่งแล้ว

อย่างไรก็ดี ประเด็นที่อยากให้มีความคืบหน้ามากขึ้น คือเรื่องการยืนยันตัวตนผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม โดยได้เสนอให้ Facebook พิจารณาทำระบบยืนยันตัวตนเฉพาะในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยที่ผ่านการยืนยันมีสัญลักษณ์รับรองบนบัญชี ซึ่งเมื่อผู้ใช้เห็นก็จะเชื่อมั่นได้มากขึ้นว่า เป็นผู้ใช้งานจริงที่พร้อมเปิดเผยตัวตนและรับผิดชอบต่อการซื้อขาย อย่างน้อยจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในธุรกรรมระหว่างผู้ใช้ชาวไทยด้วยกัน ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้หน่วยงานรัฐติดตามและสืบสวนผู้กระทำผิดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

Dr.Rafael Frankel Director of Public policy, Meta Platform Inc
"ฝั่ง Facebook ยอมรับตรงๆ ว่าไม่เคยทำระบบยืนยันตัวตนในลักษณะที่ผูกกับประเทศเดียวมาก่อน และมองว่าการยืนยันตัวตนอาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมด เพราะยังมีผู้ใช้จากต่างประเทศที่ไม่ได้ผ่านการยืนยันอยู่ดี แต่ยังยืนยันว่า แม้จะไม่ใช่ทางออก 100% แต่เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความเชื่อมั่นและแยกให้เห็นชัดว่า บัญชีใดเป็นผู้ใช้ที่ยืนยันตัวตนในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้บริโภค และต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่

ระหว่างนี้ กระทรวงดีอียังคงเดินเกมคู่ขนาน ทั้งในเชิงความร่วมมือกับแพลตฟอร์มและในเชิงบังคับใช้กฎหมาย โดยยังคงใช้มาตรการปิดกั้นช่องทางที่นำไปใช้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และพยายามไล่จัดการต้นตอของขบวนการสแกมเมอร์ให้ได้มากที่สุด หวังว่าเมื่อดำเนินการต่อเนื่อง จะบังคับให้แพลตฟอร์มต้องยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยให้จริงจังยิ่งขึ้น" นายไชยชนก กล่าว

นายไชยชนก กล่าวว่า ด้านการหารือกับ TikTok ภาพรวมคล้ายกับ Facebook แต่รายละเอียดต่างกัน โดย TikTok ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความร่วมมือค่อนข้างดีในมิติที่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ระบบสำหรับร้านค้าที่เป็นทางการของ TikTok มีโครงสร้างการยืนยันตัวตนและการทำธุรกรรมที่ค่อนข้างรัดกุม อีกทั้งเมื่อหน่วยงานไทยส่งคำร้องเรียนว่า มีเนื้อหาหรือร้านค้าที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย แพลตฟอร์มก็มักจะรีพอร์ตกลับและปิดกั้นอย่างรวดเร็ว

นางชนิดา คล้ายพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ TikTok บริษัท ติ๊กต๊อก เทคโนโลยีส์ จำกัด
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ TikTok จะถูกมองว่าเป็นเด็กดี ในแง่ความร่วมมือ แต่ยอมรับว่า ยังมีช่องโหว่ที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน นั่นคือบัญชีที่สมัครด้วยอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์แล้วไม่ได้มีสถานะเป็นร้านค้าอย่างเป็นทางการ บัญชีประเภทนี้ปกติอาจใช้เล่นคอนเทนต์ทั่วไปแต่ในความเป็นจริงกลับถูกนำไปใช้ขายสินค้าผิดกฎหมายหรือหลอกลวงได้ง่าย เพราะไม่ได้ผ่านการยืนยันตัวตนเข้มข้นเท่าร้านค้า

ขณะเดียวกัน ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อ TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่ง วิวัฒนาการของกลุ่มสแกมเมอร์ก็ปรับตัวตามไปเรื่อยๆ โดยหันไปเปลี่ยนคำเรียกสินค้าเพื่อหลบการตรวจจับของระบบ AI เช่น การเรียกบุหรี่ไฟฟ้าว่า ส้อมสแตนเลส หรือใช้คำแสลงเฉพาะกลุ่ม ทำให้การสแกนด้วยคีย์เวิร์ดแบบเดิมแทบตามไม่ทัน ซึ่งกรณีล่าสุดอย่างการที่นักศึกษารายหนึ่งซื้อชุดปืนประกอบ/ปืนประดิษฐ์ ผ่าน TikTok ก็เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า แพลตฟอร์มจะต้องยกระดับกลไกตรวจจับและร่วมมือกับไทยให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อเห็นกรณีดังกล่าว หน่วยงานไทยได้แจ้งเรื่องผ่านช่องทางประสานงานกับ TikTok ทันที และแพลตฟอร์มก็ดำเนินการอย่างเร่งด่วน แม้รายละเอียดเชิงเทคนิคจะยังอยู่ระหว่างการติดตาม แต่ก็สะท้อนว่า ช่องโหว่ใหม่ๆ สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และรัฐกับแพลตฟอร์มต้องเดินตามให้ทันในทุกจังหวะ

"จะเดินหน้าในสองแกนไปพร้อมกัน คือ การผลักดันให้แพลตฟอร์มใช้เทคโนโลยีทั้งซอฟต์แวร์ และ AI มาช่วยสแกนคอนเทนต์อย่างจริงจัง และการเร่งยกระดับมาตรการทางกฎหมายให้เด็ดขาดและทันสมัยมากขึ้น ยอมรับว่าต่อให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับได้ดีเพียงใด หากบทลงโทษยังไม่แรงพอ หรือการบังคับใช้กฎหมายยังไม่จริงจัง การปิดปัญหาให้ได้ 100% ก็แทบเป็นไปไม่ได้" นายไชยชนก กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
20 พ.ย.68 'ดีอี' เรียกเฟซบุ๊กชี้แจง ปล่อยสแกมเมอร์ระบาด
'ไชยชนก' คุมเข้มยืนยันตัวตนผ่านแพลตฟอร์ม ปิดเกมสแกมเมอร์หลอกประชาชน
'ไชยชนก' ลุย 7 มาตรการยาแรง ปราบสแกมเมอร์ทั่วประเทศ








กำลังโหลดความคิดเห็น