xs
xsm
sm
md
lg

หัวเว่ยเร่งเครื่องโซลาร์บ้าน ชู AI ตัดไฟไวรับมาตรฐานใหม่ วสท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หัวเว่ย (Huawei) ลุยโปรโมทโซลูชัน FusionSolar ชูจุดแข็งระบบ AFCI ตรวจจับอาร์กไฟฟ้าด้วย AI เร็วกว่ามาตรฐาน 5 เท่า และแบตเตอรี่ LFP อายุการใช้งานนาน 15 ปี การันตีสอดรับมาตรฐาน IEC 63027 ที่รัฐบังคับใช้ มุ่งดันส่วนแบ่งตลาดโซลาร์ครัวเรือนที่กำลังบูม หลังค่าไฟฟ้าพุ่ง-สังคมเริ่มตระหนักเรื่องพลังงานสะอาดมากขึ้น

แจ็ค เจิ้น กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพลังงานดิจิทัล (Digital Power) บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการรุกตลาดโซลาร์เซลล์บ้านพักอาศัยของบริษัท ว่ามีเป้าหมายทำให้พลังงานสะอาดสำหรับทุกบ้านมีความปลอดภัย เนื่องจากโซลูชัน FusionSolar มีการบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับระบบป้องกันอัคคีภัย ตอบรับมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับระบบโซลาร์และกักเก็บพลังงาน พ.ศ. 2568 ที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ประกาศใช้

“เป้าหมายของทีม กลุ่มธุรกิจพลังงานดิจิทัล (Digital Power) คือการทำให้พลังงานสะอาดสำหรับทุกบ้านปลอดภัยที่สุด เราต้องการให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าระบบโซลาร์เซลล์ของพวกเขาไม่เพียงช่วยประหยัดพลังงาน แต่ยังทำงานอย่างมีเสถียรภาพ ปลอดภัย และปกป้องชีวิตและทรัพย์สินได้ในทุกสถานการณ์”

การประกาศใช้มาตรฐานใหม่ของ วสท. ในปี 2568 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ครัวเรือนไทย โดยยกระดับความเข้มงวดด้านความปลอดภัยอย่างเป็นรูปธรรม มุ่งเน้น 2 ระบบหลัก ได้แก่ การป้องกันอัคคีภัยจากอาร์กไฟฟ้ากระแสตรง (Arc Fault Circuit Interrupter: AFCI) และระบบลดแรงดันไฟฟ้าของแผงโซลาร์เซลล์ (Rapid Shutdown: RSD) พร้อมมาตรฐาน IEC 63027 เพื่อคุ้มครองผู้ปฏิบัติงานและผู้อยู่อาศัย

มาตรฐานดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการเติบโตของตลาดโซลาร์ครัวเรือนที่ทวีความนิยมอย่างรวดเร็ว หลังค่าไฟฟ้าปรับขึ้นและความตระหนักด้านพลังงานสะอาดสูงขึ้น จุดนี้หัวเว่ยย้ำว่าระบบโซลาร์เซลล์สำหรับบ้านสามารถช่วยลดค่าไฟได้สูงถึง 80%

อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบกลับกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้น หลังมีรายงานอุบัติเหตุจากการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐานหลายกรณี

***AI ตรวจจับอาร์กไฟฟ้า เร็วกว่ามาตรฐาน 5 เท่า

หัวเว่ยย้ำว่าโซลูชัน FusionSolar สามารถตอบโจทย์มาตรฐานใหม่ผ่านเทคโนโลยีหลักหลายระบบ นอกจากจุดเด่นที่อินเวอร์เตอร์ซึ่งมีระบบ AFCI พร้อม AI ในตัว สามารถตรวจจับความผิดปกติของอาร์กไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำและตัดการทำงานภายในเพียง 0.5 วินาที ซึ่งเร็วกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ถึง 5 เท่าแล้ว ระบบยังได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IEC 63027 และได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แสดงถึงประสิทธิภาพระดับสูงสุด


ขณะเดียวกัน Optimizer ที่มาพร้อมระบบ Rapid Shutdown (RSD) สามารถลดแรงดันไฟฟ้าบนแผงลงต่ำกว่า 30 โวลต์กระแสตรง (Vdc) ภายใน 30 วินาทีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐาน วสท. อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพลังงานได้สูงสุด 30%

***แบตเตอรี่ LFP อายุ 15 ปี รับประกันความปลอดภัย 6 ชั้น


สำหรับระบบกักเก็บพลังงาน หัวเว่ยออกแบบแบตเตอรี่โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดในทุกระดับ เริ่มต้นจากการใช้เซลล์ LFP (Lithium Iron Phosphate) คุณภาพสูงที่ปลอดภัยและทนทานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป

โครงสร้างของแบตเตอรี่แข็งแรงพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP66 ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ระบบป้องกันทางไฟฟ้าควบคุมแรงดัน กระแส และอุณหภูมิแบบแม่นยำ พร้อมระบบตรวจสอบอุณหภูมิและแรงดันของแต่ละเซลล์แบบเรียลไทม์

ที่สำคัญคือระบบความปลอดภัยฉุกเฉินที่สามารถปล่อยแรงดันได้ทันทีเมื่อเกิดความร้อนที่ตัวเครื่อง พร้อมชุดดับเพลิงอัจฉริยะ ส่งผลให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ตลอดอายุการใช้งาน 15 ปี

การผลักดันมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงในครั้งนี้ สะท้อนกลยุทธ์ของหัวเว่ยในการแข่งขันตลาดโซลาร์ครัวเรือนไทยที่มีคู่แข่งหนาแน่น ทั้งจากแบรนด์จีน ยุโรป และญี่ปุ่น ในอีกด้าน ศักยภาพของตลาดโซลาร์ครัวเรือนไทยก็กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง บน 3 ปัจจัยหลักคือค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น จูงใจผู้บริโภคให้ลงทุนระบบโซลาร์มากขึ้น, นโยบายรัฐที่สนับสนุนพลังงานสะอาดและเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนที่ผลักดันให้เกิดมาตรฐานและกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้น และเทคโนโลยีที่พัฒนาจนมีราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น.


กำลังโหลดความคิดเห็น