xs
xsm
sm
md
lg

'ดีป้า' เคลียร์ดราม่าสรรหา ผอ.ใหญ่ใหม่ ยันโปร่งใส ไม่ล่าช้า ไม่ทับซ้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'ดีป้า'เคลียร์ดราม่าสรรหา ผอ.ใหญ่ใหม่ แจงเริ่มปี 67 ไม่ช้า ไม่ผิดกฎหมาย ชี้ใช้ 313 วันทำขั้นตอนยืด เตรียมรายงานดีอี 17 พ.ย.68 และเปิดไลฟ์ให้ผู้สมัครโชว์วิสัยทัศน์ ย้ำผู้บริหารเดิมไม่ข้องเกี่ยวกรรมการสรรหา ขยายรับสมัครถึง 21 พ.ย.68

เมื่อวันที่ 14 พ.ย.68 ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า)แถลงข่าวชี้แจงอย่างละเอียดเกี่ยวกับกระแสตั้งคำถามต่อกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ หลังเกิดความสับสนในสังคมว่า ดีป้าอาจเริ่มกระบวนการช้าเกินกำหนด หรือมีข้อกังวลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน โดยผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ยืนยันว่า ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมายที่องค์กรถืออยู่ ทั้งนี้ ได้ทำหนังสือชี้แจงส่งถึงประธานกรรมการกำกับแล้ว และจะรายงานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) อย่างเป็นทางการในการประชุมวันที่ 17 พ.ย.68

ผอ.ณัฐพล กล่าวว่า สาเหตุของความเข้าใจคลาดเคลื่อนจำนวนมาก มาจากการที่สังคมเข้าใจว่าดีป้าเป็นองค์การมหาชนที่จัดตั้งตามพระราชกฤษฎีกาเหมือนหน่วยงานอื่น เช่น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ซึ่งใช้กรอบเวลา 120 วันในการสรรหา แต่ความจริงแล้วดีป้าไม่ใช่องค์กรประเภทนั้น การจัดตั้งดีป้าเกิดขึ้นจาก "พระราชบัญญัติเฉพาะ" หรือ พระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 ทำให้ไทม์ไลน์และขั้นตอนต้องดำเนินไปตามกฎหมายขององค์กร ไม่ได้ใช้ระเบียบเดียวกับองค์การมหาชนทั่วไป

"กฎหมายกำหนดชัดเจนว่า ก่อนผู้อำนวยการใหญ่คนปัจจุบันครบวาระ ต้องเริ่มกระบวนการสรรหาไม่น้อยกว่า 180 วัน ซึ่งดีป้าได้เริ่มกระบวนการล่วงหน้าเป็นปี และส่งเอกสารให้คณะกรรมการกำกับตั้งแต่ปี 2567 แล้ว จึงไม่เข้าเงื่อนไขความล่าช้าตามที่ถูกวิจารณ์" ผอ.ณัฐพล กล่าว

ส่วนของไทม์ไลน์ ผศ.ดร.ณัฐพล อธิบายว่า วาระของตนจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค.68 แต่ดีป้าเริ่มเตรียมเอกสาร แนวทางการสรรหา OKR และ KPI ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.67 ก่อนส่งเรื่องเข้าคณะกรรมการกำกับและเสนอรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรีได้เห็นชอบแนวทางการสรรหาเมื่อวันที่ 4 ต.ค.67 ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพิจารณาในชั้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ใช้เวลายาวนานกว่า 300 วัน ตามภาพไทม์ไลน์ที่องค์กรเผยแพร่ โดยไทม์ไลน์ดังกล่าวชี้ชัดว่าช่วงพิจารณาของ ครม. ใช้เวลา 313 วันเต็ม ก่อนที่ครม.จะมีมติเมื่อวันที่ 13 ส.ค.68 ซึ่งเป็นจุดที่เปิดทางให้กระบวนการสรรหาเดินหน้าได้อย่างเป็นทางการตามกฎหมาย

หลังจาก ครม. เห็นชอบแล้ว กระบวนการภายในหน่วยงานจึงเริ่มเดินหน้า โดยในวันที่ 15 ก.ย.68 คณะกรรมการได้รับทราบมติและออกหมายให้ดำเนินการแจ้งต่อคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน (กพม.) จากนั้นวันที่ 18 ก.ย.68 กพม. ได้รับแจ้งและอนุมัติให้ตั้งคณะกรรมการสรรหา ถือเป็นวันที่เริ่มนับหนึ่ง ของกระบวนการตามบทกฎหมายว่าด้วยการสรรหา ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องแล้วเสร็จภายใน 90 วัน และสามารถขยายได้อีก 60 วันถ้าจำเป็น โดยยืนยันว่า ยังอยู่ในกรอบเวลาที่กฎหมายเปิดทางครบทุกประการ ไม่ขัดต่อมติ ครม. และไม่จำเป็นต้องโอนอำนาจสรรหาให้คณะกรรมการองค์การมหาชนหรือ ครม. พิจารณาแทนตามที่บางฝ่ายกังวล

ตามข้อมูลในไทม์ไลน์ยังระบุว่า แม้ผู้อำนวยการจะหมดวาระในวันที่ 20 ก.ค.68 แต่กระบวนการสรรหาจะต้องเดินหน้าต่อเนื่องไปจนถึงเส้นตายในวันที่ 17 ธ.ค.68 ซึ่งเป็นครบกำหนด 90 วันตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด และถัดจากนั้น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และ กพม. ก็ได้ติดตามความคืบหน้าในวันที่ 17 ต.ค.68 เพื่อให้กระบวนการทุกช่วงดำเนินไปอย่างถูกต้องครบถ้วน ก่อนจะไปสิ้นสุดตามเส้นกำหนดในไทม์ไลน์อย่างเป็นทางการ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ศึกชิงเก้าอี้ ผอ.ใหญ่ ดีป้า คนในเชียร์ 3 ลูกหม้อตัวเต็ง
'ดีอี' สั่งเบรกสรรหา ผอ.ใหญ่ดีป้า หลังพบขั้นตอนไม่ถูกกฎหมาย


เมื่อถูกตั้งคำถามว่า ได้ทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการถึงกระทรวงดีอีหรือยัง ผศ.ดร.ณัฐพล ชี้แจงว่า คณะกรรมการกำกับและประธานกรรมการได้รับเอกสารชี้แจงทั้งหมดแล้ว ส่วนขั้นตอนการรายงานกระทรวงดีอีจะต้องนำเข้าสู่การประชุมด่วน เพื่อให้มีมติรับรองก่อนส่งต่อรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดประชุมในวันที่ 17 พ.ย.68 เวลา 10.00 น.

"ไม่ได้มีการหลบเลี่ยงหรือประวิงเวลา แต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง ภาพที่เห็นว่าล่าช้าจริงๆ เกิดจากการหยิบไทม์ไลน์ไปตีความไม่ครบ ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือดีป้าเริ่มกระบวนการตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว" ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว

นอกจากนี้ ผศ.ดร.ณัฐพล ยังชี้แจงถึงข้อสงสัยที่มีเสียงวิจารณ์ว่า เขาอาจมีบทบาทอยู่ในคณะกรรมการสรรหา ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อผลประโยชน์ทับซ้อนหรือบิดเบือนกระบวนการสรรหา โดยยืนยันว่า ผู้อำนวยการใหญ่ดีป้า ไม่มีสถานะเป็นกรรมการสรรหา และไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องกับการพิจารณาผู้สมัครได้เลย เพราะโครงสร้างคณะกรรมการสรรหาถูกกำหนดโดยคณะกรรมการกำกับเท่านั้น และผู้อำนวยการใหญ่ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม ไม่มีสิทธิ์ออกเสียง ไม่มีสิทธิ์กำกับเนื้อหาใดๆ ทั้งสิ้น

"ตามกฎหมาย ผู้อำนวยการใหญ่คือผู้ถูกสรรหา ไม่ใช่ผู้สรรหา จึงไม่เข้าข่ายปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนตามที่บางฝ่ายตั้งข้อสงสัย" ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว

อีกประเด็นที่ถูกจับตา คือ การประกาศรับสมัครที่หลายคนรู้สึกว่า เกิดขึ้นอย่างกระทันหันและมีช่วงเวลาสั้นเกินควร ผศ.ดร.ณัฐพล ยอมรับตรงไปตรงมาว่า ในช่วงการประชาสัมพันธ์มีความล่าช้าบางส่วนจริง โดยเกิดจากเจ้าหน้าที่หลักฝ่ายอำนวยการ ซึ่งรับผิดชอบงานเอกสารสรรหาป่วยกะทันหันและมีภาระครอบครัวจนไม่สามารถประสานงานได้ตามแผน ส่งผลให้ดีป้าตัดสินใจขยายเวลารับสมัครจากวันที่ 17 พ.ย.68 เป็น 21 พ.ย.68 เพื่อให้ผู้สนใจได้ส่งเอกสารครบถ้วน เป็นปัญหาเชิงงานเอกสาร ไม่ใช่การปิดข่าว ไม่ได้มีเจตนาเอื้อประโยชน์ผู้สมัครรายใด และไม่ได้กระทบต่อการนับเวลาในกระบวนการสรรหาตามกฎหมายที่กำหนด

ทั้งนี้ เนื่องจากกระบวนการสรรหาครั้งนี้มีประชาชนให้ความสนใจ ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการกำกับกำลังพิจารณานำโมเดลใหม่มาใช้ โดยเปิดให้ผู้สมัคร แสดงวิสัยทัศน์ต่อสาธารณะ (ไลฟ์สด) เพื่อสร้างความโปร่งใสสูงสุด ให้ประชาชนเห็นข้อมูลเท่าที่กฎหมายอนุญาต และให้คณะกรรมการใช้ประกอบการตัดสินใจ ซึ่งมองว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานการสรรหาผู้นำองค์กรด้านดิจิทัลของประเทศในอนาคต

"ส่วนตัวหมดวาระแล้วเมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 และได้ตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะไม่ขอต่ออายุ ไม่ขออยู่ยาว และเตรียมส่งมอบงานให้ผู้นำรุ่นใหม่อย่างสมบูรณ์ พร้อมช่วยให้คำปรึกษาหากองค์กรต้องการเท่านั้น ขอบคุณสังคมที่ติดตามและตรวจสอบ ให้คำมั่นว่าดีป้าจะรายงานทุกประเด็นอย่างโปร่งใส และจะดำเนินกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้ประเทศได้ผู้นำที่มีความสามารถและเหมาะสมที่สุด" ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น