ยังไม่เก็บภาษี OTT สหรัฐฯ! 'เอ็ตด้า' ชี้ไทยต้องชั่งเกมการค้าโลก ก่อนเดินหน้าเก็บภาษีบริการดิจิทัล หวั่นโดน 'One Big Beautiful Bill' สวนกลับ หากแตะบริษัทบิ๊กเทคแบบไม่รอบคอบ
ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ เอ็ตด้า เปิดเผยว่า ขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่มีการจัดเก็บภาษีบริการดิจิทัล จากแพลตฟอร์มต่างประเทศโดยตรง เช่น แพลตฟอร์ม OTT ของสหรัฐอเมริกา อาทิ Google, Facebook หรือ Netflix แม้จะมีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากผู้ให้บริการเหล่านี้แล้วก็ตาม
การเก็บภาษีดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อจัดเก็บกับแพลตฟอร์มต่างชาติยังไม่ได้เริ่มใช้จริง แม้จะมีการศึกษาเรื่องนี้บ้างแล้วโดยกรมสรรพากร ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลเรื่องภาษี ส่วนเอ็ตด้าเองมีบทบาทเพียงแค่ศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น
"ภาษีบริการดิจิทัลไม่ใช่แค่ประเด็นทางเทคนิค แต่มันโยงไปถึงการเมืองระหว่างประเทศโดยตรง ถ้าประเทศไทยจะเดินหน้าจัดเก็บภาษีแบบนี้จริง รัฐบาลจะต้องส่งสัญญาณชัดเจน เช่น การเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ซึ่งเท่าที่ทราบ กรมสรรพากรเองก็มีความพร้อมในระดับหนึ่งแล้ว
แต่อาจนำไปสู่แรงต้านหรือการตอบโต้ เพราะกฎหมายของสหรัฐฯ เปิดทางให้มีมาตรการตอบโต้ทางการค้า หากพบว่า มีประเทศใดพยายามเก็บภาษีจากแพลตฟอร์มของตนโดยไม่เป็นธรรม เช่น กฎหมายที่เรียกว่า One Big Beautiful Bill ที่ระบุไว้ชัดว่า หากประเทศใดออกมาตรการภาษีที่กระทบกับบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ สหรัฐฯ สามารถโต้กลับได้ทันที" ดร.ชัยชนะ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะมี พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ภาษีส่วนเพิ่ม ที่ครอบคลุมแพลตฟอร์มต่างชาติ และมีผลบังคับใช้แล้ว แต่ก็ยังต้องรอดูการใช้จริงตามรอบภาษี และหากมีข้อตกลงทางการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่อาจขัดแย้งกับกฎหมายนี้ ก็อาจต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง
เมื่อถูกถามว่า การที่ไทยยังไม่เดินหน้าเรื่องภาษีดิจิทัลเต็มรูปแบบ ถือเป็นการยอมมากเกินไปหรือไม่ ดร.ชัยชนะ กล่าวว่า เขาเองไม่ได้มีส่วนร่วมในเวทีเจรจาโดยตรง จึงไม่อาจทราบได้ว่ามีประเด็นใดบ้างที่อยู่บนโต๊ะเจรจาบ้าง แต่เชื่อว่าการตัดสินใจใดๆ ต้องพิจารณาจากผลประโยชน์ภาพรวมเป็นหลัก
"บางเรื่องเราอาจต้องยอม เพื่อแลกกับผลประโยชน์ในเรื่องอื่นที่ใหญ่กว่า เช่น ถั่วเหลืองหรือสินค้าเกษตรที่อ่อนไหว ซึ่งทั้งหมดต้องชั่งน้ำหนักร่วมกันว่าประเทศได้หรือเสียมากกว่ากัน" ดร.ชัยชนะ กล่าว
                    

