xs
xsm
sm
md
lg

'เอ็ตด้า' เด้งรับ 'ไชยชนก' จับมือ กขค. เคลียร์อำนาจคุมค่าจีพีแพลตฟอร์ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'เอ็ตด้า' เด้งรับ 'ไชยชนก' เร่งถก กขค. เคลียร์อำนาจคุมค่าจีพี หวั่นแพลตฟอร์มฮุบตลาด ดันกฎหมายธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์-เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม หนุนตราสารดิจิทัล-กำกับแพลตฟอร์มเรียกรถ จ่อสรุปท่าทีรัฐบาลภายในสัปดาห์หน้า

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ เอ็ตด้า เปิดเผยว่า ขณะนี้ เอ็ตด้าอยู่ระหว่างการศึกษานโยบายการกำกับดูแลค่าจีพี (GP) ตามที่ได้รับมอบหมายจาก นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดยต้องหารือกับคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เพื่อประเมินความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการใช้อำนาจกำกับดูแล ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาใน 2 มิติสำคัญ

ประการที่ 1 คือ การตรวจสอบว่า คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของเอ็ตด้า มีอำนาจตามกฎหมายเพียงพอในการกำหนดค่าจีพีหรือไม่ และประการที่ 2 คือ การประเมินบทบาทของ กขค. ว่าจะสามารถใช้อำนาจของตนในการเข้ามากำกับดูแลกรณีค่าจีพีได้หรือไม่ โดยทั้งสองหน่วยงานจะต้องประสานและหารือร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดแนวทางการกำกับดูแลให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรม

ดร.ชัยชนะ ยกตัวอย่างว่า หากแพลตฟอร์มมีการขึ้นค่าจีพีจนส่งผลให้ร้านค้าไม่มีทางเลือกอื่น เช่น ไม่สามารถย้ายไปเปิดร้านในแพลตฟอร์มอื่นได้ ก็อาจเข้าข่ายการใช้อำนาจเหนือตลาดที่ไม่เป็นธรรม และอาจต้องใช้กลไกของกฎหมายการแข่งขันทางการค้าเข้ามาควบคุม อย่างไรก็ตาม หากร้านค้ายังมีทางเลือกอื่น เช่น สามารถย้ายไปใช้แพลตฟอร์มอื่นได้ ก็อาจไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ทั้งหมดนี้จึงต้องประเมินอย่างรอบด้านและอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงที่ชัดเจน

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ยังมอบหมายให้เอ็ตด้าติดตามการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับแพลตฟอร์มไรเดอร์รับส่งคน ซึ่งประกาศโดยคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.68 โดยเอ็ตด้าอยู่ระหว่างการหารือกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อประเมินข้อจำกัดในการปฏิบัติตามกฎหมาย พร้อมทั้งหาแนวทางอำนวยความสะดวกให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมข้อมูล

ดร.ชัยชนะ กล่าวว่า ปัจจุบันมีร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องสำคัญ 2 ฉบับที่ยังค้างอยู่ในขั้นตอนของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติเศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล พ.ศ. ... ซึ่งเสนอโดยสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) แม้ไม่ใช่กฎหมายที่เสนอโดยเอ็ตด้าโดยตรง แต่มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับบทบาทหน้าที่ของเอ็ตด้า และ กขค. เพราะครอบคลุมถึงทั้งเนื้อหาออนไลน์และการแข่งขันทางการค้าในระบบดิจิทัล

อีกหนึ่งฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่เอ็ตด้าเสนอโดยตรง มีเป้าหมายเพื่ออัปเดตกฎหมายให้สอดคล้องกับกฎหมายแม่บทของสหประชาชาติ (UN) โดยเฉพาะเรื่องของตราสารเปลี่ยนมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น เช็ค หรือใบหุ้น ที่สามารถสลักหลังและโอนสิทธิ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายยังไม่มีมาตรารองรับโดยตรง จึงได้มีการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมไว้แล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการผลักดันเข้าสู่การพิจารณา

ทั้ง 2 ร่างกฎหมายนี้ถือว่าอยู่ในนโยบายข้อ 15 ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งแถลงโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดย ดร.ชัยชนะ ระบุว่า อยากให้กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เดินหน้าอย่างรวดเร็ว ขณะที่ ร่างกฎหมายเศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลอาจต้องพิจารณาเชิงนโยบายให้รอบด้านก่อนจะตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง

"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ยังไม่ได้รับทราบรายละเอียดเชิงลึกของสถานการณ์ทั้งหมด เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อนัดหมายหารือกับเอ็ตด้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถหารืออย่างเป็นทางการได้ภายในสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าไม่เกินสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ เมื่อสามารถสรุปภาพรวมได้อย่างครบถ้วนแล้ว ก็จะมีความชัดเจนในการผลักดันนโยบายสำคัญสู่การปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมในระยะต่อไป" ดร.ชัยชนะ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น