xs
xsm
sm
md
lg



ปฐม นำทัพ SVOA ชิงตลาด AI แสนล้าน (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





"ปฐม อินทโรดม" กรรมการผู้จัดการ SVOA ประกาศวิสัยทัศน์ทิศทางใหม่ปรับธุรกิจ SVOA ไปสู่ตลาดโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตั้งเป้ารายได้ 10% ของรายได้รวมมาจาก Digital Solution ภายในปี 69 กางแผนลุย 3 กลุ่มหลัก โรงแรม-โรงพยาบาล-ค้าปลีก แย้มลงทุนสร้างแล็บร่วมมือกับสตาร์ทอัปพัฒนาระบบคะแนนสุขภาพสำหรับนำไปใช้กำหนดเบี้ยประกัน วางยุทธศาสตร์ชูพาร์ทเนอร์ AI จีนเป็นทางเลือกเพิ่มความหลากหลาย

นายปฐม อินทโรดม กรรมการผู้จัดการ SVOA กล่าวถึงทิศทางใหม่ SVOA ซึ่งดำเนินธุรกิจมา 44 ปี ว่าได้เปลี่ยนวิสัยทัศน์ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัล โดยการปรับเปลี่ยนครั้งนี้เป็นทางรุ่ง ไม่ใช่แค่ทางรอด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้ถูกขับเคลื่อนโดยการมาถึงของ AI ซึ่ง SVOA เห็นเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับธุรกิจให้แข่งขันได้ในระดับโลก

"คนทำธุรกิจในปัจจุบัน ถูกบีบให้ไปแข่งขันในระดับโลก ตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ถูกกำหนดด้วย World Ranking เช่น มหาวิทยาลัยที่ถูกแรงกดดันให้ต้องติดอันดับ Top 500 หรือ Top 100 ของโลก โรงพยาบาลก็มีแรงกดดันแบบเดียวกัน รวมถึงร้านอาหารที่ต้องถูกประเมินด้วยการให้คะแนน การถูกบีบให้แข่งขันระดับโลกนี้ประจวบเหมาะกับการมาของ AI ซึ่ง SVOA มองว่าเป็นโอกาสในการยกระดับธุรกิจ SVOA จึงมุ่งเน้นการขยายตัวไปยังธุรกิจขนาดกลาง (SMB) ใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ โรงแรม โรงพยาบาล และค้าปลีก ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเปลี่ยนผ่านและมีเจ้าของเป็นรุ่นหลาน ที่พร้อมรับเทคโนโลยี"

SVOA หรือ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) นั้นเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีจำนวนพนักงานกว่า 700 คน จากที่ก่อตั้งใน พ.ศ. 2524 ธุรกิจหลักของบริษัทครอบคลุมตั้งแต่การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอที ขายทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก อุปกรณ์ต่อพ่วง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์แบรนด์ SVOA ของตัวเอง ปัจจุบันมีการทำงานผ่านเครือข่าย SI (System Integrator) และดีลเลอร์กว่า 300 รายทั่วประเทศ ทำรายได้ราว 4,800 ล้านบาทต่อปี ซึ่งหากรวมบริษัทในเครือที่ต้องนำมารวมงบ เช่น DataOne, IT City และอื่นๆ รายได้รวมจะอยู่ที่ระดับหมื่นล้านบาท


ปฐม อินทโรดม กรรมการผู้จัดการ SVOA
สำหรับเป้าหมายรายได้ใหม่ SVOA ที่คาดหวังว่ารายได้จาก Digital Solution จะมีสัดส่วน 10% ของรายได้รวมภายในปี 69 เป้าหมายนี้ไม่เกินจริงเพราะการสำรวจล่าสุดพบว่าองค์กรไทยกว่า 73% มีแผนลงทุน AI ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า โดยมูลค่าตลาด AI ไทยคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 28% ต่อปี จนแตะระดับ 114,000 ล้านบาท


***สร้างแล็บใหม่ ชู AI ทางเลือก


ปฐมระบุว่าได้วางยุทธศาสตร์ในการปรับเปลี่ยนบริษัทสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัล และให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี AI ในหลายด้าน ซึ่งไม่เพียงจะมุ่งจับมือกับพันธมิตร เช่น Huawei, SuperMicro, Graid, Netka, MSI และ Gigabyte เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันขององค์กรไทยทั้งในประเทศและในภูมิภาค แต่ยังมีการลงทุนสร้าง "แล็บ" ในโปรเจ็กต์การพัฒนาระบบ Health Scoring ที่ SVOA ได้ใช้เงินทุนของบริษัทสำหรับการทำ POC (Proof of Concept) ผ่านการดำเนินโครงการร่วมกับสตาร์ทอัปซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างคนไทยและสิงคโปร์


ปฐมเล่าว่า Health Scoring คือแนวคิดใหม่ในอุตสาหกรรมการประกันสุขภาพ ถือเป็นแนวคิดใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประเทศไทยและเป็นเรื่องใหม่สำหรับสิงคโปร์ เป้าหมายคือเพื่อนำไปใช้ในการกำหนดเบี้ยประกัน ซึ่งผู้ที่ได้รับการประเมินคะแนนสุขภาพดี จะสามารถจ่ายเบี้ยประกันในราคาที่ดีกว่า ดังนั้นจึงต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำ Health Scoring ทั้งแหล่งข้อมูลจากอุปกรณ์ติดตามตัว (Wearable Devices) เช่นนาฬิกาอัจฉริยะ รวมถึงข้อมูลจากระบบ IoT ในบ้าน


"ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมารวมกัน โดยได้รับความยินยอมจากลูกค้าเพื่อวิเคราะห์เป็นคะแนน ความท้าทายคือโปรเจ็กต์นี้ต้องใช้เวลาในการเจรจากับผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเปิด Gateway และโยนข้อมูลขึ้นไปยังคลาวด์ ซึ่งขั้นตอนมีความซับซ้อนและใช้เวลา เนื่องจากมีอุปกรณ์หลากหลายยี่ห้อ เช่น Apple, Samsung, Huawei แต่หากสำเร็จ ก็จะมี Health Profile ของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง"


มูลค่าตลาด AI ไทยคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 28% ต่อปี จนแตะระดับ 114,000 ล้านบาท?
ยุทธศาสตร์ต่อมาคือการใช้โครงสร้างพื้นฐาน AI และพาร์ทเนอร์ SVOA วางแผนใช้โครงสร้างพื้นฐาน AI โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทั้งฝั่งซีกโลกตะวันตกและตะวันออก เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และรองรับความหลากหลายทางเทคโนโลยี ในส่วนการร่วมมือกับ Huawei ปฐมมองว่า Huawei เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและระบบเครือข่ายที่มีอิทธิพลในตลาด บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ AI Infrastructure ของจีน และสนับสนุนให้องค์กรไทยกระจายการทำงานไปยังแพลตฟอร์มของ Huawei เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ดีและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน


***ใช้งานได้จริง


ปฐมยกตัวอย่างการนำกล้องวงจรปิดมาทำ Image Processing เพื่อตรวจจับการกระทำผิดกฎจราจร เช่น การป้องกันการขี่มอเตอร์ไซค์บนทางเท้า หรือการนำภาพถ่ายสแกนม่านตาเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงอัลไซเมอร์ในอนาคต ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ที่มีประโยชน์ในด้านการเตรียมป้องกันไว้ก่อน และในบริบทของเทคโนโลยี เทคโนโลยีนี้ถือเป็นหนึ่งในโซลูชันด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีการยืนยันในประเทศจีนแล้วว่าทำงานได้จริง


ในอีกด้าน SVOA ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Supermicro แบรนด์ที่มีความเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดอย่าง TSMC เพื่อให้เกิดการนำเสนอ Server ที่รองรับ AI ในหลายระดับราคา ทำให้ SVOA มีโซลูชัน AI ตั้งแต่ระดับราคาหลักแสนบาท ไปจนถึงระดับองค์กรขนาดใหญ่ โดย Huawei นำเสนอโซลูชันระดับ 10-20 ล้านบาท สำหรับ LLM ขนาดใหญ่ในองค์กร ในขณะที่ Supermicro เสนอโซลูชันที่ย่อมเยาลงมาในระดับ 4-5 ล้านบาท


ในภาพรวม การปรับตัวของ SVOA จะเน้นการขยายตัวไปที่กลุ่มลูกค้าที่เป็น SMB ขนาดกลาง โดยโฟกัสกลุ่มโรงแรมขนาด 50-150 ห้อง ปัจจัยสนับสนุนคือสถานการณ์ที่ IT กลายเป็นแกนกลางสำคัญในห้องพัก ยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงที่มีความอัจฉริยะสะดวกสบายมากขึ้น เช่น ระบบที่สามารถปรับอุณหภูมิหรือผ้าม่านตามความชอบของลูกค้าได้ล่วงหน้า


นอกจากนี้ SVOA ยังมุ่งโฟกัสที่โรงพยาบาลขนาดกลาง ทั้งเอกชนและรัฐ รวมถึงอุตสาหกรรมค้าปลีกไซส์กลาง ที่เป็นร้านค้าที่ดูแลโดยรุ่นหลาน ซึ่งพร้อมใช้งานเทคโนโลยี เช่น กล้องวงจรปิด และ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพื่อให้รู้สินค้าที่ได้รับความนิยม และป้องกันการทุจริตของพนักงาน


ที่สุดแล้ว ปฐมมองว่าการปรับตัวของ SVOA จะไม่ช้าเกินไป เพราะการทำ Digital Transformation นั้นกินระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 เฟส ซึ่งจากเฟสแรกที่องค์กรไทยเริ่มลองผิดลองถูกจนมีโปรเจกต์ล้มเหลวไปเกือบ 50% วันนี้หลายองค์กรเริ่มเข้าเฟสที่ 2 ซึ่งทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วมมากขึ้น และเฟสที่ 3 ที่การมาของ AI จะไม่เพียงแต่ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนองค์กรได้.





กำลังโหลดความคิดเห็น