ฝ่าด่านหินมาครึ่งทางแล้วกับการแข่งขัน True CyberSafe x TrueMoney Hackathon Thailand 2025 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Hack for a Safer Digital Life’ ที่ทรู คอร์ปอเรชั่น ทรูมันนี่ และพันธมิตรชั้นนำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เปิดโอกาสให้ นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้โชว์พลังความคิดสร้างสรรค์ สร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยกว่าเดิม...จากผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 400 คน ใน 89 ทีม คณะกรรมการ ได้คัดเลือก 30 ทีมเข้าสู่รอบไฟนอล ได้แก่ 15 ทีมจากระดับอุดมศึกษา และอีก 15 ทีมจากระดับประชาชนทั่วไปหรือสตาร์ทอัพ ซึ่งทุกทีมต้องผ่านสมรภูมิ Hack Day สุดเข้มข้น รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากเหล่าเมนเทอร์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเค้นศักยภาพไอเดีย ก่อนขึ้นเวทีนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการ ซึ่งล่าสุด ได้ประกาศทีมผู้ชนะในระดับมหาวิทยาลัย พร้อมมอบทุนแก่ทีมระดับบุคคลทั่วไป เพื่อนำไปพัฒนาเป็นนวัตกรรมจริง ต่อยอดธุรกิจเจาะตลาด Crime Tech ที่กำลังเติบโตสูง

3 ทีมแชมป์ สร้างเทคฯ จากอินไซต์ ชนะภัยไซเบอร์เพื่อสังคมที่ดีกว่า
บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น โดยนายเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล และ (รักษาการ) หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น และนายสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด มอบรางวัลแก่ทีมผู้ชนะในระดับอุดมศึกษา โครงการ True CyberSafe x TrueMoney Hackathon Thailand 2025 ได้แก่
1. ชนะเลิศอันดับ 1: ทีม Zero to Hero กับ ไอเดีย ‘คิดเซฟเพื่อ KidSafe’ นวัตกรรมปกป้องลูกจากภัยไซเบอร์ ที่ผู้ปกครองไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว เห็นเพียงข้อมูลภาพรวมเท่านั้น สร้างความเข้าใจและการสื่อสารที่ดีในครอบครัว โดยแอปพลิเคชันมีแนวคิดและฟีเจอร์หลัก ดังนี้
• Safe View: ใช้ AI ตรวจสอบและกรองเนื้อหาที่มีความเสี่ยง พร้อมระบบตรวจสอบ Malware หากพบเนื้อหาที่เป็นอันตรายและมีความเสี่ยง แอปพลิเคชันจะทำการบล็อคเนื้อหาและแจ้งเตือนผู้ปกครองทันที ซึ่งผู้ปกครองสามารถปลดล็อคการเข้าถึงเนื้อหาได้ หากพบว่าเป็นเนื้อหาที่ไม่มีความเสี่ยง
• Smart Learn: ใช้ข้อความแจ้งเตือนบนหน้าจอ และคำถาม Self-Check โดยใช้หลัก Digital Nudging เพื่อกระตุ้นให้เกิดการ ‘คิดก่อนคลิก’ กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยไม่จำกัดทางเลือก ตามหลักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม (Behavioral Economics)
• Support Guide: จากการเก็บสถิติการเข้าถึงเนื้อหาที่มีความเสี่ยง KidSafe จะช่วยให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับความเสี่ยงที่พบ รวมถึงให้คำแนะนำในการสร้างภูมิคุ้นกันออนไลน์เพื่อปกป้องเยาวชนจากภัยไซเบอร์
ทีม Zero to Hero เป็นการรวมตัวของน้องๆ นักศึกษาข้ามทวีป ในช่วงปิดเทอม จาก University of Manchester, National Tsing Hua University, Korea Advanced Institute of Science & Technology และ University of California, Irvine


2. รองชนะเลิศอันดับ 1: ทีม กบกบกบกบ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับไอเดีย Cyber Master เกม PvP เนื้อเรื่องสุดมันที่ให้ผู้เล่นสวมบททั้ง “นักต้มตุ๋น” และ “เหยื่อ” เพื่อเรียนรู้และเอาชนะภัยไซเบอร์ ผ่านการจำลองสถานการณ์หลอกลวงออนไลน์แบบอินเทอร์แอ็กทีฟ ผู้เล่นสามารถเลือกโจมตีด้วยวิธีต่างๆ เช่น ฟิชชิ่ง ส่งแจ้งเตือนไปยังเป้าหมาย และเก็บรางวัลหากอีกฝ่ายพลาดท่า หรือป้องกันโดยตอบสนองต่อข้อความหลอกลวงผ่านตัวเลือกที่กำหนด ซึ่งจะนำไปสู่ตอนจบและรางวัลที่หลากหลาย เสริมด้วยระบบ Level Badge และแคมเปญ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เรียนรู้การรับมือภัยไซเบอร์อย่างสนุกและได้ผลจริง


3. รองชนะเลิศอันดับ 2: ทีม Lame(on) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับไอเดีย Ditto Solution ป้องกันภัยออนไลน์ครบวงจร มาพร้อม 3 ฟีเจอร์ ได้แก่ 1) Ditto Dummy จัดกลุ่มผู้ใช้ตามความเสี่ยง 2) Ditto AI ให้คำปรึกษา และ 3) Ditto Report รายงานการหลอกลวงจากทุกช่องทาง
1) Ditto Dummy: ใช้คลังข้อมูลหลอกลวงจาก True CyberSafe มาวิเคราะห์และจัดกลุ่มผู้ใช้ตามจุดอ่อน พร้อมปรับข้อความเตือนให้ตรงกับประสบการณ์ของคนแต่ละกลุ่ม ชี้ให้เห็นว่า “นี่คือกับดักที่พบบ่อยและคุณคือเป้าหมาย” พร้อมย้ำพฤติกรรมของมิจฉาชีพ กระตุ้นให้ปิดเว็บทันที
2) Ditto AI & Report: “ลดความประมาท” (Tackle overconfidence) ป้องกัน Gen Z ที่เกิดมาพร้อมความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยี ช่วยให้พวกเขารู้จุดอ่อนทางเทคโนโลยีของตนเอง ด้วยการใช้ AI วิเคราะห์ และแสดงรายงานระบุจำนวนครั้งที่คลิกเว็บอันตราย จำนวนครั้งที่หลีกเลี่ยงการถูกหลอก ความใกล้เข้าสู่การตกเป็นเหยื่อ และระดับความเสี่ยง เพื่อกระตุ้น สร้างความตระหนักรู้และปรับพฤติกรรมก่อนสาย


นอกจากนี้ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยผศ.ดร. ภัทรวรรณ ประสานพานิช อาจารย์สาขาวิชาการปฏิบัติการและเทคโนโลยี ยังมอบรางวัลพิเศษ “Psychology Insights” ให้แก่ 3 ทีม ที่มีการวิเคราะห์พฤติกรรมและจิตวิทยากลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง อันนำไปสู่กลยุทธ์ที่โดดเด่น ได้แก่
• ทีม Family Guard จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี - วิเคราะห์ความรู้สึกและความกังวลของกลุ่ม Gen X และ Gen Y ที่ต้องดูแลทั้งบุตรหลานและผู้สูงอายุ แต่ไม่สามารถควบคุมหรือรับรู้ความเสี่ยงภัยไซเบอร์ของคนในครอบครัวได้ตลอดเวลา จึงได้นำเสนอไอเดีย Family Guard AI ระบบปกป้องครอบครัวจากเว็บไซต์เสี่ยง พร้อมแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์
• ทีม KidD.DevD. (คิดดี DEVดี) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น - วิเคราะห์พฤติกรรมเด็กและเยาวชนที่เสี่ยงต่อการถูกโกงออนไลน์ และมักไม่ได้รับคำแนะนำหรือการช่วยเหลือจากผู้ปกครอง นำเสนอแนวคิด AskMeFirst พร้อมฟีเจอร์ Hold 5 Minute ให้เด็กได้พิจารณาและมีผู้ปกครองคัดกรองอีกชั้นก่อนทำธุรกรรมหรือตัดสินใจดำเนินการใดๆ ปกป้องเด็กจากการหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ทีม True Wallet Lock Pay จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ - วิเคราะห์พฤติกรรมของเด็กและผู้สูงอายุที่เสี่ยงตกเป็นเหยื่อการหลอกเติมเงินและหลอกลงทุน จึงเสนอแนวคิด True Wallet Lock Pay กระเป๋าเงินร่วมที่มีผู้ดูแลช่วยตรวจสอบและอนุมัติธุรกรรม ลดความเสี่ยงการสูญเงิน และเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งผู้ดูแลและผู้ใช้งาน

ทีมระดับประชาชนทั่วไป/ สตาร์ทอัพ คว้าทุนเร่งต่อยอดนวัตกรรมและธุรกิจรับมือภัยไซเบอร์
ในงาน Hack Day ครั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น และทรู มันนี่ ยังประกาศ 6 ทีมสุดท้ายในระดับธุรกิจสตาร์ทอัพและประชาชนทั่วไปที่ได้รับเงินทุนพัฒนานวัตกรรม นำไอเดียมาต่อยอดเพื่อพัฒนาเป็นโซลูชันที่สามารถใช้งานได้จริง พร้อมโอกาสบุกตลาด Crime Tech ที่ยังเปิดกว้าง ได้แก่

ตอบโจทย์ใช้อินเทอร์เน็ตปลอดภัย
1. ทีม Scamfity นำเสนอไอเดีย PageSeeker – AI ค้นหาและตรวจจับเพจปลอมบนโซเชียล มีเดีย พร้อมแจ้งเตือนลูกค้าทรูที่เสี่ยงถูกหลอก
2. ทีม Sudo Protect Me นำเสนอไอเดีย Family Net Shield – เราเตอร์อัจฉริยะ ควบคุมเวลาใช้งาน พร้อมวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานรายบุคคล
3. ทีม แพรวา No.1 นำเสนอไอเดีย SCALL – AI ตรวจจับบทสนทนาทางโทรศัพท์ว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ด้วยแนวคิดปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
ตอบโจทย์ใช้เงินปลอดภัย
1. ทีม นิ่งว้ายยยยย นำเสนอไอเดีย Uncle Watch – ฟีเจอร์ให้ลูกหลานตรวจเช็กการใช้งานและธุรกรรมของผู้สูงอายุ มีคนใกล้ตัวช่วยสอดส่องภัยมิจฉาชีพ เพื่อให้ทุกการใช้จ่ายเป็นไปอย่างปลอดภัย
2. ทีม True Hold Pay นำเสนอไอเดีย Escrow Wallet – บัญชีตัวกลางพักเงินใน TrueMoney Wallet สร้างความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือให้การซื้อขายบนโซเชียลคอมเมิร์ซ
3. ทีม THEN นำเสนอไอเดีย. THEN – แชตบอตช่วยเหยื่อที่ถูกหลอกโอนเงินผ่านแชต รวบรวมข้อมูลและสร้างใบแจ้งความอัตโนมัติ ลดขั้นตอนและเวลาการเตรียมหลักฐาน
ทั้งนี้ สำหรับ 6 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในระดับประชาชนทั่วไป หรือสตาร์ทอัพ จะมีการจัด Final Pitch Day นำเสนอผลงานและตัดสินผู้ชนะอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ ติดตามความเคลื่อนไหวและดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ “True CyberSafe x TrueMoney Hackathon Thailand 2025” ได้ที่เฟซบุ๊ก True Lab
3 ทีมแชมป์ สร้างเทคฯ จากอินไซต์ ชนะภัยไซเบอร์เพื่อสังคมที่ดีกว่า
บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น โดยนายเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล และ (รักษาการ) หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น และนายสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด มอบรางวัลแก่ทีมผู้ชนะในระดับอุดมศึกษา โครงการ True CyberSafe x TrueMoney Hackathon Thailand 2025 ได้แก่
1. ชนะเลิศอันดับ 1: ทีม Zero to Hero กับ ไอเดีย ‘คิดเซฟเพื่อ KidSafe’ นวัตกรรมปกป้องลูกจากภัยไซเบอร์ ที่ผู้ปกครองไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว เห็นเพียงข้อมูลภาพรวมเท่านั้น สร้างความเข้าใจและการสื่อสารที่ดีในครอบครัว โดยแอปพลิเคชันมีแนวคิดและฟีเจอร์หลัก ดังนี้
• Safe View: ใช้ AI ตรวจสอบและกรองเนื้อหาที่มีความเสี่ยง พร้อมระบบตรวจสอบ Malware หากพบเนื้อหาที่เป็นอันตรายและมีความเสี่ยง แอปพลิเคชันจะทำการบล็อคเนื้อหาและแจ้งเตือนผู้ปกครองทันที ซึ่งผู้ปกครองสามารถปลดล็อคการเข้าถึงเนื้อหาได้ หากพบว่าเป็นเนื้อหาที่ไม่มีความเสี่ยง
• Smart Learn: ใช้ข้อความแจ้งเตือนบนหน้าจอ และคำถาม Self-Check โดยใช้หลัก Digital Nudging เพื่อกระตุ้นให้เกิดการ ‘คิดก่อนคลิก’ กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยไม่จำกัดทางเลือก ตามหลักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม (Behavioral Economics)
• Support Guide: จากการเก็บสถิติการเข้าถึงเนื้อหาที่มีความเสี่ยง KidSafe จะช่วยให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับความเสี่ยงที่พบ รวมถึงให้คำแนะนำในการสร้างภูมิคุ้นกันออนไลน์เพื่อปกป้องเยาวชนจากภัยไซเบอร์
ทีม Zero to Hero เป็นการรวมตัวของน้องๆ นักศึกษาข้ามทวีป ในช่วงปิดเทอม จาก University of Manchester, National Tsing Hua University, Korea Advanced Institute of Science & Technology และ University of California, Irvine
2. รองชนะเลิศอันดับ 1: ทีม กบกบกบกบ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับไอเดีย Cyber Master เกม PvP เนื้อเรื่องสุดมันที่ให้ผู้เล่นสวมบททั้ง “นักต้มตุ๋น” และ “เหยื่อ” เพื่อเรียนรู้และเอาชนะภัยไซเบอร์ ผ่านการจำลองสถานการณ์หลอกลวงออนไลน์แบบอินเทอร์แอ็กทีฟ ผู้เล่นสามารถเลือกโจมตีด้วยวิธีต่างๆ เช่น ฟิชชิ่ง ส่งแจ้งเตือนไปยังเป้าหมาย และเก็บรางวัลหากอีกฝ่ายพลาดท่า หรือป้องกันโดยตอบสนองต่อข้อความหลอกลวงผ่านตัวเลือกที่กำหนด ซึ่งจะนำไปสู่ตอนจบและรางวัลที่หลากหลาย เสริมด้วยระบบ Level Badge และแคมเปญ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เรียนรู้การรับมือภัยไซเบอร์อย่างสนุกและได้ผลจริง
3. รองชนะเลิศอันดับ 2: ทีม Lame(on) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับไอเดีย Ditto Solution ป้องกันภัยออนไลน์ครบวงจร มาพร้อม 3 ฟีเจอร์ ได้แก่ 1) Ditto Dummy จัดกลุ่มผู้ใช้ตามความเสี่ยง 2) Ditto AI ให้คำปรึกษา และ 3) Ditto Report รายงานการหลอกลวงจากทุกช่องทาง
1) Ditto Dummy: ใช้คลังข้อมูลหลอกลวงจาก True CyberSafe มาวิเคราะห์และจัดกลุ่มผู้ใช้ตามจุดอ่อน พร้อมปรับข้อความเตือนให้ตรงกับประสบการณ์ของคนแต่ละกลุ่ม ชี้ให้เห็นว่า “นี่คือกับดักที่พบบ่อยและคุณคือเป้าหมาย” พร้อมย้ำพฤติกรรมของมิจฉาชีพ กระตุ้นให้ปิดเว็บทันที
2) Ditto AI & Report: “ลดความประมาท” (Tackle overconfidence) ป้องกัน Gen Z ที่เกิดมาพร้อมความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยี ช่วยให้พวกเขารู้จุดอ่อนทางเทคโนโลยีของตนเอง ด้วยการใช้ AI วิเคราะห์ และแสดงรายงานระบุจำนวนครั้งที่คลิกเว็บอันตราย จำนวนครั้งที่หลีกเลี่ยงการถูกหลอก ความใกล้เข้าสู่การตกเป็นเหยื่อ และระดับความเสี่ยง เพื่อกระตุ้น สร้างความตระหนักรู้และปรับพฤติกรรมก่อนสาย
นอกจากนี้ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยผศ.ดร. ภัทรวรรณ ประสานพานิช อาจารย์สาขาวิชาการปฏิบัติการและเทคโนโลยี ยังมอบรางวัลพิเศษ “Psychology Insights” ให้แก่ 3 ทีม ที่มีการวิเคราะห์พฤติกรรมและจิตวิทยากลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง อันนำไปสู่กลยุทธ์ที่โดดเด่น ได้แก่
• ทีม Family Guard จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี - วิเคราะห์ความรู้สึกและความกังวลของกลุ่ม Gen X และ Gen Y ที่ต้องดูแลทั้งบุตรหลานและผู้สูงอายุ แต่ไม่สามารถควบคุมหรือรับรู้ความเสี่ยงภัยไซเบอร์ของคนในครอบครัวได้ตลอดเวลา จึงได้นำเสนอไอเดีย Family Guard AI ระบบปกป้องครอบครัวจากเว็บไซต์เสี่ยง พร้อมแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์
• ทีม KidD.DevD. (คิดดี DEVดี) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น - วิเคราะห์พฤติกรรมเด็กและเยาวชนที่เสี่ยงต่อการถูกโกงออนไลน์ และมักไม่ได้รับคำแนะนำหรือการช่วยเหลือจากผู้ปกครอง นำเสนอแนวคิด AskMeFirst พร้อมฟีเจอร์ Hold 5 Minute ให้เด็กได้พิจารณาและมีผู้ปกครองคัดกรองอีกชั้นก่อนทำธุรกรรมหรือตัดสินใจดำเนินการใดๆ ปกป้องเด็กจากการหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ทีม True Wallet Lock Pay จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ - วิเคราะห์พฤติกรรมของเด็กและผู้สูงอายุที่เสี่ยงตกเป็นเหยื่อการหลอกเติมเงินและหลอกลงทุน จึงเสนอแนวคิด True Wallet Lock Pay กระเป๋าเงินร่วมที่มีผู้ดูแลช่วยตรวจสอบและอนุมัติธุรกรรม ลดความเสี่ยงการสูญเงิน และเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งผู้ดูแลและผู้ใช้งาน
ทีมระดับประชาชนทั่วไป/ สตาร์ทอัพ คว้าทุนเร่งต่อยอดนวัตกรรมและธุรกิจรับมือภัยไซเบอร์
ในงาน Hack Day ครั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น และทรู มันนี่ ยังประกาศ 6 ทีมสุดท้ายในระดับธุรกิจสตาร์ทอัพและประชาชนทั่วไปที่ได้รับเงินทุนพัฒนานวัตกรรม นำไอเดียมาต่อยอดเพื่อพัฒนาเป็นโซลูชันที่สามารถใช้งานได้จริง พร้อมโอกาสบุกตลาด Crime Tech ที่ยังเปิดกว้าง ได้แก่
ตอบโจทย์ใช้อินเทอร์เน็ตปลอดภัย
1. ทีม Scamfity นำเสนอไอเดีย PageSeeker – AI ค้นหาและตรวจจับเพจปลอมบนโซเชียล มีเดีย พร้อมแจ้งเตือนลูกค้าทรูที่เสี่ยงถูกหลอก
2. ทีม Sudo Protect Me นำเสนอไอเดีย Family Net Shield – เราเตอร์อัจฉริยะ ควบคุมเวลาใช้งาน พร้อมวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานรายบุคคล
3. ทีม แพรวา No.1 นำเสนอไอเดีย SCALL – AI ตรวจจับบทสนทนาทางโทรศัพท์ว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ด้วยแนวคิดปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
ตอบโจทย์ใช้เงินปลอดภัย
1. ทีม นิ่งว้ายยยยย นำเสนอไอเดีย Uncle Watch – ฟีเจอร์ให้ลูกหลานตรวจเช็กการใช้งานและธุรกรรมของผู้สูงอายุ มีคนใกล้ตัวช่วยสอดส่องภัยมิจฉาชีพ เพื่อให้ทุกการใช้จ่ายเป็นไปอย่างปลอดภัย
2. ทีม True Hold Pay นำเสนอไอเดีย Escrow Wallet – บัญชีตัวกลางพักเงินใน TrueMoney Wallet สร้างความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือให้การซื้อขายบนโซเชียลคอมเมิร์ซ
3. ทีม THEN นำเสนอไอเดีย. THEN – แชตบอตช่วยเหยื่อที่ถูกหลอกโอนเงินผ่านแชต รวบรวมข้อมูลและสร้างใบแจ้งความอัตโนมัติ ลดขั้นตอนและเวลาการเตรียมหลักฐาน
ทั้งนี้ สำหรับ 6 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในระดับประชาชนทั่วไป หรือสตาร์ทอัพ จะมีการจัด Final Pitch Day นำเสนอผลงานและตัดสินผู้ชนะอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ ติดตามความเคลื่อนไหวและดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ “True CyberSafe x TrueMoney Hackathon Thailand 2025” ได้ที่เฟซบุ๊ก True Lab