คิดผิดถนัดสำหรับใครที่มองว่าวงการเทคโนโลยีมีแต่เรื่องโค้ดดิ้ง อัลกอริทึม หรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เพราะล่าสุด ดราม่าที่เคยเขย่าโลกเทคฯ จนสะเทือนไปถึงซิลิคอนแวลลีย์เมื่อปลายปี 2023 กำลังจะถูกจารึกบนแผ่นฟิล์ม ผ่านโปรเจ็กต์งานสร้างภาพยนตร์ที่ตั้งใจเล่าเรื่องมหากาพย์ 5 วันพลิกโลกของ Sam Altman แห่ง OpenAI
หากจำกันได้ เหตุการณ์ฟ้าผ่าที่บอร์ดบริหารของโอเพ่นเอไอ (OpenAI) บริษัทแม่ของแซตจีพีที (ChatGPT) ประกาศไล่ "แซม อัลต์แมน" (Sam Altman) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของตัวเองออกจากตำแหน่งแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ให้เหตุผลสั้นๆ แต่แทงใจดำว่า "ไม่โปร่งใสในการสื่อสาร" จนบอร์ดหมดความเชื่อมั่น
แต่เรื่องกลับพีคตรงที่ว่าแทนที่เรื่องจะจบ พนักงานเกือบทั้งบริษัท กว่า 700 จาก 770 คน กลับรวมตัวกันเขียนจดหมายขู่ลาออกยกแผง ถ้าไม่ได้ซีอีโอคนเดิมกลับมา เหตุการณ์ในตอนนั้นคือสงครามกลาง boardroom ของจริง ที่สุดท้ายก็จบลงด้วยการกลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมของ Sam Altman อย่างสมศักดิ์ศรีภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์
แน่นอนว่าพล็อตเรื่องที่เข้มข้นเช่นนี้ มีหรือฮอลลีวูดจะพลาด ล่าสุดมีข่าวลือหนาหูว่า Amazon MGM Studios กำลังซุ่มพัฒนาโปรเจกต์หนังที่ชื่อว่า "Artificial" ที่จะมาตีแผ่เรื่องราวทั้งหมดนี้
และที่ทำให้โลกต้องร้องว้าว ก็คือรายชื่อนักแสดงที่ถูกทาบทาม โดยคนที่จะมารับบท Sam Altman ซีอีโอมาดนิ่งแต่ทรงอิทธิพลคนนี้ ว่ากันว่าเป็น "แอนดริว การ์ฟิลด์" (Andrew Garfield) ผู้รับบทสไปเดอร์แมนแสนดีที่โลกคุ้นหน้า
การแคสต์ครั้งนี้น่าสนใจมาก เพราะ Garfield เคยรับบทเป็น "เซเวอริน" (Eduardo Saverin) ผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook ในหนังเรื่อง The Social Network มาแล้ว เหมือนเป็นภาคต่อทางจิตวิญญาณ ของดราม่าเจ้าพ่อเทคฯ ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน
ยังไม่หมด เพราะบทของ "มิรา มูราติ" (Mira Murati) ซีทีโอหญิงแกร่งที่ถูกดันขึ้นมาเป็นซีอีโอชั่วคราว ก็อาจจะเป็น "โมนิกา บาร์บาโน" (Monica Barbaro) ส่วนบทของ "อิลยา ซุตสเคเวอร์" (Ilya Sutskever) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ ที่ลือกันว่าเป็นตัวตั้งตัวตีในการปลด Altman ก็อาจเป็น "ยูรา โบริซอฟ" (Yura Borisov) นักแสดงที่กำลังมาแรง
ที่สำคัญคือเก้าอี้ผู้กำกับ ชื่อที่หลุดออกมาคือ "ลูก้า กวาดาญิโน" (Luca Guadagnino) ผู้กำกับสายอาร์ตตัวพ่อจาก Call Me By Your Name และหนังเทนนิสสุดร้อนแรงอย่าง Challengers การจับคู่ผู้กำกับสายดราม่าความสัมพันธ์กับเรื่องราวการหักเหลี่ยมเฉือนคมในโลกเทคฯ แบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าน่าดูจริงๆ
สำหรับ Altman นั้นเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้ก่อตั้ง OpenAI จำนวน 11 คนในปี 2015 โดย OpenAI ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นคานอำนาจกับการครองตลาดปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของกูเกิล (Google) โครงการนี้ได้รับเงินทุนเริ่มต้นจากอีลอน มัสก์ (Musk) เป็นจำนวน 45 ล้านดอลลาร์ แต่ 3 ปีต่อมา Musk ตัดสินใจถอนตัวจาก OpenAI โดยในตอนแรก Musk ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจาก Tesla กำลังมุ่งเน้นด้าน AI มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ
ที่ผ่านมา มีข่าวลือว่า Altman ตกเป็นเป้าถูกเขี่ยตกจากเก้าอี้หลายครั้ง มีการอ้างว่า Musk ถอนตัวจาก OpenAI หลังจากที่ความพยายามในการขึ้นเป็น CEO ถูกปฏิเสธ แต่แล้วสถานการณ์ก็ยังคงสงบนิ่งจนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2022 เมื่อ OpenAI เปิดตัว ChatGPT ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก โดย Altman กลายเป็นดาวรุ่งในวงการเทคโนโลยี
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ OpenAI เกิดขึ้นในหลายประเด็น ทั้งการที่ OpenAI ไม่เปิดเผยซอร์สโค้ด และการส่งสัญญาณอยากเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ OpenAI เป็นบริษัทแสวงหาผลกำไร ทั้งหมดนี้เป็นการป้ายสีว่า OpenAI กำลังทรยศต่อภารกิจดั้งเดิมในการสร้างประโยชน์ต่อสาธารณะ เพื่อมุ่งแสวงหาผลกำไรแทน
มีสัญญาณไม่น้อยที่ชี้ว่า Altman สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ OpenAI เป็นบริษัทแสวงหาผลกำไร เพราะจะมีความสำคัญต่อการพัฒนาของ OpenAI จุดนี้ต้องยอมรับว่า OpenAI มีโครงสร้างบริษัทที่ไม่ธรรมดา เพราะแม้จะมีฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่ก็มีบริษัทลูกที่แสวงหากำไร ส่วนนี้สะท้อนได้ถึงอุดมการณ์เริ่มต้นในการเป็นคู่แข่งของ Google แต่ด้วยค่าใช้จ่ายมหาศาลในการออกแบบ ฝึกฝน และใช้งานโมเดล AI ทำให้บริษัทจำเป็นต้องมองหาโครงสร้างองค์กรใหม่ที่จะให้นักลงทุนมีส่วนร่วมในการถือหุ้น และสร้างการกำกับดูแลที่มั่นคงขึ้น
ความจำเป็นในการสร้างเสถียรภาพนี้ยิ่งชัดเจนขึ้นหลังจากเหตุการณ์ "รัฐประหาร" ยึดอำนาจบริการ OpenAI ในห้องประชุมเมื่อปี 2023 ซึ่งทำให้มีปรากฏการณ์ที่ Altman ถูกปลดออกจากตำแหน่งชั่วคราว ก่อนจะได้กลับเข้ามาบริหารงานอีกครั้งหลังจาก Microsoft เข้าแทรกแซง
สำหรับ OpenAI แล้ว การเปลี่ยนแปลงเป็นบริษัทแสวงหาผลกำไรต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐแคลิฟอร์เนียและเดลาแวร์ ซึ่งจะตรวจสอบการประเมินมูลค่าของส่วนที่ไม่แสวงหาผลกำไรของ OpenAI เมื่อกลายเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทใหม่
นี่คือปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ เพราะวงการ AI ไม่ได้กำลังเปลี่ยนแค่โลกแห่งความจริง แต่กำลังกลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีให้ฮอลลีวูดนำไปสร้างสรรค์เรื่องเล่าด้วย คำถามที่น่าคิดก็คือ หนังเรื่องนี้จะตีแผ่ความจริงเบื้องหลังที่ชาวเน็ตอาจไม่เคยรู้ หรือจะกลายเป็นเพียงการสร้างความจริงชุดใหม่ขึ้นมาผ่านมุมมองของผู้สร้างกันแน่
และระหว่าง "ฮีโร่ผู้กอบกู้วิสัยทัศน์" กับ "บอร์ดผู้พิทักษ์มนุษยชาติจาก AI" สุดท้ายแล้ว... ใครกันแน่คือตัวร้ายในเรื่องนี้.
***อ่านข่าวย้อนหลัง
พนง.OpenAI กว่า 500 ข่มขู่จะลาออกยกบริษัท กดดันบอร์ดตั้ง "แซม อัลต์แมน” เป็นซีอีโอใหม่เหมือนเดิมหลัง “ไมโครซอฟท์” เสือปืนไวประกาศจ้างตูมทันทีหลังโดนปลดฟ้าผ่า
บอร์ด OpenAI สั่งปลด ‘แซม อัลต์แมน’ ผู้สร้าง ChatGPT เหตุวิกฤติความเชื่อมั่น
เกาเหลาหม้อใหญ่! ‘อีลอน มัสก์’ เสนอทุ่ม $97,400 ล้านซื้อ OpenAI แต่ถูก ‘แซม อัลต์แมน’ สวนกลับแบบเจ็บๆ