xs
xsm
sm
md
lg

Elon Musk vs Sam Altman ผ่าจุดเริ่มต้นเกาเหลา จับตาการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้นที่สุดในประวัติศาสตร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ความขัดแย้งระหว่างอีลอน มัสก์ (Elon Musk) และแซม อัลต์แมน (Sam Altman) กำลังกลายเป็นหนึ่งในการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้นที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยล่าสุด มหาเศรษฐีเจ้าของเทสลา (Tesla) ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการโอเพ่นเอไอ (OpenAI) ซึ่งมีการตีความกันมากว่าเป็นความพยายามขัดขวางการเติบโตของบริษัทผู้พัฒนา ChatGPT ซึ่งกำลังก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก

***จุดเริ่มต้นความขัดแย้ง


Musk และ Altman เป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้ก่อตั้ง OpenAI จำนวน 11 คนในปี 2015 โดย OpenAI ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นคานอำนาจกับการครองตลาดปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของกูเกิล (Google) โครงการนี้ได้รับเงินทุนเริ่มต้นจาก Musk เป็นจำนวน 45 ล้านดอลลาร์

3 ปีต่อมา Musk ตัดสินใจถอนตัวจาก OpenAI โดยในตอนแรก บริษัทให้เหตุผลว่าเป็นเพราะ "ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจาก Tesla กำลังมุ่งเน้นด้าน AI มากขึ้น" โดยเฉพาะในส่วนของเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม คดีความที่เกิดขึ้นภายหลังได้เผยความจริงที่น่าสนใจ เพราะ OpenAI อ้างว่า Musk ลาออกหลังจากที่ความพยายามในการขึ้นเป็น CEO หรือการควบรวมกิจการกับ Tesla ถูกปฏิเสธ

***ปมปะทุ เกาเหลาชามโต

สถานการณ์ยังคงสงบนิ่งจนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2022 เมื่อ OpenAI เปิดตัว ChatGPT ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก โดยไม่มี Musk เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ในขณะที่ Altman กลับกลายเป็นดาวรุ่งในวงการเทคโนโลยี

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีเจ้าของ Tesla
Musk เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ OpenAI อย่างไม่รีรอ จัดให้ตั้งแต่การโพสต์ล้อเลียนในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการที่ OpenAI ไม่เปิดเผยซอร์สโค้ด นอกจากนี้ยังลงนามในจดหมายเปิดผนึกที่เรียกร้องให้หยุดพัฒนา AI ชั่วคราว แม้ว่าตัว Musk ก็กำลังพัฒนาโครงการ AI ของตัวเองอยู่

ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นในเดือนสิงหาคม 2024 เมื่อ Musk ยื่นฟ้อง OpenAI และพันธมิตรอย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft) อีกครั้ง โดยกล่าวหาว่า OpenAI ทรยศต่อภารกิจดั้งเดิมในการสร้างประโยชน์ต่อสาธารณะ เพื่อมุ่งแสวงหาผลกำไรแทน

ต่อมา Musk ได้ปรับปรุงคำฟ้องเพื่อขัดขวางการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ OpenAI เป็นบริษัทแสวงหาผลกำไร ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ Altman มองว่าสำคัญต่อการพัฒนาของ OpenAI

***ซื้อได้ เพราะอยากขาย?

ต้องยอมรับว่า OpenAI มีโครงสร้างบริษัทที่ไม่ธรรมดา เพราะแม้จะมีฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่ก็มีบริษัทลูกที่แสวงหากำไร ส่วนนี้สะท้อนได้ถึงอุดมการณ์เริ่มต้นในการเป็นคู่แข่งของ Google แต่ด้วยค่าใช้จ่ายมหาศาลในการออกแบบ ฝึกฝน และใช้งานโมเดล AI ทำให้บริษัทจำเป็นต้องมองหาโครงสร้างองค์กรใหม่ที่จะให้นักลงทุนมีส่วนร่วมในการถือหุ้น และสร้างการกำกับดูแลที่มั่นคงขึ้น

ความจำเป็นในการสร้างเสถียรภาพนี้ยิ่งชัดเจนขึ้นหลังจากเหตุการณ์ "รัฐประหาร" ยึดอำนาจบริการ OpenAI ในห้องประชุมเมื่อปี 2023 ซึ่งทำให้มีข่าวว่า Altman ถูกปลดออกจากตำแหน่งชั่วคราว ก่อนจะได้กลับเข้ามาบริหารงานอีกครั้งหลังจาก Microsoft เข้าแทรกแซง

สำหรับ OpenAI แล้ว การเปลี่ยนแปลงเป็นบริษัทแสวงหาผลกำไรต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐแคลิฟอร์เนียและเดลาแวร์ ซึ่งจะตรวจสอบการประเมินมูลค่าของส่วนที่ไม่แสวงหาผลกำไรของ OpenAI เมื่อกลายเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทใหม่

ในอีกด้าน นักลงทุนปัจจุบันต้องการการประเมินมูลค่าที่ต่ำลงเพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทใหม่ ข้อเสนอของ Musk ที่ประเมินมูลค่าส่วนไม่แสวงหาผลกำไรของ OpenAI ที่ 97,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่างจากการเจรจาปัจจุบันมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ จึงถูกวิจารณ์ว่าอาจเป็นความพยายามในการขัดขวางการระดมทุนของ OpenAI ก็ได้

แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ขณะอภิปรายเรื่อง AI ที่มหาวิทยาลัย Technical University Berlin เยอรมนี
ต้นเรื่องของเสียงวิเคราะห์ที่เชื่อว่า Musk ต้องการทำลายการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ OpenAI เพื่อชะลอการเติบโต คือเหตุผลทางธุรกิจที่เห็นชัดว่าข้อเสนอนี้ไม่ได้เป็นประโยชน์กับ Musk เลย นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Musk ในการบั่นทอนอดีตเพื่อนยังเกิดขึ้นหลังจาก Altman ปรากฏตัวที่ทำเนียบขาว เพื่อประกาศการมีส่วนร่วมในโครงการ Stargate ซึ่งเป็นโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) โดยร่วมมือกับบริษัทซอฟต์แบงก์ (SoftBank) ของญี่ปุ่น

Musk ซึ่งมีบทบาทสำคัญในทำเนียบขาวของ Trump วิจารณ์โครงการ AI มูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ทันที โดยอ้างว่าเงินทุนยังไม่มีความแน่นอน ซึ่งดูเหมือนจะขัดแย้งกับประธานาธิบดี

***ไม่มีใครยอมใคร

เมื่อเผชิญกับการโจมตีจากมหาเศรษฐีเจ้าของ Tesla คนอย่าง Altman จึงแสดงความเห็นมากขึ้นบนเวทีสาธารณะ ทำให้มีการโยงว่าการกระทำของ Musk อาจเกิดจากความเสียใจที่ออกจาก OpenAI ในปี 2018 โดยเฉพาะเมื่อ xAI บริษัทคู่แข่งของ Musk ยังคงดิ้นรนที่จะสร้างความสำเร็จ แม้จะได้รับการลงทุนมหาศาล

ที่สุดแล้ว Altman กล่าวกับสื่อใหญ่อย่างบลูมเบิร์กทีวี (Bloomberg TV) โดยแสดงความเห็นใจ ในเชิงจิกกัดด้วย

"เขาแค่พยายามทำให้เราช้าลง เขาชัดเจนว่าเป็นคู่แข่ง ผมหวังว่าเขาจะแข่งขันด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า" Altman ระบุทิ้งท้าย "...น่าจะทั้งชีวิตของเขาอยู่บนพื้นฐานของความไม่มั่นคง ผมไม่คิดว่าเขาเป็นคนที่มีความสุข ผมเห็นใจเขานะ"

จุดเริ่มต้นเกาเหลาหม้อนี้จะพัฒนาไปสู่การแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้นขนาดไหน เราชาวโลกคงต้องตามดูอย่างใกล้ชิดต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น