xs
xsm
sm
md
lg

AMD อัดฉีดศึกชิปดาต้าเซ็นเตอร์ ขยายทีมชน Intel เจาะตลาดผู้ใช้ตรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 น.ส.ศศิประภา สุธีรภัทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์และกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียล เอเอ็มดี ประเทศไทย
เอเอ็มดี (AMD) พร้อมขยายทีมขายลุยภารกิจชิงส่วนแบ่งตลาดชิปเซิร์ฟเวอร์ไทย รุกตามรอยเทรนด์โลกหลัง AMD แซง Intel ขึ้นเป็นค่ายหน่วยประมวลผลเบอร์ 1 ฝั่งดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทำรายได้สูงสุด และมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในไตรมาส 3 ปี 2024 ยอมรับทำงานหนักมากเพราะไม่ใช่ทุกองค์กรไทยเปิดใจเปลี่ยนใช้ชิปเทคโนโลยีใหม่ ล่าสุดคว้าเมกะโปรเจกต์ "ปตท.สฝ." ลุยโซลูชันการค้นหาแหล่งน้ำมันและแท่นขุดเจาะ

น.ส.ศศิประภา สุธีรภัทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์และกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียล เอเอ็มดี ประเทศไทย กล่าวในงานเปิดตัวหน่วยประมวลผลสำหรับศูนย์ข้อมูลและ AI PC ระดับองค์กรรุ่นใหม่สำหรับทำตลาดปี 2025 ว่าจะมีการขยายทีม 10% ในการรองรับการเจาะตลาดเซิร์ฟเวอร์องค์กรไทยในปีหน้า โดยจะมุ่งแก้ปัญหาที่องค์กรไทยยังมีชุดข้อมูลของ AMD ยุคใหม่ในระดับน้อย อย่างไรก็ตาม การเจาะตลาดประเทศไทยยังต้องใช้เวลา เนื่องจากแม้จะโหมสื่อสารให้ผู้ใช้ได้สัมผัสศักยภาพชิปด้วยตัวเอง แต่การเปลี่ยนหน่วยประมวลผลในโลกดาต้าเซ็นเตอร์เป็นเรื่องสำคัญ และมีผลต่อคนทั้งองค์กร จึงต้องใช้เวลาทดสอบนานหลายเดือน หรือเกือบปี

"ชุดข้อมูลของผู้ใช้ที่มีต่อ AMD ยังน้อยมาก เราจะต้องทำการตลาด การตลาดที่เห็นผลที่สุดคือการพูดด้วยตัวเอง ไม่ว่าตัวเลขบนกระดานจะเป็นเท่าไหร่ก็ตาม ผู้ใช้ควรได้สัมผัสด้วยตัวเอง การเปลี่ยนจากสีฟ้ามาเป็นสีอื่นในโลกดาต้าเซ็นเตอร์เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และมีผลต่อคนทั้งองค์กร บางเคสจึงต้องทดสอบนานหลายเดือนหรือเกือบปี ดังนั้นประเทศไทยยังต้องใช้เวลา แต่เราจะไม่ถอยและที่สำคัญคือเรามีการขยายทีม 10% ในการรองรับการเจาะตลาดของเราในปี 2025"

AMD เปิดตัว 5th Gen AMD EPYC หรือ Turin ในตลาดไทย
ศศิประภาให้ข้อมูลว่าส่วนแบ่งการตลาด AMD ในเซิร์ฟเวอร์ไทยยังเป็นเลขหลักเดียว ต่างจาก AMD ระดับโลกที่ทำได้ 34% ตัวเลขที่ห่างไกลมากนี้เกิดขึ้นเพราะทีมในพื้นที่มีศักยภาพไม่เท่ากับทีมของบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา ทำให้ AMD ประเทศไทยเตรียมการขยายทีม ในการสื่อสารถึงผู้ใช้โดยไม่รอการบอกผ่านพันธมิตรระดับ Tier 1 หรือ 2 อย่างที่เคยทำ

การเปลี่ยนกลยุทธ์ทำตลาดหน่วยประมวลผลของ AMD ประเทศไทยครั้งนี้มีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ AMD สามารถสร้างรายได้ในตลาดศูนย์ข้อมูลทั่วโลกได้เกิน 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 ถือว่ามากกว่าเมื่อเทียบกับ 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐของคู่แข่งสีฟ้าอย่าง Intel และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นอีกเพราะการมาถึงของเทคโนโลยี AI ส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ซึ่งองค์กรจำเป็นต้องปรับตัวและลงทุนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

  AMD เคลมว่า Turin เป็น CPU สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในปัจจุบัน
เพื่อตามให้ทันแนวโน้มการขยายตัวของ AMD ล่าสุด AMD ประเทศไทยประกาศเปิดตัวโซลูชันประมวลผล AI ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์องค์กรธุรกิจ โดยจัดเต็มทั้ง CPU, GPU สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ และ AI PC เพื่อรองรับความต้องการด้าน AI ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในตลาดไทย โดยผลิตภัณฑ์สำคัญประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์ 5th Gen AMD EPYC กราฟิกการ์ด AMD Instinct MI325X ชิปหน่วยประมวลผลข้อมูล AMD Pensando Salina DPUs AMD Pensando Pollara 400 NICs และโมบายโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen AI PRO 300 series สำหรับโซลูชัน AI ระดับองค์กร

ในอีกด้าน AMD และพันธมิตรยังได้นำเสนอการใช้งานโซลูชัน AI ของ AMD ในระดับองค์กร โดยเฉพาะระบบนิเวศซอฟต์แวร์ AI โอเพ่นซอร์สบน AMD ROCm ที่เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลายบนพื้นฐานผลิตภัณฑ์กราฟิกการ์ด AMD Instinct, โปรเซสเซอร์ EPYC และโปรเซสเซอร์ Ryzen PRO

***เก่งที่สุด แทนเซิร์ฟเวอร์รุ่นเก่า 7 เครื่อง

AMD เคลมว่า 5th Gen AMD EPYC หรือ Turin นับเป็น CPU สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในปัจจุบัน ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 ขนาด 3 และ 4 นาโนเมตร รองรับการประมวลผลสูงสุดถึง 192 คอร์ 384 เธรด เหมาะสำหรับการประมวลผล Cloud และ AI ระดับองค์กร

เซิร์ฟเวอร์เก่า 1,000 เครื่อง สามารถทดแทนได้ด้วย Turin เพียง 131 เครื่อง
AMD ย้ำอีกว่าชิปตระกูล Turin นั้นมี Cache L3 ขนาดใหญ่ที่สุด มาพร้อมการติดตั้ง 12 CCD โดย 1 CCD มีถึง 16 Core ทำให้มีประสิทธิภาพต่อ Core สูงที่สุดในตลาดปัจจุบัน นอกจากนี้ Turin ยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งหลายเท่าตัว ขณะเดียวกันก็สามารถในการทดแทนเซิร์ฟเวอร์รุ่นเก่าในอัตรา 7:1 ช่วยลดการใช้พลังงานได้ 68% และประหยัดพื้นที่ได้ 78%

"การทดแทนเซิร์ฟเวอร์เก่า 1,000 เครื่องด้วย Turin เพียง 131 เครื่อง นับเป็นการปฏิวัติโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขององค์กรครั้งสำคัญ" ผู้บริหาร AMD กล่าว

สำหรับกราฟิกการ์ดใหม่อย่าง AMD Instinct MI325X GPU ซึ่งเป็นรุ่นต่อยอดจาก MI300 ที่จะเริ่มผลิตและส่งมอบภายในไตรมาส 4 ปี 2567 นั้นมาพร้อมสถาปัตยกรรม AMD CDNA 3 รองรับการทำงาน Generative AI ทั้งในส่วน Training และ Inference โดยบริษัทยังเตรียมเปิดตัว MI350 Series ที่ใช้สถาปัตยกรรม CDNA 4 ในปีหน้า ซึ่งจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 35 เท่า

ในส่วนตลาดพีซีเพื่อองค์กร AMD ได้เปิดตัว Ryzen AI PRO 300 Series ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ AMD RDNA 3.5 พร้อม NPU ที่มีประสิทธิภาพ 50-55 TOPS สูงกว่ามาตรฐาน Copilot ของไมโครซอฟท์ที่กำหนดไว้ที่ 40 TOPS นับเป็นชิป x86 CPU เจ้าแรกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC ของ Microsoft และมาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัย Microsoft Pluton Security

4 กลุ่มชิปในโร้ดแม็ปของ AMD เพื่อบุกตลาด AI
ทั้งนี้ AMD ยังเตรียมนำเสนอโซลูชัน AMD Pensando เทคโนโลยีเครือข่ายสำหรับ AI เข้าสู่ตลาดไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ด้าน AI อย่างครบวงจร

การเปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์หลักรับเทรนด์การเติบโตของตลาด AI นี้เป็นผลจากที่ AMD เชื่อว่าตลาดจะขยายตัวต่อเนื่องถึงปี 2571 โดย AMD จะมุ่งชูจุดเด่นด้านการประหยัดพลังงานและคืนทุนเร็วภายใน 6-12 เดือน พร้อมกับการย้ำถึงการพัฒนาระบบนิเวศแบบเปิด (Open Source) สำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI โดยไม่คิดค่าไลเซนส์ เช่น การเปิดตัวเครื่องมือสำหรับเปรียบเทียบประสิทธิภาพและต้นทุนการใช้งาน ที่สามารถคำนวณค่าไฟฟ้าและการปล่อยคาร์บอนได้

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมี AI PC มากกว่า 100 แพลตฟอร์ม เรียกเงินสะพัดอย่างคึกคักโดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่อย่างไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง AMD จะให้ความสำคัญกับการปรับใช้เทคโนโลยี AI ให้เหมาะสมกับบริบทธุรกิจ และกฎหมายของแต่ละประเทศ พร้อมกับทำ ตลาดคอนซูเมอร์ ควบคู่ต่อไปอย่างเข้มข้น


กำลังโหลดความคิดเห็น