เอเอ็มดี (AMD) พร้อมรบศึกชิปในยุคทองปัญญาประดิษฐ์ (AI) มั่นใจจุดแข็งรุกตลาดไทยด้วยการมีโซลูชันที่รองรับครบทั้งองค์กรขนาดใหญ่ถึงเอนด์ยูสเซอร์ กางกลยุทธ์ราคาเท่าคู่แข่งแต่สเปกสูงกว่า รับสมรภูมิการ์ดจอรุ่นเริ่มต้นกำลังหดหายไปเป็นระดับราคาแรงขึ้น ภูมิใจช่วยให้ค่าตัว AI PC เอื้อมถึงง่าย-ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท
น.ส.ศศิประภา สุธีรภัทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์และกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียล เอเอ็มดี ประเทศไทย แสดงความมั่นใจว่าตลาดชิปประมวลผลที่รองรับ AI จะเติบโตก้าวกระโดดเพราะสามารถช่วยให้นักพัฒนาและองค์กรให้ใช้ AI อย่างราบรื่น โดยที่ผ่านา AMD มีผลงานการเติบโตในตลาดเซมิคอนดักเตอร์สูง 10% ต่อปีท่ามกลางสถานการณ์ดีมานด์หดหายหลังโควิด-19 โดยการเติบโตในปี 2023 ที่ผ่านมาเป็นกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ซึ่งส่งให้ราคาหุ้นของ AMD ได้รับการตอบรับดีในตลาดโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเชื่อมั่นจากนักลงทุนที่เห็นการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่องของ AMD
“AI ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่จะมีผลอย่างมาก การปรับใช้ AI ในตลาดถือว่าน่าสนใจ เป็นการตอบรับที่แรงที่สุดในรอบ 50 ปี การใช้ AI ของแต่ละองค์กรมีจุดเริ่มต้นไม่เหมือนกัน บางองค์กรมีปริมาณข้อมูลสูงและมีความท้าทายเรื่องความหน่วงจากการใช้ AI ผ่านคลาวด์ ซึ่งอาจเกิดจากการที่ผู้ใช้ AI หลายล้านคนทั่วโลกใช้ AI พร้อมกันผ่านคลาวด์ ตรงนี้ชิปประมวลผล AI จะช่วยให้นักพัฒนาและองค์กรให้ใช้ AI อย่างราบรื่น” ศศิประภากล่าว “หลายคนรู้จัก AMD ในฐานะผู้ผลิตชิปโปรเซสเซอร์ แต่ล่าสุดบริษัทมีสินค้ากลุ่มแอ็กเซลเลอเรเตอร์การ์ดที่เร่งการทำงาน AI ได้ดีขึ้น เรายังไม่ได้ทำตลาดกลุ่ม AI Accelerator Card นี้แต่ก็มี SI ติดต่อมาแล้ว ถือว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก”
นอกจาก Accelerator สำหรับติดตั้งในดาต้าเซ็นเตอร์และเอดจ์ โปรดักต์ที่ AMD มุ่งเน้นในปีนี้ยังคงเป็น Processor หลายระดับ ตั้งแต่ EPYC ที่เป็นชิปสถาปัตยกรรม X86 ซึ่งติดตั้งในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ยังมีโมบายโปรเซสเซอร์ตระกูล Ryzen AI ที่สร้างมาเพื่อรองรับ AI ด้วยการมี NPU หรือเอไอเอนจิ้นสำหรับแล็ปท็อปพีซี รวมถึงเดสก์ท็อปที่มีทั้ง CPU ที่เร่งเวิร์กโหลดได้ และ GPU ประมวลผลกราฟิกออนบอร์ดที่เก่งกว่าเดิม
“เหตุผลที่ทำให้ผู้คนต้องใช้ AI PC คือสามารถทำงานเวิร์กโหลดที่เป็น AI ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะเมื่อแอปพลิเคชันในการทำงานถูกพัฒนาเป็น AI ไปหมดแล้ว AI PC จึงเป็นสิ่งที่ควรใช้ เพราะสามารถรัน AI แอปพลิเคชันบนพีซีได้เลยไม่ต้องผ่านคลาวด์ ได้ผลดีทั้งประสิทธิภาพ ปลอดภัย ลดต้นทุนแอบแฝง และประสบความสำเร็จ” ศศิประภาย้ำ “AMD ทำให้ AI เอนจิ้นเกิดได้จริง ขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับนักพัฒนา และ 100 ซอฟต์แวร์เวนเดอร์ระดับท็อป เพื่อให้เกิดแอปพลิเคชันบนฮาร์ดแวร์ของ AMD"
นับตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา AMD เผยว่าจำนวนแล็ปท็อป AI ที่ใช้ชิป AMD ในตลาดโลกนั้นมีมากกว่า 1 ล้านเครื่อง และบริษัทได้ทำหน้าที่อย่างหนักในการพูดคุยกับซอฟต์แวร์เวนเดอร์ที่อยู่ในระดับท็อปของพีระมิด โดยล่าสุด AMD มีแผนเริ่มวางจำหน่ายพระเอกอย่าง Ryzen 8040 Series ในสัปดาห์ปลายเดือนมีนาคม ซึ่งจะเห็นการวางตลาดของพีซีที่ติดสติกเกอร์ AMD RYZEN AI ที่รองรับการทำงานเวิร์กโหลด AI ดีขึ้น 1.4 เท่า
“ตลอดทั้งปี RYZEN AI จะเป็นเมนสตรีมที่ขายวงกว้าง จาก 10 TOPS จะเป็น 16 และ 30 ในปีนี้ และจะมีรุ่นเหนือกว่าแบบ ALL New ในปีหน้า”
นายจิระวัฒน์ นันทปราโมทย์ ผู้จัดการฝ่ายขาย กลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์ เอเอ็มดี ประเทศไทย กล่าวถึงธุรกิจคอมโพแนนต์ว่าจะยังเน้นที่ตลาดเกมเมอร์ โดยจากปัจจุบันที่ AMD มีกลุ่มซีพียู 2 รุ่นที่เป็น NPU รองรับ AI บริษัทมีแผนตอบโจทย์การพัฒนาฮาร์ดแวร์เกมให้รองรับ AI เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
“เรื่องของเกมเราไม่ทิ้ง วันนี้จะเน้นซอฟต์แวร์ที่รองรับการ์ดจอ ช่วยให้การทำงานและเล่นเกมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลาดที่ใหญ่ในบ้านเรายังเป็นตลาดเกม ธุรกิจคอมโพแนนต์ของ AMD ยังโฟกัสเกมอยู่” จิระวัฒน์กล่าว “การ์ดจอช่วยซอฟต์แวร์ AI ทำได้จริง ไฮไลต์การ์ดจอวันนี้ไม่ได้อยู่ในโน้ตบุ๊กอย่างเดียว เพราะการหดตัวของพีซี ฝั่งตลาดไทยค่อนข้างทรงตัว ไม่ได้ตกฮวบ ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ทำให้เติบโตซึ่งยังไม่เห็นในตอนนี้”
จิระวัฒน์ยอมรับว่าการมาของการ์ดจอใหม่อย่าง G Series ทำให้ตลาดการ์ดจอรุ่นเริ่มต้นหดหายไป โดยจะเปลี่ยนมาเริ่มที่ระดับกลาง เช่น 7600 ส่งให้ตลาดการ์ดจอขยับไปเป็นระดับกลางถึงบนมากขึ้น จุดนี้เชื่อว่าไม่มีผลกระทบเชิงลบต่อตลาดเนื่องจาก AMD มี CPU ที่มีการ์ดจอรุ่นเริ่มต้นฝังไว้อยู่แล้ว ซึ่งมีคุณสมบัติเท่ากับรุ่นเริ่มต้นเดิม ดังนั้น การ์ดจอรุ่นเริ่มต้นในปี 2024 จึงเหมาะกับกลุ่มผู้ต้องการอัปเกรดจากที่เคยใช้ CPU รุ่นเก่าเกิน 10 ปีขึ้นไป
“ภาพรวมตลาดการ์ดจอตอนนี้หดตัว การลดลงนี้หมายถึงการกลับไปอยู่ในสภาวะเดิมก่อนการระบาด ซึ่งมีความต้องการมากขึ้นจากการ work from home และ study from home” แม้จะมีจุดแข็งด้านราคา แต่ผู้บริหารเชื่อว่าข้อได้เปรียบของ AMD ต่อการแข่งขันในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ยุค AI คือการเป็นบริษัทเดียวที่มีสินค้าครบทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ผู้ใช้ทั่วไป จนถึงระดับองค์กร โดยคู่แข่งบางรายไม่มีโปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และบางรายไม่มีการ์ดจอ ซึ่ง AMD มีสินค้าทั้งสำหรับระดับเอนเตอร์ไพรส์ และเอนด์ยูสเซอร์
สำหรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ในประเทศไทยช่วงปีนี้ AMD จะอ้างอิงกับเป้าหมายใหญ่ของ AMD ระดับโลก นั่นคือการนำ AI มาสู่ผู้บริโภคหลังจากที่ปัจจุบัน AI อยู่ในระดับเอนเตอร์ไพรส์ ดังนั้น AMD จึงต้องการส่งสารไปถึงผู้บริโภคว่า AI มีความใกล้ตัวและ AMD จะเป็นตัวหลักในการนำ AI มาสู่ผู้บริโภค และในฝั่ง component ทิศทางของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเห็นการ์ดจอที่รองรับ AI ลงตลาดมากขึ้น
“direction คือการนำ AI ที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุดเข้ามาให้ถึงผู้บริโภค ทั้งหมดนี้มีผลกระทบต่อตลาดมากเนื่องจาก AI มีผลต่อการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนทุกกลุ่ม ตั้งแต่อายุน้อยจนถึงอายุมาก ซึ่งต่างจากในอดีตที่ผู้คนอาจเข้าไม่ถึงข้อมูล แต่ตอนนี้เพียงมีอินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงได้และย่อยง่ายด้วย”
ในอีกด้าน AMD ย้ำว่าเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาไทยนั้นมีการพัฒนาอยู่แล้ว อาจต้องมีการรอการลงทุน โดยล่าสุดประเทศไทยมีโครงการที่น่าจับตามองนั่นคือการอนุมัติงบจากรัฐบาลมูลค่ากว่า 22,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาคอมพิวเตอร์และ laptop จากรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนไทยเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น นำไปสู่การเพิ่มแรงตอบรับการขับเคลื่อนในวงการศึกษาไทย และคาดว่า AI จะต่อยอดในส่วนนี้ได้ด้วย AMD ยอมรับว่าอาจจะได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยกรอบเวลาที่แน่ชัดของโครงการ โดยระบุเพียงว่าปัจจุบันโครงการได้รับอนุมัติงบประมาณมาแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการประสานงานร่วมกัน เบื้องต้นยังต้องรอดูอีก 2-3 เดือน ทั้งหมดนี้ไม่มีการเปิดเผยพันธมิตร เนื่องจากเป็นโครงการภาครัฐที่ผู้เล่นทุกคนสามารถร่วมลงมาพัฒนาในส่วนกลางได้
ผู้บริหาร AMD ทิ้งท้ายว่าการมาของ AI ทำให้องค์กรต้องเตรียมงบประมาณฮาร์ดแวร์ไว้ ดังนั้น AI จึงมีส่วนที่จะขับเคลื่อนตลาดมิดทูไฮของ AMD มากขึ้น ขณะที่ในตลาด component เจ้าพ่อเซมิคอนดักเตอร์อย่าง AMD ยังคงเน้นที่ราคาจับต้องได้ โดยเปิดทางให้ผู้บริโภคสามารถประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ในราคาไม่ถึง 20,000 บาท ขณะที่ราคาโน้ตบุ๊กที่ติดตั้งโมบายโปรเซสเซอร์ NPU ของ AMD จะเริ่มต้นที่ 28,000 บาท ซึ่งเทียบกับแบรนด์อื่นแล้วถือว่า AMD สามารถเป็นขุมพลังของ AI PC ที่จับต้องและเอื้อมถึงได้ง่ายมากกว่า
“ตลาด commercial ของประเทศไทยยังอยู่ในจังหวะที่เริ่มใช้เทคโนโลยี การสร้าง AI infrastructure อาจจะยังช้ากว่าประเทศอื่น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแนวคิดอนุรักษนิยม และการลงทุนของภาครัฐยังไม่เห็นชัดในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ในภาคเอกชนมีความตื่นตัวและมองหาเทคโนโลยี โดยเฉพาะตลาดมหาวิทยาลัยที่มีแนวโน้มดีมาก เพราะมีความพยายามปรับใช้ AI ในองค์กร รวมไปถึงการสร้างการศึกษาคณะใหม่ เพื่อพัฒนาบุคลากรไทยอย่างจริงจัง”