xs
xsm
sm
md
lg

SYNNEX คาดสิ้นปีรายได้ทะลุ 40,000 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



SYNNEX มั่นใจสิ้นปีรายได้ทะลุ 40,000 ล้านบาท ทำรายได้ต่อปีสูงสุด หลังผ่านครึ่งปีรายได้รวมกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3 และ 4 ถือเป็นช่วงที่ตลาดไอทีจะเติบโตอยู่แล้ว จากปัจจัยสมาร์ทโฟน สมาร์ทวอทช์ และพีซีรุ่นใหม่ นำโดยกระแสของ AI

น ส.สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมของตลาดไอทีในช่วงเวลานี้ จริงๆ ต้องยอมรับว่าสภาพเศรษฐกิจไม่ดี เพราะเมื่อมองในตลาดคอนซูเมอร์ถ้าสินค้าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนักผู้บริโภคจะชะลอซื้อ

“กำลังซื้อส่วนใหญ่ในเวลานี้มาจากกลุ่มผู้บริโภคที่ถึงรอบในการเปลี่ยนเครื่อง ประกอบกับเทรนด์ของ AI ที่เข้ามา ซึ่งกลายเป็นว่า สินค้าที่มี AI ไม่ได้แพงกว่าตัวเดิม ทำให้เกิดการซื้อในเวฟแรก และต่อเนื่องไปยังปีหน้า”

ส่วนหนึ่งที่ทำให้มั่นใจว่า ไตรมาส 3 จะเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อรวมกับไตรมาส 4 จะทำรายได้รวมทะลุ 40,000 ล้านบาท มาจากปัจจัยของการจำหน่าย iPhone 16 ซีรีส์ ที่กลายเป็นว่าสินค้าล็อตแรกจำหน่ายหมดไปแล้ว และยังมีความต้องการอยู่

ขณะเดียวกัน ในช่วงปลายเดือนยังมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ของทาง HUAWEI อย่าง Watch GT 5 ซีรีส์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% เมื่อรวมกับโปรเจกต์การลงทุนทางด้าน AI

“ปีนี้คาดว่ารายได้จากสินค้าของแอปเปิลทั้งไลน์ไม่ว่าจะเป็นไอโฟน ไอแพด เครื่องแมค คาดว่าจะอยู่ราว 15,000 ล้านบาท แต่ในขณะเดียวกัน แบรนด์มือถืออื่นๆ อย่าง Honor หรือ HUAWEI มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% ซึ่งทำให้สัดส่วนรายได้ในปีนี้ของกลุ่มโมบายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 40%”

ต่อเนื่องด้วยรายได้จากฝั่งของคอนซูเมอร์ราว 30% ในสินค้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาตลาดค่อนข้างเงียบ แต่จากไทม์ไลน์สินค้ารุ่นใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงไตรมาส 4 อย่าง AI PC จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดนี้กลับมาสร้างรายได้


อีกกลุ่มธุรกิจที่ SYNNEX ให้ความสนใจคือเรื่องของการนำ AI มาใช้งานภายในองค์กร ซึ่งตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การทำงานภายในของ SYNNEX ได้นำ AI มาช่วยแล้ว และเห็นถึงความคุ้มค่าในการลงทุน เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่กลับมา ซึ่งเชื่อว่าองค์กรธุรกิจอื่นที่มีความต้องการนำ AI ไปใช้งานต้องลงทุนอุปกรณ์เช่นเดียวกัน

“ในอนาคต SYNNEX มีแผนที่จะนำ AI ซึ่งเดิมใช้งานภายในขยายออกไปให้พันธมิตรเข้ามาร่วมใช้งานด้วย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน และผลักดันให้ยอดขายเติบโตขึ้น”


กำลังโหลดความคิดเห็น