True เปิดตัวแคมเปญ ‘ทรูทั่วไทย’ ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน ร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ให้คนไทย-นักท่องเที่ยวเข้าถึงเน็ตเวิร์กที่ดีที่สุดของทั้งทรู และดีแทค พร้อมบริการตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทรูอยากส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด และเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานร่วมกับการท่องเที่ยงแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อน ส่งต่อความสุขเมื่อผู้คนได้ท่องเที่ยวและสามารถแชร์ประสบการณ์ได้ผ่านเครือข่ายดิจิทัล
ล่าสุด สถาบัน IMD สวิตเซอร์แลนด์ ที่จัดอันดับการแข่งขันของประเทศ รายงานถึงดัชนีชี้วัดเรื่องโครงสร้างพื้นฐานโทนคมนาคมของไทย โดยเฉพาะการลงทุนที่สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก รวมถึงความเร็วของอินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์ที่อันดับ 5 เช่นเดียวกัน
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากผ่านพ้นไตรมาส 1 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วกว่า 9.3 ล้านราย สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 9 ล้านราย และคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสูงกว่า 36 ล้านราย
“สิ่งสำคัญที่การท่องเที่ยวพยายามผลักดันคือเรื่องของการสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการท่องเที่ยว ที่ในปีนี้คาดว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 3-3.5 ล้านล้านบาท โดยส่วนสำคัญคือรายได้จากการใช้งานสินค้า และบริการในประเทศไทย และทรูถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญที่จะทำให้เกิดการใช้งานดิจิทัล”
มนัสส์ กล่าวเพิ่มว่า จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทยไตรมาส 1 มีสัดส่วนการใช้งานโครงข่ายของทรู และดีแทคราว 65% ทำให้คาดการณ์ได้ว่าถ้าภายในสิ้นปีนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่า 36 ล้านคน ก็จะมีนักท่องเที่ยวที่ใช้โครงข่ายทั้งการซื้อซิม และโรมมิ่งใช้งานไม่ต่ำกว่า 23 ล้านราย
ชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ข้อมูลเสริมว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะรูปแบบของการทำงาน หนึ่งในเทรนด์ที่น่าสนใจคือ Digital Nomad ที่สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้การที่ประเทศไทยมีโครงข่ายที่มีคุณภาพสัญญาณอินเทอร์เน็ตดี และครอบคลุม ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้สามารถเข้ามาท่องเที่ยว และทำงานไปด้วยได้
“จากการสำรวจสถานที่ทำงานของกลุ่ม Digital Nomad พบว่า ไทยมีสถานที่ที่น่าทำงานหลากหลายทั้งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต รวมถึงเกาะพะงัน สุราษฎร์ธานี ซึ่งในการคัดเลือกจะดูจากทั้งเรื่องของค่าครองชีพอยู่ในระดับที่รับได้ มีอินเทอร์เน็ตที่รองรับการใช้งาน ความปลอดภัย สถานที่ท่องเที่ยว วีซ่าง่าย และมีพื้นที่ในการทำงาน”
ประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี กล่าวย้ำถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นหลังจากการรวมโครงข่ายที่จะเปิดโอกาสให้นอกจากผู้บริโภคชาวไทยได้คุณภาพที่ดีขึ้นแล้ว ยังรวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วย ไม่ว่าจะเป็นการมีสถานีฐานที่เพิ่มขึ้น แบนด์วิดท์ที่กว้างมากขึ้น พื้นที่ใช้งานที่ครอบคลุม
ที่สำคัญคือเครือข่ายอัจฉริยะที่สามารถมอนิเตอร์การใช้งานของลูกค้า ทำให้สามารถนำเสนอแพกเกจ และบริการที่เหมาะสม โดยเฉพาะในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และสุดท้ายคือการมีทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในตลาดประเทศไทย
ทั้งนี้ แคมเปญ ‘ทรูทั่วไทย’ จะเริ่มการเดินทางไป 4 ภาคทั่วประเทศ เพื่อร่วมพิสูจน์เครือข่าย 5G ที่จะครอบคลุม 95% ของประเทศในปี 2025 ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงทั้งในเมืองหลวง เมืองหลัก เมืองรอง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในประเทศ
