Digital China Group ลงนาม MOU กระทรวงดีอี พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ครอบคลุมทั้งคลาวด์ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ศูนย์กลางข้อมูล Big data และการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล รวมถึง AI ตามนโยบาย AI Agenda ของกระทรวงฯ
ดร.เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงการร่วมมือในครั้งนี้ว่า เป็นการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคม ทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐในประเทศไทย ท่ามกลางยุคที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลง
“ประเทศไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเติบโตแบบครบวงจร ภายใต้วิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทย IGNITE Thailand 2030 ที่จะดึงดูดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ได้แก่ เทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม และ AI รวมถึงการสนับสนุนและดึงดูดบริษัทระดับโลกมาลงทุนในประเทศไทย”
สำหรับปี 2567 นี้ ทางกระทรวงได้พัฒนาโครงการที่สำคัญเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติ อย่างนโยบาย ‘AI Agenda’ ทางกระทรวงได้พัฒนาโครงสร้าง AI และมีการเตรียมพร้อมสำหรับจริยธรรม การกำกับดูแล และข้อบังคับทางด้าน AI สำหรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา AI พร้อมกับพัฒนาทักษะทางด้าน AI สำหรับธุรกิจ SMEs และประชาชนทั่วไป
ทาง Digital China Group ได้นำเอาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยระดับโลกมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของธุรกิจต่างๆ ทั้งการพัฒนา และขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการบริหารและจัดการสินค้า การประมวลผลบนระบบคลาวด์แบบ Full-stack การใช้ Big Data และ AI
นอกจากนี้ Digital China Group ยังส่งเสริมการเปลี่ยนถ่ายและยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ รวมไปถึงสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลให้ทางรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ในการเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เป็นผลิตผลที่จับต้องได้และขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยี Generative AI ในเชิงของธุรกิจ
นายกัว เหวย ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Digital China Group กล่าวว่า ความร่วมมือนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของทาง Digital China ที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งดีๆ ให้การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย
โดยจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในหลายด้าน เพื่อสร้างโซลูชันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลแบบครบวงจรและให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพกับบริษัทในประเทศไทย สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเร่งขับเคลื่อนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์ สู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม Smart Vision (เวอร์ชันสำหรับต่างประเทศ) อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโมเดลขนาดใหญ่แบบครบวงจรที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ พร้อมจับมือ GoPomelo ในการสร้างโซลูชัน AI เพื่อส่งเสริมดิจิทัลให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกด้วย
โปรแกรมของ GoPomelo จะช่วยให้ผู้ใช้มีความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล ทั้งประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านคลาวด์ ด้วย Gen AI ของทาง GoPomelo ที่มีโซลูชันตอบโจทย์สำหรับธุรกิจ