แอปเปิล (Apple) อัปเดตการเข้ารหัสข้อมูลในการสื่อสารบน iMessage ครั้งใหญ่บน iOS 17.4 ด้วยการนำระบบการเข้ารหัสหลังควอนคัม (Post Quantum Cryptography) มาใช้งาน ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
ผู้เชี่ยวชาญจากแอปเปิลอธิบายถึงความจำเป็นในการยกระดับความปลอดภัยบน iMessage เพื่อให้การใช้งานในอนาคตปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ Apple ได้มีการนำระบบรักษาความปลอดภัยมาใช้บน iMessage ตั้งแต่ปี 2011 ด้วยการเข้ารหัสแบบ End to end Encryption ต่อเนื่องถึงการใช้คีย์ในการถอดรหัส (iMessage Contact Key Verification) เพิ่มเติมเข้ามา
เมื่อมี iMessage Contact Key Verification ผู้ใช้ที่พบกับภัยคุกคามดิจิทัลที่รุนแรง เช่น นักข่าว นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน และสมาชิกรัฐบาล สามารถเลือกจะยืนยันว่าพวกเขาส่งข้อความหาผู้ที่ต้องการส่งให้จริงๆ การสนทนาระหว่างผู้ใช้ที่เปิดการใช้งาน iMessage Contact Key Verification จะได้รับการแจ้งเตือนอัตโนมัติ หากมีภัยคุกคามที่อันตรายเป็นพิเศษ เช่น การโจมตีที่สนับสนุนโดยรัฐซึ่งสามารถเจาะเซิร์ฟเวอร์คลาวด์และติดตั้งอุปกรณ์เพื่อดักฟังการสื่อสารที่เข้ารหัส
เหตุผลสำคัญที่ทำให้รูปแบบการเข้ารหัสข้อมูลแบบเดิมเริ่มไม่ปลอดภัย เกิดขึ้นจากการมาของควอนตัม คอมพิวติ้ง (Quantum Computing) ที่เป็นระบบการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งแต่เดิมอาจใช้เวลาหลายร้อยปีในการถอดรหัสข้อมูล เหลือเพียงไม่กี่นาที ด้วยการเลือกใช้อัลกอรึธึมที่ตรงกันเพื่อเข้าถึงข้อความต่างๆ
ที่ผ่านมา ผู้ที่ไม่หวังดีเริ่มนำแนวทางในการเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ก่อนในกลุ่มเป้าหมายที่มีความสำคัญ เพราะเชื่อว่าในอนาคตสามารถนำ Quantum Computing มาใช้ในการถอดรหัสข้อมูลเพื่อเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้ จึงได้เกิดรูปแบบการเข้ารหัสใหม่ขึ้นมา
ด้วยรูปแบบการเข้ารหัสใหม่บนโปรโตคอล PQ3 ของ iMessage ที่ออกแบบมารองรับการเข้ารหัสหลังควอนตัม จะทำให้การสื่อสารบน iMessage มีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม และป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานได้สูงที่สุดในปัจจุบันนี้
ทั้งนี้ iMessage ที่ใช้โปรโตคอล PQ3 ในการเข้ารหัส จะสามารถใช้งานได้บน iOS 17.4 รวมถึง iPadOS 17.4 macOS 14.4 และ watchOS 10.4 ที่จะทยอยเปิดให้ผู้ใช้งานอัปเดตได้ในอนาคตอันใกล้นี้
ภายใน iOS 17.4 ยังมีการปรับปรุงการแสดงผลสถานะของแบตเตอรี่เพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ในการแสดงผลว่าสุขภาพของแบตเตอรี่เป็นอย่างไร สามารถชาร์จได้ความจุสูงสุดที่เท่าไหร่ พร้อมแสดงผลจำนวนครั้งในการชาร์จ (Cycle Count) เพิ่มเติมด้วย