ระวังน้ำตาเช็ดหัวเข่า! 'ดีอี' เตือนคนโสดวันวาเลนไทน์อย่าตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกให้รักและโอนเงินออนไลน์ หลังค่าความเสียหาย 1 ปี 11 เดือน โผล่ 3,323 คดี เสียหาย 1,154 ล้านบาท
วันวาเลนไทน์ 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เตือนประชาชนเกี่ยวกับอันตรายจากการถูกหลอกลวงทางออนไลน์ในช่วงเทศกาลแห่งความรักนี้ ซึ่งมีรายงานว่า มิจฉาชีพมักใช้วิธีการเข้าหาเหยื่อผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยการทักทายและเสนอตัวเป็นเพื่อนหรือคนรัก ก่อนที่จะกลายเป็นการหลอกลวงเพื่อขอเงิน โดยมีรูปแบบการหลอกลวงหลายอย่าง เช่น หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน (Hybrid scam) หลอกให้รักแล้วกดลิงก์/ดาวน์โหลดแอปรีโมต (Remote access scam) ทำการดูดเงินในบัญชี และหลอกให้รักแล้วแบล็กเมล์ (Sextortion) ขู่กรรโชกทางเพศ เป็นต้น
นายประเสริฐ จึงแนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะคนโสดตระหนักถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นออนไลน์ และระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวหรือทำธุรกรรมทางการเงินกับคนที่พบผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลจากศูนย์บริหารรับแจ้งความออนไลน์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เก็บสถิติตัวเลขคดีหลอกให้รักและโอนเงินออนไลน์ (Romance scam) ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 จนถึง 31 ม.ค.67 รวมระยะเวลา 1 ปี 11 เดือน พบคดีหลอกให้รักและโอนเงินออนไลน์นี้มากกว่า 3,323 คดี ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่า 1,154 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายเฉลี่ยคดีละประมาณ 34,752 บาท
ทั้งนี้ 3 ตัวอย่างคดีหลอกให้รักและโอนเงินออนไลน์ ตามข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC 1441) เช่น คดีแรก ผู้เสียหายถูกหลอกให้โอนเงิน 1.9 ล้านบาท หลังจากที่มิจฉาชีพติดต่อมาผ่าน Facebook และสร้างความสนิทสนมผ่าน Line โดยอ้างว่าเดือดร้อนเรื่องเงิน ส่วนคดีที่ 2 มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท โดยมิจฉาชีพอ้างว่าจะส่งเงินและทองคำให้ผู้เสียหาย แต่ขอให้ผู้เสียหายจ่ายค่าภาษีในการส่งสินค้า และคดีที่ 3 มูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท มิจฉาชีพอ้างชื่อเป็นบุคคลอื่น จนคบหากัน จากนั้นขอให้ช่วยเหลือด้านการเงิน และค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อเดินทางมาพบกัน ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินไป แต่สุดท้ายติดต่อไม่ได้
"ขอให้ประชาชนใช้สื่อออนไลน์อย่างมีสติและรู้เท่าทัน และเตือนว่ามิจฉาชีพไม่เพียงแต่หลอกให้โอนเงินเท่านั้น แต่ยังหลอกให้ทำการบริจาค หรือชำระเงินค่าของขวัญผ่านร้านค้าออนไลน์ และหลอกให้เล่นการพนัน รวมไปถึงการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านไลน์ เพื่อนำไปใช้ในการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือการฉ้อโกง และป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ หลีกเลี่ยงความเสียหาย ควรมีความระมัดระวังและตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนทำธุรกรรมใดๆ กับคนที่ไม่รู้จัก" นายประเสริฐ กล่าว
สำหรับผู้ที่พบเบาะแสหรือสงสัยว่าอาจเป็นเหยื่อของการหลอกลวง รัฐมนตรีประเสริฐได้แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดและรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปยังศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของประเทศไทยที่ www.antifakenewscenter.com หรือศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC 1441) ซึ่งจะช่วยตรวจสอบ และป้องกันการหลอกลวงจากมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ
