AIS ประกาศวิสัยทัศน์ในการเดินหน้าพาประเทศไทยเติบโตในยุคดิจิทัล ภายใต้ ‘The Next Evolution’ สานต่อจุดยืนเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน นำโครงข่ายอัจฉริยะ ผสมผสานความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม และเป้าหมายในการสร้างความยั่งยืนในสังคม
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า ในวันนี้ AIS ได้เตรียมทำการวิวัฒน์ครั้งใหม่ให้อุตสาหกรรมโทรคมไทย ด้วยการนำ Live Network หรือเครือข่ายที่มีชีวิต ซึ่งทำได้มากกว่าการสื่อสารมาให้บริการแก่ลูกค้าที่จะเป็นส่วนสำคัญที่จะเข้ามาเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย
“การมีโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่ดีลำดับต้นๆ ของโลก ถือเป็นโอกาสของประเทศไทยที่ทำให้ประเทศเล็กๆ อย่างเรามีโอกาสแข่งขันกับประเทศใหญ่ รวมถึงผู้ประกอบการรายเล็กๆ ย่อยๆ ในอดีตจะไม่สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้เลย ถ้าไม่มีเทคโนโลยี หรือดิจิทัลเข้ามาช่วย”
นายสมชัย กล่าวย้ำว่า AIS ไม่ได้เปลี่ยนจุดยืนในเรื่องของเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Ecosystem Economy) ที่ยึดมั่นกับพาย 3 ชิ้น ในการอยู่ร่วมกันในสังคม เพราะโมเดลนี้จะขับเคลื่อนประเทศไทยที่มีความยั่งยืนในระยะยาว (Sustainable Nation)
“ในส่วนของเรื่องค่าบริการจริงๆ แล้วค่าบริการของโทรคมนาคมในประเทศไทย ถือว่าถูกมากๆ เพียงแต่ในช่วงอดีตที่ผ่านมามีการแข่งขันทางการตลาดที่ผิดปกติจากความต้องการการขยับจากเบอร์ 3 ขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 จนถึงการควบรวม ทำให้ผู้บริโภคอาจจะเคยชิน แต่พอวันนี้ทุกคนกลับไปสู่ราคาที่สมเหตุสมผล ที่สำคัญคือมี กสทช. ควบคุมอยู่แล้ว และราคาในปัจจุบันต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด“
มาร์ค ชอง ชิน ก็อก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวเสริมถึงความร่วมมือระหว่าง AIS และ NT ในการนำคลื่น 700 MHz ของ NT มาใช้งาน พร้อมทั้งการลงทุนขยายเครือข่ายเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องของความครอบคลุมในการใช้งานบนคลื่น 700 MHz รวมถึงเปิดให้ลูกค้าของ NT เข้ามาใช้งานเครือข่ายของ AIS ด้วยเช่นกัน
***Living Network เลือกใช้ดาต้าตามไลฟ์สไตล์
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนธันวาคม AIS จะเริ่มเปิดให้บริการ Living Network ที่ผู้บริโภคสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานเครือข่าย 5G ให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิต โดยมีให้เลือกทั้ง 5G Boost Mode ที่จะเข้าถึง 5G ในการดาวน์โหลดความเร็วสูง Live Mode ในการเพิ่มช่องอัปโหลดสำหรับผู้ที่ทำการไลฟ์สตรีม และ Game Mode ที่จะเน้นความเสถียร และลดความหน่วงในการใช้งาน
รูปแบบของ Living Network จะเปิดให้ผู้ใช้งานสมัครใช้บริการพิเศษเฉพาะช่วงเวลาหนึ่งเพิ่มเติมเข้าไป ซึ่งจะมีรายละเอียดชัดเจนมากขึ้นหลังจากมีการอัปเดตแอปพลิเคชัน myAIS 2.0 ในเบื้องต้นจะเริ่มให้บริการก่อนในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยใช้เทคโนโลยีของ 5G Network Slicing มาให้บริการ และจะมีบริการอื่นๆ ตามมาในอนาคต
ในขณะที่ AIS Fibre จะขยายบริการอย่าง 1 Gbps ในทุกห้องของบ้าน จากเทคโนโลยี FTTR รวมถึงในช่วงเดือนมกราคม จะมีการเปิดตัวเราเตอร์ WiFi 7 ซึ่งเร็วกว่า WiFi 6 ราว 4.8 เท่า ให้ความเร็วในการเชื่อมต่อสูงสุด 46 Gpbs ไม่นับรวมความร่วมมือกับ 3BB ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ช่วยให้มีเครือข่ายบรอดแบนด์ครอบคลุมมากกว่า 13 ล้านครัวเรือน
ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกาศเปิดให้บริการ Microsoft Teams เข้าสู่โครงสร้างของผู้ให้บริการโทรคมนาคม ทำให้ผู้ใช้งาน AIS สามารถโทร.เชื่อมต่อไปยัง Microsoft Teams ทั่วโลกได้ พร้อมกันนี้ ยังได้ประกาศนำ Generative AI อย่าง Microsoft 365 Copilot มาให้บริการแก่ลูกค้าในกลุ่มองค์กรธุรกิจด้วย
รวมถึงการเปิดให้บริการ Cloud PC for Enterprise จากความร่วมมือกับ ZTE เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในรูปแบบของ Desktop as a Service (DaaS) และมีความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลสูงสุด เพราะข้อมูลทุกอย่างถูกเก็บไว้บนคลาวด์
สำหรับความร่วมมือระหว่าง AIS ไปสู่ทุกธุรกิจในประเทศไทย ได้มีการเชื่อมต่อแพลตฟอร์ม AIS Points กว่า 1,100 ธุรกิจ มากกว่า 30,378 ร้านค้า มาเชื่อมต่อสร้างการเจริญเติบโตไปด้วยกัน จนถึงการเชื่อมต่อกับแอปเป๋าตัง เพื่อใช้ในการใช้จ่ายสู่ร้านค้าถุงเงิน พร้อมโปรโมชันรับพอยท์คืน 100%
นายสมชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า บทบาทหลักของ AIS นอกจากสร้างมาตรฐานทั้งมิติของสินค้า บริการ นวัตกรรม และการดูแลลูกค้า ยังมีภารกิจในการสนับสนุนการเดินหน้าของประเทศสู่การเป็น Sustainable Nation ซึ่งพนักงาน AIS ทุกคน พร้อมอย่างยิ่งที่จะทุ่มเทและทำให้ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน