แกร็บ (Grab) วางเป้าหมายใช้งานรถพลังงานสะอาดในระบบ 10% ภายในปี 2026 ร่วมมือกับ 7 พันธมิตรทำโปรแกรมผ่อน-เช่าใช้รถยนต์ไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อให้พาร์ตเนอร์คนขับสามารถเข้าถึง EV ได้ง่ายขึ้น
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวถึงการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งแกร็บถือเป็นแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและขนส่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ แกร็บเคยประกาศตั้งแต่ปี 2022 ว่าภายในปี 2026 จะเปลี่ยนรถที่ใช้งานในระบบ 10% ให้เป็นยานยนต์ไฟฟ้า
“ความท้าทายของแกร็บ คือการทำอย่างไรให้พาร์ตเนอร์คนขับเข้าใจว่าใช้รถอีวีแล้วจะดีกว่าอย่างไร ทั้งเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่าย ความสะดวกในการชาร์จ ซึ่งต้องทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่จะผลักดันอย่างครบวงจร”
โดยที่ผ่านมาข้อจำกัดหลักๆ ของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยคือ มีจำนวนน้อย แต่นับจากปี 2022 เมื่อเริ่มมีผู้ผลิต และผู้จำหน่ายเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้เพิ่มความความหลากหลายของยานยนต์ไฟฟ้าให้เลือกใช้งาน ทั้งในส่วนของรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์
นอกจากนี้ ยังต้องทำงานร่วมกับผู้ให้บริการจุดชาร์จรถอีวี ซึ่งในส่วนนี้แกร็บมีข้อมูลความหนาแน่นในการใช้งานในแต่ละพื้นที่ ทำให้สามารถแชร์ข้อมูลเพื่อติดตั้ง และให้บริการจุดชาร์จรถอีวีให้เพียงพอต่อความต้องการด้วย
พร้อมกันนี้ Grab พร้อมนำเสนอระบบผ่อน และเช่าแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในไทย ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจเช่าซื้อ และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พาร์ตเนอร์คนขับเข้ามาร่วมทำงานกับแกร็บ จากรถยนต์พลังงานสะอาด
น.ส.เมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ตเนอร์คนขับ แกร็บ ประเทศไทย ให้ข้อมูลเสริมว่า ที่ผ่านมานักลงทุนไม่มีข้อมูลเพียงพอในการปล่อยสินเชื่อให้พาร์ตเนอร์ขับรถทำให้ช่วงแรกการปล่อยสินเชื่อจะเป็นในลักษณะของการเช่าใช้ ร่วมกับพาร์ตเนอร์คนขับราว 1,000 คน ทำให้มีข้อมูลการใช้งานมาตอบโจทย์ของนักลงทุนทั้งในแง่ของความต้องการ รวมถึงข้อมูลในการลงทุนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มจุดชาร์จรถไฟฟ้าตามตำแหน่งต่างๆ
โครงการเช่าใช้รถยนต์มอเตอร์ไซค์ของแกร็บ สามารถเปลี่ยนแบตฯ โดยไม่มีข้อจำกัดในแต่ละวัน รับการบำรุงรักษาฟรี มีคอลเซ็นเตอร์พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และมีรถให้เปลี่ยนในกรณีที่รถเสีย ภายใต้โปรแกรม ‘เช่าครบจบบนแอป’ ที่ร่วมกับพันธมิตรอย่าง STROM, H SEM Motor และ Swap & Go ให้บริการ
สำหรับโปรแกรมเช่าใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สำหรับพาร์ตเนอร์คนขับในการจัดส่งอาหาร จัดส่งพัสดุ หรือรับผู้โดยสาร จะมีค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 125 บาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้พาร์ตเนอร์คนขับเข้าถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้กว่า 3,000 คันภายในปี 2024
ส่วนโปรแกรม “ผ่อนขับรับรถ” (Drive-to-Own) ที่แกร็บทำงานร่วมกับผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ และ Rever Automotive ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD นำรถ BYD ทั้ง 3 รุ่นมาเป็นทางเลือกในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า โดยไม่ต้องดาวน์ ระยะผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน ซึ่งสามารถเลือกผ่อนจ่ายได้แบบรายวันหักจากรายได้ในการให้บริการแต่ละวัน
โดยพาร์ตเนอร์คนขับจะใช้การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากทาง MOOVE ที่จะคำนวณจากประวัติในการให้บริการกับแกร็บ จึงเอ็กซ์คลูซีฟ เฉพาะผู้ขับที่ทำงานร่วมกันมานาน และมีประวัติการให้บริการดี ซึ่งคาดว่าโปรแกรมนี้จะเปิดให้จองรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD ได้ในได้ในช่วงต้นปี 2024 และช่วยให้พาร์ตเนอร์คนขับสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ 5,000 คันภายในปี 2025