บัซซี่บีส์ (BUZZEBEES) วางเป้าหมาย 5 ปีทำรายได้พุ่งกระฉูดจนบริษัทมีมูลค่าตลาดแตะหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ มั่นใจฝันเป็นจริงหลังเข้า IPO ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปีหน้า เชื่อแผนธุรกิจใหม่ช่วยสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจในตลาด "CRM & Digital Engagement" ขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน เดินหน้าบุกต่างประเทศเต็มรูปแบบทั่วภูมิภาค
นายไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง BUZZEBEES กล่าวถึงเป้าหมายธุรกิจล่าสุดของ BUZZEBEES ในงานแถลงข่าว UNLEAHING BUSINESS GROWTH : The Power of Ecosystem-Driven MarTech ว่า BUZZEBEES มีกำหนดการเข้า IPO ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีหน้า คาดว่าจะทำให้ธุรกิจแพลตฟอร์มสร้างการมีส่วนร่วมดิจิทัลและการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM & Digital Engagement Platform) ของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2027 บริษัทจะมีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
"เป้าหมายนี้ 5 ปีที่แล้วไม่กล้าพูด แต่ตอนนี้กล้าพูดว่าอีก 5 ปีข้างหน้า เราจะเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาด 1 หมื่นล้านดอลล์ หรือ 3.5 แสนล้านบาท เพราะไม่แค่ซอฟต์แวร์ แต่เราทำทั้งอีโคซิสเต็ม ทุกคนใช้ BUZZEBEES สร้างรายได้ และเราเองเป็นลูกค้าของลูกค้าด้วย ซึ่งสุดท้าย ลูกค้าช่วยเราสร้างอีโคซิสเต็มอีกทาง"
ซีอีโอ BUZZEBEES ย้ำว่า วิสัยทัศน์ของ BUZZEBEES ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อ 11 ปีที่แล้วคือ CONNECTING THE WORLD บริษัทต้องการเชื่อมธุรกิจทุกขนาดให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน และมีเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในวันนี้ BUZZEBEES ไม่ใช่แค่บริษัทที่เป็นผู้นำด้าน Loyalty Platform เหมือนที่ทุกคนเข้าใจอีกต่อไป แต่ BUZZEBEES เป็นธุรกิจที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานในโลกดิจิทัล (Digital Infrastructure) ผ่าน 4 ธุรกิจหลัก
ธุรกิจแรกคือธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM & Loyalty Platform) อีก 3 ธุรกิจคือ ธุรกิจจัดหาของรางวัลและสิทธิพิเศษ (Rewards & Privileges Management) ธุรกิจบริการอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร (E-Commerce Service) และธุรกิจบริการระบบจัดการร้านค้าและการรับชำระเงิน (Retail Solution & E-Payment) โดยทุกบริการครอบคลุมใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และล่าสุด ฮ่องกง
ปัจจุบัน BUZZEBEES ดูแลแพลตฟอร์มพันธมิตรกว่า 1,200 แพลตฟอร์ม และมีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มกว่า 145 ล้านบัญชี แน่นอนว่าบริษัทไม่หยุดอยู่ที่ฐานะผู้นำอันดับ 1 ด้าน CRM & Digital Engagement Platform ในประเทศไทย ดังนั้นในปี 2024 บริษัทจึงวางแผนเข้า IPO ตลาดหลักทรัพย์หลังเติบโตต่อเนื่อง 11 ปี
น.ส.ณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง BUZZEBEES กล่าวถึงการวางแผนเข้า IPO ตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ภายในปี 2024 ว่าเป็นการก้าวสู่ความสำเร็จอีกขั้นหลังเติบโตและมีกำไรต่อเนื่องตลอด 11 ปี เบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าปี 2023 เติบโตแบบก้าวกระโดดสู่รายได้ 3,400 ล้านบาท โดยเม็ดเงินทุนที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าตลาดจะถูกนำมาใช้เป็นกระสุนเพื่อบุกตลาดต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ร่วมกับการวางแผนธุรกิจใหม่กับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเสริมแกร่ง Ecosystem ในธุรกิจ CRM & Digital Engagement ต่อไป
"ภาพใหญ่ที่ BUZZEBEES มองคือการก้าวสู่การเป็น Ecosystem-Driven MarTech ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ BUZZEBEES เป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อแบรนด์ต่างๆ ให้สามารถเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน (Partnership Network)"
ณัฐธิดายกตัวอย่างการเปิดตัว ShopDD (ช้อปดีดี) แพลตฟอร์ม B2B Marketplace ขนาดใหญ่ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ร้านค้าและแฟรนไชส์ทั่วประเทศได้ชอปสินค้าราคาพิเศษ และเปิดตัว mePoint (มีพ้อยต์) นวัตกรรม PAY-WITH-POINT (จ่ายเงินด้วยแต้ม) Infrastructure ที่ใหญ่ที่สุด โดยเปลี่ยนคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตและ Loyalty Program ให้เป็นส่วนลดในการใช้จ่ายให้ร้านค้าพันธมิตรที่ร่วมรายการ
"เป็นการเพิ่มมูลค่าให้คะแนนสะสมให้มีความหลากหลาย ซึ่งจะเป็นอีกธุรกิจที่ช่วยลูกค้าให้เติบโตในโลกดิจิทัลได้อย่างครบวงจร เสริมแกร่ง Ecosystem-Driven MarTech ได้อย่างสมบูรณ์"
ในภาพรวม ผลการดำเนินงานของ BUZZEBEES มียอดเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2020-2022 มีรายได้อยู่ที่ 921 ล้านบาท 1,142 ล้านบาท และ 1,751 ล้านบาทตามลำดับ
นอกจากในปี 2023 ที่ BUZZEBEES ตั้งเป้าการเติบโตกว่าเท่าตัวอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท บริษัทยังมีแผนขยายตลาดด้าน CRM & Digital Engagement ให้ครอบคลุมในต่างประเทศมากขึ้น โดยล่าสุดได้มีการซื้อกิจการ BenePanda ในฮ่องกง เพื่อมุ่งขยายโมเดลการพัฒนาโซลูชันด้าน Employee Benefits & Wellness Platform ในกลุ่มพนักงานทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ
การซื้อกิจการครั้งนี้เป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่จากเดิมที่มุ่งเน้นกลุ่มผู้บริโภคในด้าน Loyalty Platform ของพันธมิตรเป็นหลัก คาดว่าจะทำให้ BUZZEBEES สามารถสร้างเครือข่ายด้าน Ecosystem-Driven MarTech ในต่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่งและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับกลยุทธ์แผนธุรกิจปีนี้ BUZZEBEES ได้พัฒนาโมเดลทางพันธมิตรธุรกิจรูปแบบใหม่โดยเน้นการทำ Productization มากยิ่งขึ้นเพื่อเจาะตลาดกลุ่ม B2B Technology Implementor & Digital Agency ผ่านการเปิดให้พันธมิตรเข้าถึงโซลูชันของ BUZZEBEES เพื่อนำไปให้บริการกับกลุ่มลูกค้าของตัวเอง โดยเร่งเปิดรับพันธมิตรรายใหม่เพื่อร่วมกันผลักดันให้ธุรกิจเติบโตไปพร้อมกัน
สถิติอื่นที่น่าสนใจจาก BUZZEBEES ในปี 2022 คือบริษัทสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิม (Retention) ที่ใช้บริการ BUZZEBEES ได้มากกว่า 90% ยอดพาร์ตเนอร์ร้านค้าด้าน Rewards & Privileges มีจำนวนมากกว่า 30,000 ร้านค้า และบริการ Online Marketing มีการเติบโตกว่า 700%