แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) กระตุ้นตลาดไทยเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคโฉมใหม่ การันตีปกป้องชีวิตดิจิทัลอย่างสมบูรณ์
น.ส.เบญจมาศ จูฑาพิพัฒน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย แคสเปอร์สกี้ กล่าวแสดงความภูมิใจที่ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทยในปีนี้ โดยย้ำว่าความเสี่ยงของการรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์กำลังเพิ่มขึ้น และชีวิตดิจิทัลก็เป็นเรื่องจริงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งปัจจุบัน โซลูชันการรักษาความปลอดภัยไม่ได้เป็นเพียงโซลูชันป้องกันไวรัสสำหรับพีซีเท่านั้น แต่เป็นระบบนิเวศที่ครอบคลุมบริการรักษาความปลอดภัยสำหรับทุกแพลตฟอร์มและทุกอุปกรณ์ ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้
"เราได้ปรับปรุงโครงสร้างอินเทอร์เฟสทั้งหมด รวมถึงประสบการณ์โดยรวมสำหรับผู้ใช้ของเรา เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้เข้าใจและชื่นชอบขอบเขตและระดับของการป้องกันที่แคสเปอร์สกี้มอบให้ ทั้งด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ ความเป็นส่วนตัว และข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแคสเปอร์สกี้ และเราภูมิใจที่ได้เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอโฉมใหม่ที่ให้การป้องกันมากกว่าเดิม โดยสอดคล้องกับความเป็นจริงของรูปแบบภัยคุกคามทางไซเบอร์และความต้องการของลูกค้า"
การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการประกาศเปิดตัวพอร์ตโฟลิโอโซลูชันสำหรับผู้บริโภครูปแบบใหม่ของ Kaspersky ที่เน้นการใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้ชาวไทย นอกเหนือจากชื่อแบรนด์ใหม่แล้ว กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่นี้ยังนำเสนอยูสเซอร์อินเทอร์เฟสและประสบการณ์ของผู้ใช้งานที่ได้รับการปรับปรุงในหลายแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ ยังนำเสนอคุณสมบัติที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมการคุ้มครองแต่ละประเภทแก่ผู้บริโภคสมัยใหม่ ได้แก่ ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว ประสิทธิภาพ และข้อมูลส่วนบุคคล
ปัจจัยบวกต่อการเปิดตัวครั้งนี้คือสถิติในปี 2565 ระบบตรวจจับของแคสเปอร์สกี้ค้นพบไฟล์ที่เป็นอันตรายใหม่โดยเฉลี่ย 400,000 ไฟล์ต่อวัน ซึ่งแสดงถึงจำนวนที่เพิ่มขึ้น 20,000 ไฟล์ต่อวันเมื่อเทียบกับปี 2564 นอกจากนี้ แคสเปอร์สกี้ยังบล็อกการโจมตีจากแหล่งออนไลน์มากถึง 505,879,385 ครั้ง
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้สกัดการโจมตีด้วยโมบายมัลแวร์ได้ 207,506 ครั้ง และสกัดการโจมตีในประเทศไทย จำนวน 14,050 ครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีภัยคุกคามประเภทใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสตีลเลอร์ (stealer) ตัวขโมยขั้นสูงที่กำหนดเป้าหมายเป็นบัญชีของแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ยอดนิยม หรือกระเป๋าเงินคริปโตฯ รวมถึงสตอล์กเกอร์แวร์ (stalkerware) ที่เปิดช่องให้ผู้กระทำความผิดแอบสอดแนมชีวิตส่วนตัวของบุคคลอื่นผ่านโมบายดีไวซ์
"ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้จะต้องมีคำตอบสำหรับทุกสถานการณ์ที่อาจเป็นไปได้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ชีวิตดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการทำฟาร์มทองคำในเกม MMORPG ที่ชื่นชอบ การแนะนำเด็กๆ ให้รู้จักกับแท็บเล็ตเครื่องแรก การจัดสรรวิดีโอคอลให้แก่สมาชิกอาวุโสของครอบครัว รวมถึงการสำรวจและลองทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขั้นต่อไป เช่น การสร้างบ้านอัจฉริยะ หรือการท่องเที่ยวใน ‘เมตาเวิร์ส’ (metaverse)" Kaspersky ระบุ
เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายและความจำเป็นที่กำลังพัฒนาเหล่านี้ แคสเปอร์สกี้ได้ปรับเปลี่ยนโฉมหน้าการคุ้มครองผู้บริโภคของบริษัทให้ “เหนือกว่าการเป็นแอนติไวรัส” และวางแนวทางใหม่และวิสัยทัศน์เชิงวิวัฒนาการสำหรับอนาคตในปีต่อๆ ไป
เบื้องต้น Kaspersky แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ออกเป็น 3 แบบแผน ได้แก่ Kaspersky Standard, Kaspersky Plus และ Kaspersky Premium แผนต่างๆ ที่อัปเดตตอนนี้เป็นแบบไม่จำกัดที่แพลตฟอร์ม และทุกแผนมีการป้องกันสำหรับอุปกรณ์ประเภทต่างๆ ทั้งบน Windows, Mac, iOS และ Android ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงระดับของฟังก์ชันที่มีให้ผู้ใช้ในระบบนิเวศทั้งหมดของบริการสำหรับผู้บริโภคของแคสเปอร์สกี้
ผู้บริโภคที่เลือกใช้ Kaspersky Standard จะได้รับฟังก์ชันความปลอดภัย รวมถึงการป้องกันจากภัยคุกคามดิจิทัลล่าสุดแบบเรียลไทม์ รวมถึง Safe Browsing & Anti-Phishing เพื่อป้องกันเว็บไซต์ การดาวน์โหลด และเอ็กเท็นชันที่เป็นอันตรายต่างๆ แผนมาตรฐานนี้ยังเสนอเครื่องมือกำจัดไวรัส Pre-Kaspersky แก่ผู้ใช้ ซึ่งจะสามารถค้นหาและกำจัดไวรัสที่อาจพบช่องทางเข้าสู่พีซีของผู้ใช้ก่อนที่จะติดตั้งผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ นอกจากนี้ แผนมาตรฐานนี้ยังรวมถึง Firewall และ Network Monitor หรือการตรวจสอบเครือข่ายซึ่งจะแสดงว่าแอปใดบ้างที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพทั้งชุด ได้แก่ Quick Startup, PC Speed-up และเครื่องมือ Disk Space Cleanup โหมด Game และโหมด Do Not Disturb โหมดห้ามรบกวน ซึ่งจะเปิดโดยอัตโนมัติระหว่างเล่นเกม ทำงาน หรือขณะที่กำลังสตรีมภาพยนตร์บนพีซี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ถูกรบกวน และลดการใช้ทรัพยากรระบบให้เหลือน้อยที่สุด ช่วยให้จัดสรรงานที่สำคัญได้ใหม่ การตรวจจับสตอล์กเกอร์แวร์พร้อมการป้องกันเว็บแคมและไมโครโฟนเป็นคุณสมบัติบางส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัวที่มีให้สำหรับผู้ใช้งานแผนมาตรฐานนี้
สำหรับแผน Kaspersky Plus จะมีความสามารถด้านความเป็นส่วนตัวที่โดดเด่นกว่าแผนแรก ผู้บริโภคที่ใช้แผนนี้จะสามารถเข้าถึงทุกอย่างที่มีอยู่ใน Kaspersky Standard รวมถึง VPN และ Premium Password Manager อย่างไม่จำกัด ผู้ใช้จะได้รับเครื่องมือ Data Leak Checker ซึ่งใช้ตรวจสอบอินเทอร์เน็ตและเว็บมืด และเตือนผู้ใช้หากข้อมูลส่วนตัวถูกบุกรุก รวมถึงให้คำแนะนำสิ่งที่ต้องปฏิบัติต่อไป นอกจากนี้ แผนนี้ยังรวมมี Password Safety Status แสดงสถานะความปลอดภัยของรหัสผ่าน ซึ่งสามารถปรับปรุงการป้องกันรหัสผ่านโดยการตรวจสอบสถานะความปลอดภัยของรหัสผ่านและความไวต่อการรั่วไหล ภายใต้แผน Kaspersky Plus นี้ ผู้ใช้ยังสามารถดูได้ว่าอุปกรณ์ใดเชื่อมต่อกับเครือข่ายในบ้านบ้าง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเจ้าของเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม
ขณะที่แผน Kaspersky Premium มีคุณลักษณะหลากหลายมากที่สุด เพิ่มความสามารถที่กล่าวก่อนหน้านี้ทั้งหมด โดยรวมถึงการป้องกันข้อมูลประจำตัวทางดิจิทัลและการสนับสนุนทางเทคนิคระดับพรีเมียม ด้วยการเข้าถึงบริการโทรศัพท์หรือแชตที่มีลำดับความสำคัญ ความช่วยเหลือในการติดตั้งจากผู้เชี่ยวชาญระยะไกล และการตรวจสอบสุขภาพพีซีส่วนบุคคล เพื่อให้การป้องกันตัวตนอย่างครอบคลุม ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Identity Protection Wallet ซึ่งเก็บสำเนาข้อมูลที่ละเอียดอ่อน (เช่น หนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตขับขี่) ในรูปแบบการเข้ารหัส เพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูลประจำตัว และช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลอย่างปลอดภัยในทุกอุปกรณ์ นอกจากนี้ ลูกค้าที่ใช้งาน Kaspersky Premium ทั้งหมดจะได้ใช้งาน Kaspersky Safe Kids ฟรีหนึ่งปีเป็นโบนัส ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ปกครองได้
"ในอนาคต แคสเปอร์สกี้กำลังวางแผนที่จะพัฒนาระบบนิเวศและขยายรายชื่อพันธมิตรและการบูรณาการ เพื่อมอบคุณค่าและบริการที่มากขึ้นแก่ผู้ใช้" Kaspersky ทิ้งท้าย