ผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขาใช้เวที open talk ของศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี OPEN-TEC ประกาศ Digital Transformation คือการเดินทาง ไม่ใช่ปลายทาง ย้ำเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเอาตัวรอดจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไปได้
น.ส.วรนุช เดชะไกศยะ Executive Chairman, Kasikorn Business Technology Group (KBTG) หนึ่งในผู้ให้ข้อมูลจากรายการ open talk EP.31 ตอน Be Tech Leader and Build Ones ระบุว่าในองค์กรใหญ่มักมีคนหลายเจเนอเรชันทำงานร่วมกันอยู่ แต่ละคนจะมี Skill หรือความสามารถที่แตกต่างกันออกไป เพียงแต่ว่าองค์กรต้องคิดและเตรียมรับมือกับเวลาที่เดินหน้าไปเรื่อยๆ และแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา
"แล้วเราจะมีการ Reskill หรือปรับทักษะของคนเหล่านี้อย่างไรเพื่อที่จะตามทันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ สิ่งสำคัญคือเราต้องมีความเชื่อมั่นและมีทัศนคติที่ดี เพื่อที่จะสามารถกระตุ้นให้เขารู้สึกอยากทำงานและสามารถดึงศักยภาพในตัวของเขาออกมาได้ เพื่อให้เขาเป็น Next Successor และเป็น Next Leader ได้ในที่สุด"
คำกล่าวของวรนุช สอดคล้องกับปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตของผู้คนเป็นอย่างมาก ทั้งแนวคิด สังคม ชีวิตประจำวัน รวมถึงวิธีการทำงาน และด้วยความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดและความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ส่งผลให้หลากหลายองค์กรต่างต้องหาหนทางปรับตัวตาม ไม่ว่าจะเป็นการ Upskill การ Reskill และใช้เทคโนโลยีเข้ามาต่อยอด เพื่อยกระดับองค์กรให้ก้าวทันกับการถูก Digital Disruption
เมื่อเห็นได้ชัดว่า Digital Transformation จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเอาตัวรอดจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไปได้ OPEN-TEC ศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี (Tech Knowledge Sharing Platform) ภายใต้การดูแลของ TCC TECHNOLOGY GROUP จึงได้หยิบยกมุมมองในการทำ Digital Transformation จากผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขาที่ให้เกียรติมาร่วมมาแบ่งบันประสบการณ์ในรายการ open talk มาแบ่งปัน บนนิยามของคำว่า Digital Transformation (DX) คือ การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและธุรกิจเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่รากฐานขององค์กร ไปจนถึงกระบวนการส่งมอบให้ลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดมากขึ้นในยุคที่แห่งการเปลี่ยนแปลงนี้
"แม้ปัจจุบัน Digital Transformation เป็นสิ่งที่หลายๆ องค์กร และธุรกิจนั้นต่างพยายามทำที่จะให้สำเร็จ แต่ยังมี" OPEN-TEC อธิบาย "การทำ Digital Transformation ให้สำเร็จนั้นไม่ใช่แค่การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความยั่งยืนที่ก่อตัวขึ้นมาจากสิ่งสำคัญ 3 มิติ คือ มิติทางวัฒนธรรมองค์กร มิติทางกระบวนการธุรกิจขององค์กร และมิติด้านข้อมูลและเทคโนโลยีที่เข้ามาผสมผสานในการทำงาน"
สรุปได้ว่า การทำ Digital Transformation นั้นควรเริ่มต้นพิจารณาวัฒนธรรมของธุรกิจที่มีอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่จะทำ Digital Transformation โดยวัฒนธรรมแบบเดิมๆ อาจทำให้ปฏิบัติงานได้ แต่ยังขาดจิตวิญญาณของความเป็นนวัตกรรมที่จะทำให้การทำ Digital Transformation นั้นประสบความสำเร็จ ดังนั้น ยิ่งมีการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นให้พนักงานได้รับรู้และรับมือมากเท่าไหร่ พวกเขาจะยิ่งมีความพร้อมมากขึ้นเท่านั้น
ดร.กำพล ศรธนะรัตน์” ที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ก.ล.ต. และประธานชมรม DPO จากรายการ open talk EP.28 ตอน Digital Transformation is a Journey, not a destination กล่าวว่า การทำ Digital Transformation ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่การจะไปสู่เป้าหมายนั้นได้จะต้องกำหนดตัวชี้วัด
"เพื่อให้ตัวชี้วัดนั้นสำเร็จ เราต้องรู้ก่อนว่าจะต้องทำงานอะไร และทำอย่างไร ดังนั้น Digital Transformation จึงไม่ใช่เพียง Project ของการเอาเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กรเฉยๆ แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนทั้งองคาพยพ"
ในภาพรวม หลักการของการทำ Digital Transformation เพื่อเป้าหมายสู่ความสำเร็จนั้นทีมผู้นำ หรือผู้บริหารจะต้องวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับองค์กร โดยตอบคำถามว่าแผนการริเริ่มคืออะไร และทำไมต้องทำ ขอบเขตของการทำ Digital Transformation มีอะไรบ้าง? ทำไมองค์กรจึงเข้าสู่กระบวนการ? ผลลัพธ์ที่จำเป็นคืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร? อะไรคือความเสี่ยงของการไม่ทำโครงการ? เมื่อมีการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับองค์กรโดยรวมแล้ว ถึงเวลาเผยแพร่ข้อความเหล่านั้นไปยังทุกคนในองค์กร
รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์” ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการสถาบัน IMC จากรายการ open talk EP.33 ตอน Driving Data Culture กล่าวว่า วันนี้เป็นยุคของ Digital Disruption หลายองค์กรมองเห็น Digital Transformation เป็นทางรอด แต่การจะ Transform ได้นั้น สิ่งสำคัญคือต้องมี Data และในองค์กรทุกองค์กรต่างมี Data เยอะแยะมากมาย แต่ไม่เคยเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์
"เหตุเพราะเราไม่ได้สร้างวัฒนธรรมการใช้ Data ในองค์กร ดังนั้น Data Culture จึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องฝึกให้คนในองค์กรใช้ Data ในการตัดสินใจ" ดร.ธนชาติ สรุป "หนึ่งในแรงผลักดันที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่ความเป็นดิจิทัลได้นั้น คือ ความสามารถในการจัดการและการเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ รวมถึงการใช้ประโยชน์ของข้อมูลให้กลายเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Organization) ดังนั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและช่วยให้ตามทันโลก การมี Data Culture ในองค์กรจึงเป็นสิ่งสำคัญ"
ดังนั้น การทำ Digital Transformation จึงคือการเดินทาง ไม่ใช่ปลายทาง องค์กรไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างพร้อมกันในครั้งเดียว แต่สามารถเริ่มทำทีละส่วนตามความจำเป็นของธุรกิจ
"และแม้ว่า Digital Transformation จะเป็นสิ่งที่ท้าทายแต่ก็นับได้ว่าเป็นการเดินทางที่จำเป็น แต่หากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน และรู้ว่าเทคโนโลยีใดที่จะช่วยให้กระบวนการทำงานเกิดผลลัพธ์ได้นั้น การสร้างมูลค่าจากการทำ Digital Transformation จะสามารถทำได้ง่ายขึ้น" OPEN-TEC สรุป