สำนักนายกฯ เวียนประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ “สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี” ตามกฎหมายใหม่ มีผลคุ้มครอง ทั้ง “ขรก.การเมือง-ขรก.ประจำ-ข้อมูลวิเคราะห์เชิงสถิติ” ย้ำ! จัดเก็บผ่านระบบไอที-เอกสาร ตามระยะเวลา และเท่าที่จำเป็น เมื่อพ้นกำหนด มีอำนาจลบ ทำลาย หรือ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคล ที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
วันนี้ (25 เม.ย.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ออกหนังสือเวียนประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ใจความว่า โดยที่ได้มีการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จึงเป็นการสมควรที่ สลน.จะกำหนดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ สลน. ดังต่อไปนี้
1. การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สลน.จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ทางเอกสารและช่องทางอื่นเท่าที่จำเป็น
ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ สำนักงาน กอง สำนัก ศูนย์ กลุ่ม ภายใต้อำนาจหน้าที่วัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของ สลน.ตามที่กฎหมายกำหนด
ในกรณีที่ สลน.จะใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อวัตถุประสงค์อื่น สลน.จะแจ้งความประสงค์ ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด
2. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล สลน. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็น ในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เว้นแต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้เก็บรักษาไว้ เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว สลน. จะลบ ทำลาย หรือ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
3. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล สลน.จะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการโจรกรรมหรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญหาย การเข้าถึง การใช้การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข
รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับประกาศนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการรักษามั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ พ.ศ. 2561
ในกรณีที่ สลน.มอบหมายให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอก เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของ ข้อมูลแทน สลน.เช่น การวิเคราะห์เชิงสถิติ ฯลฯ
สลน.จะจัดให้มีข้อตกลงระหว่างกันเพื่อควบคุมการดำเนินงานตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
โดยกำหนดให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นความลับและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
รวมทั้งป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยเพื่อการอื่นใด โดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย
4. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการขอถอนความยินยอม และสิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล