xs
xsm
sm
md
lg

Amity แตกบริษัทย่อยลุย AI เน้นตลาดไทย เตรียม IPO ไตรมาส 3 ปี 67

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แอมิตี้ (Amity) เปิดแบรนด์ใหม่ "แอมิตี้ โซลูชันส์" (Amity Solutions) วางตัวเป็นบริษัทลูกเพื่อโฟกัสตลาดไทยและอาเซียน มั่นใจแตกเพื่อโตรับแผนเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้สาธารณชน (IPO) ในไตรมาส 3 ปี 2567 เล็งนำเงินไปเร่งลงทุนพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ขับเคลื่อนด้วย GPT

นายกรวัฒน์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง Amity กล่าวว่า การตั้งบริษัท Amity Solutions ครั้งนี้แสดงถึงการแบ่งกันอย่างชัดเจนระหว่างธุรกิจของ Amity ที่เป็นธุรกิจชุดคำสั่งสำเร็จรูปเพิ่อการพัฒนาโซเชียลฟีเจอร์ (Software Development Kit) และธุรกิจระบบส่วนติดต่อแอปพลิเคชัน (Application Program Interface) ที่มีการเติบโตเกิน 1000% และเน้นขายในตลาดโลก กับธุรกิจของ Amity ในตลาดไทย

"เป้าหมายของ Amity Solutions คือการขยายงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี AI-GPT ของ Amity ให้เป็นโซลูชันชั้นนำของตลาด เพื่อให้บริการและเพิ่มประสิทธิภาพระบบ AI" กรวัฒน์กล่าว "ตลาดไทยมีความเข้มแข็งกว่าตลาดต่างประเทศ เราต้องการเร่งลงทุนเพื่อให้เป็นผู้นำในภูมิภาค จะได้นำหน้าและหาพันธมิตรสร้างทีมให้เติบโตได้เร็ว ซึ่งแม้เราจะเป็นบริษัทที่มีศูนย์กลางอยู่ในประเทศไทย แต่เราเป็นบริษัทระดับโลกด้วย Amity Solutions จะสามารถต่อยอดธุรกิจบนเครือข่ายลูกค้าต่างประเทศของ Amity"

หลังการตั้งบริษัทใหม่ ธุรกิจหลักของ amity solution จะประกอบด้วยโปรดักต์ดั้งเดิม "เอโค่" (Eko) ผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติและระบบเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมภายในองค์กร และ "แอมิตีบอตส์" (Amity Bots) ผลิตภัณฑ์แชตบอต นอกจากนี้ ธุรกิจ Amity Solutions จะมีรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็น API รวมถึงโซลูชันและผลิตภัณฑ์ AI-GPT หรือ generative pre-training transformer ที่เริ่มพัฒนามาแล้ว 3 เดือน และมีการนำร่องใช้ในพันธมิตรบริษัทไทยแล้ว

โดยรวมแล้วผลิตภัณฑ์ Amity มียอดผู้ใช้งานมากกว่า 20 ล้านคนต่อเดือน สำหรับเทคโนโลยี GPT ของ Amity ที่เพิ่งเปิดตัวไปล่าสุด บริษัทมีเป้าหมายที่จะนำโซลูชัน AI ที่ขับเคลื่อนด้วย GPT รวมเข้า (integrate) กับผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด อีกทั้งยังลงทุนเพิ่มเติมเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชัน AI ที่ขับเคลื่อนด้วย GPT ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เพื่อให้แน่ใจว่า Amity Solutions จะมีทรัพยากรที่เหมาะสมและพา Amity เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ที่ขับเคลื่อนด้วยพลัง GPT บริษัทได้วางแผนเสนอขาย IPO บริษัท Amity Solutions ในไตรมาส 3 ปี 2567 ในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนของการประเมินตัวเลือก IPO ในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาคเพื่อกำหนดขั้นตอนต่อไปของบริษัท

ยอดผู้ใช้งานต่อเดือน (monthly active users: MAUs) พุ่งสูงขึ้นจากประมาณ 30,000 รายเมื่อต้นปี 2565 ขึ้นเป็นมากกว่า 1.1 ล้านรายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566
ในขณะที่ Amity Solutions มีเป้าหมายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ SaaS ที่เสนอขาย IPO รายแรกของภูมิภาค โดยมองที่ตลาดหุ้นไทยและสิงคโปร์ แต่ธุรกิจระดับโลกที่มีการเติบโตสูงของ Amity ที่เน้นขายผลิตภัณฑ์ “แอมิตีโซเชียลคลาวด์ (Amity Social Cloud: ASC)” จะยังคงดำเนินกิจการแบบเอกชน โดยมีเป้าหมายที่จะจดทะเบียนในตลาดแนสแดค (NASDAQ) ในอีกราว 5 ปีข้างหน้า

อีกปัจจัยหลักที่ทำให้ Amity มั่นใจว่าจะสามารถ IPO ที่แนสแดคได้คือการเติบโตของธุรกิจ Amity Social Cloud ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยขับเคลื่อนชุมชนดิจิทัล และโซเชียลฟีเจอร์ในแอปพลิเคชัน โดยสามารถ plug-in เข้ากับแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ใดก็ได้ นับตั้งแต่เปิดตัวทั่วโลกเมื่อต้นปี 2564 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดยุโรปและอเมริกา โดยมียอดผู้ใช้งานต่อเดือน (monthly active users: MAUs) พุ่งสูงขึ้นจากประมาณ 30,000 รายเมื่อต้นปี 2565 ขึ้นเป็นมากกว่า 1.1 ล้านรายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยมีสำนักงานอยู่ในลอนดอน และมิลาน มีลูกค้าเป็นแบรนด์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกาและยุโรปหลายสิบแห่ง และธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์


กำลังโหลดความคิดเห็น