xs
xsm
sm
md
lg

เปิดวิชั่น ‘AIS Business’ พาองค์กรไทยสู่ดิจิทัล (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



AIS Business เปิดแผนทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศไทย และระดับโลก ยกระดับผู้ประกอบการธุรกิจไทยเข้าสู่ ‘Digital Economy’ เพื่อร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโต พร้อมกับผลักดันให้ธุรกิจลูกค้าองค์กรสามารถเติบโตเหนือตลาดได้ จากปัจจุบันที่มีรายได้ราว 5,300 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 26%

แม้ว่าปัจจุบันขนาดของฝั่งธุรกิจองค์กร AIS Business จะมีสัดส่วนรายได้ราว 3.9% หรือราว 5,300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรายได้รวม 1.85 แสนล้านบาทของ AIS แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจ โดยในปี 2564 รายได้จากธุรกิจองค์กรของ AIS จะอยู่ที่ราว 4,200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 18% ส่วนในปี 2565 ปรับขึ้นมาเป็น 5,300 ล้านบาท เติบโตถึง 26% และในปีนี้มีโอกาสที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราการเติบโตที่สูงกว่าตลาดรวม

ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า หลังจากการเตรียมความพร้อม และปรับตัวของ AIS ที่เปลี่ยนผ่านจากการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม สู่ดิจิทัลไลฟ์ และปัจจุบันคือ Cognitive Tech-Co ภารกิจของทาง AIS Business คือการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเดินหน้าต่อไปได้

“ที่ผ่านมา AIS มีการลงทุนทั้งด้านโครงข่ายไร้สาย และมีสายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำดิจิทัลเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพของเครือข่ายให้มีความอัจฉริยะมากขึ้นอย่าง Autonomous Network รวมถึง Intelligent IT และ AI & Data Analytics”

ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS
จากการลงทุนดังกล่าว ทำให้ AIS สามารถสร้างความชาญฉลาดของเน็ตเวิร์กใหม่ๆ เข้ามาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อที่ในอนาคตจะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นตามแต่ความต้องการของผู้ใช้งาน ทั้งในกลุ่มของคอนซูเมอร์ และภาคธุรกิจที่มีความต้องการแตกต่างกัน

การที่ AIS มีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ครบ พร้อมด้วยการเปิดแพลตฟอร์มอย่าง AIS 5G NextGen จะทำให้ภาคธุรกิจสามารถเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี และโซลูชันจากพันธมิตร ผลักดันให้เกิดการนำดิจิทัลไปใช้ ต่อเนื่องไปยังการทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีการเติบโต

เป้าหมายของ AIS Business ในปีนี้จะเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของ CCIID
ปัจจุบัน AIS Business มีพาร์ตเนอร์กว่า 200 ราย ทั้งในประเทศไทย และระดับโลก ทำให้ในช่วงปีที่ผ่านมา ลูกค้าในฝั่งของ AIS Business มีการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 2 แสนการเชื่อมต่อโดยเฉพาะในกลุ่มของ 5G ที่เติบโตกว่า 40% และการเข้าใช้บริการคลาวด์ที่เติบโตมากกว่า 200%

สำหรับเป้าหมายของ AIS Business ในปีนี้จะเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของ CCIID (Cloud, Cyber Security, IoT, ICT Solutions และ Data Center) ที่เข้าไปเชื่อมกับ 5G NextGen Platform และ CloudX ทำให้สามารถรับการเติบโตของข้อมูลจำนวนมากได้ภายใน 4 อุตสาหกรรมหลักคือ การผลิต ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ที่เสริมด้วยสมาร์ทซิตี และการขนส่ง เสริมด้วยการนำโซลูชันเข้าไปตอบโจทย์ในฝั่งของธุรกิจการเงิน การธนาคาร ภาครัฐ และผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs)

***เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน

แนวทางของ AIS Business ในปีนี้จะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์อย่าง ‘เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน’ ที่จะเข้าไปช่วยให้ลูกค้าภาคธุรกิจสามารถสร้างการเติบโตจากการนำเทคโนโลยีเข้าไปใช้ พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่น และความปลอดภัยในการเข้าถึงดิจิทัล ภายใต้การทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การเข้าไปช่วยเร่งการเติบโต (Growth) ของธุรกิจจากการสร้างขีดความสามารถใหม่ในการแข่งขันด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปเสริม ตั้งแต่การเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจจาก AIS 5G และการนำแพลตฟอร์มคลาวด์เข้าไปใช้งาน

ปัจจุบัน AIS Business มีพาร์ตเนอร์กว่า 200 ราย ทั้งในประเทศไทย และระดับโลก


ตามด้วยการช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถนำข้อมูล (Data) ที่มีมาใช้งานให้เกิดประสิทธิผลสูงที่สุด อย่างโซลูชันเกี่ยวกับการบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะ (Data Analytics as a Service) จนถึงการช่วยให้เข้าใจลูกค้าเพื่อสร้างจุดต่างเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากโซลูชันวิเคราะห์ข้อมูล ควบคู่กับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า (Data Insight & Lifestyle as a Service)

นอกจากนี้ ยังพร้อมที่จะเข้าไปช่วยภาคอุตสาหกรรมในการนำเทคโนโลยีเข้าไปเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดค่าใช้จ่าย รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรได้ดีขึ้นจากสมาร์ทโซลูชันที่ครอบคลุมทั้ง Smart Manufacturing, Smart Transportation & Logistics, Smart City & Building, และ Smart Retail

ถัดมาในส่วนของการเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ปลอดภัย และเชื่อถือได้ (Trusted) ที่นำความพร้อมจากการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา นำเสนอบริการคลาวด์ และเน็ตเวิร์กที่มีความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ ซิเคียวริตีที่ผ่านข้อกำหนดของแต่ละอุตสาหกรรม ซึ่งนอกจากความสามารถของเครือข่ายที่รวดเร็ว มีความยืดหยุ่นในการใช้งานแล้ว ยังเข้าไปตอบโจทย์ในแง่ของการยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลและระบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยขององค์กร

“การที่ AIS มีเน็ตเวิร์กที่แข็งแรง รวมถึงการเชื่อมต่อไปยังดาต้าเซ็นเตอร์ หรือคลาวด์แพลตฟอร์มต่างๆ ที่ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งช่วยทำให้การเข้าถึงข้อมูลทำได้รวดเร็วขึ้น ยังมีในส่วนของซัปพอร์ตเซอร์วิสที่ดูแลลูกค้าเฉพาะรายทำให้มั่นใจถึงบริการที่ลูกค้าจะได้รับ”

ขณะเดียวกัน ในอนาคตข้อมูลต่างๆ ที่อยู่บนโครงข่ายของ AIS ยังสามารถนำมาช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ภาคอุตสาหกรรมได้อีกมากมาย โดยเฉพาะในกลุ่มของรีเทล ที่สามารถนำข้อมูลการใช้งานบนเครือข่ายมาใช้วิเคราะห์ป้ายโฆษณาในแต่ละพื้นที่ว่ามีโอกาสที่ลูกค้าจะเห็นมากน้อยแค่ไหน

ตัวอย่างสมาร์ทโซลูชันของ AIS






สุดท้าย คือการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเพื่อธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable) ที่กลายเป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจต้องให้ความใส่ใจมากขึ้น ทาง AIS Business มีอีโคซิสเต็มให้ผู้ที่พัฒนานวัตกรรมทางด้านสิ่งแวดล้อมสามารถเข้ามาเชื่อมต่อภายใน AIS 5G NEXTGen Platform เปิดทางให้ลูกค้าธุรกิจสามารถนำโซลูชันต่างๆ ไปใช้งานได้ 

ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันที่เข้ามาช่วยในการบริการจัดการการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยคาร์บอน การปล่อยน้ำเสียโดยใช้ข้อมูลแบบ real-time จากอุปกรณ์ IoT คาดการณ์การใช้พลังงานล่วงหน้า ให้สามารถตัดสินใจวางแผนการทำงาน หรือการผลิตได้อย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่าง e-Waste, Academy for Thai และอุ่นใจไซเบอร์

เช่นเดียวกับในฝั่งของผู้ประกอบการรายย่อย ในปีที่ผ่านมา AIS SME 5G มีการเติบโตในส่วนของการนำ 5G ไปใช้งาน ทำให้ในปีนี้จะมีการนำคอนเซ็ปต์ที่สื่อสารไปพร้อมกับฝั่งของคอนซูเมอร์ อย่างการตอกย้ำภาพของการเป็นเครือข่ายคุณภาพ สัญญาณครอบคลุม มีโซลูชันที่หลากหลายครบวงจร เสริมความมั่นใจในแง่ของความถูกต้องของค่าบริการ บริการหลังการขาย ตามด้วยบริการดิจิทัลต่างๆ และสิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า SME

“สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นมากนักคือการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยในธุรกิจจริงๆ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาทำให้ผู้ประกอบการบางรายเลื่อนการลงทุนดิจิทัลออกไป แต่เชื่อว่าในปีนี้จะมีโอกาสได้นำเสนอโซลูชันเข้าไปช่วยเหลือภาค SME มากกว่าเดิม”




กำลังโหลดความคิดเห็น