xs
xsm
sm
md
lg

ดีอีเอสคาด 30 สมาร์ทซิตี สร้างเม็ดเงินลงทุนจากภาคเอกชนกว่า 6 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดีอีเอสคาด 30 เมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี) สร้างเม็ดเงินการลงทุนจากภาคเอกชนกว่า 6 หมื่นล้านบาท พร้อมเดินหน้าผลักดันเมืองอัจฉริยะอีก 50 เมืองทั่วประเทศ ชูเทศบาลเมืองหัวหินสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ หรือ smart city ว่าขณะนี้ทางรัฐบาลได้เร่งส่งเสริมให้เกิดเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศ โดยส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีไปใช้ในหน่วยงานและองค์กรภาครัฐ และมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาเมืองและพื้นที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและชีวิตความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึง

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีเมืองอัจฉริยะอยู่ 30 เมือง โดยมีการประเมินว่าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะช่วยให้เกิดโอกาสการลงทุนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท รวมถึงจะมีการสร้างมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ มีการตั้งเป้าหมายว่าประเทศไทยจะมีเมืองอัจฉริยะเพิ่มขึ้นเป็น 45-50 เมือง และจะได้เห็นผลเป็นรูปธรรมได้ภายในปีนี้ โดยเน้นเมืองสำคัญและเมืองท่องเที่ยว อย่างหัวหิน และสมุยจะอยู่ในแผนการพัฒนาส่งเสริมเมืองอัจฉริยะด้วย ส่วนงบประมาณในการดำเนินการเมืองอัจฉริยะทางรัฐบาลจะช่วยสนับสนุน และท้องถิ่นเองจะต้องร่วมกันผลักดันด้วย

นอกจากนี้ รมว.ดีอีเอสยังได้เยี่ยมชมศูนย์ CCTV และห้องควบคุม เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ ตรวจสอบเมืองให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย ไร้อาชญากรรม

ขณะที่ นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า กล่าวว่า การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในระดับท้องถิ่นดำเนินการในหลากหลายมิติ ตั้งแต่การสนับสนุนพื้นที่ให้พัฒนาแผนเมืองอัจฉริยะของตนเอง สามารถระบุพื้นที่พัฒนาเมืองโดยมีขอบเขตชัดเจน มองเห็นศักยภาพและปัญหา อีกทั้งสามารถเตรียมความพร้อมเรื่องระบบบริการทั้ง 7 Smarts ได้ตรงตามบริบทของพื้นที่ และวางโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางกายภาพและด้านดิจิทัล รองรับระบบบริการเมือง รวมถึงบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงความยั่งยืน และเกิดประโยชน์สูงสุดกับภาคประชาชน

ด้านนายเสถียร เหรียญเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คือ "เมืองท่องเที่ยวทรงคุณค่าระดับนานาชาติ เกษตรปลอดภัย ด่านสิงขรระเบียงเศรษฐกิจแห่งอนาคต สังคมผาสุกภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ซึ่งจังหวัดมีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวและการเกษตรที่ถือเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด โดยทางจังหวัดพร้อมสนับสนุนท้องถิ่นในการพัฒนาพื้นที่ตามศักยภาพ และส่งเสริมการบูรณาการการทำงาน รวมถึงการบูรณาการข้อมูลที่จะนำไปสู่การพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อประโยชน์และคุณภาพชีวิตของประชาชน และเทศบาลหัวหินถือเป็นหนึ่งพื้นที่สำคัญของจังหวัดในการนำร่องการพัฒนา Smart City ของจังหวัด


ส่วนนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า เทศบาลเมืองหัวหินตั้งเป้าหมายที่จะเป็นเมืองท่องเที่ยวปลอดภัย สะอาด น้ำใส ไร้ PM 2.5 โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยบริหารจัดการ และตรวจสอบเมืองให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย ไม่มีอาชญากรรม โดยมีแผนที่จะดำเนินการพัฒนาระบบ Smart ต่างๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น การติดตั้งระบบ CCTV สอดส่องความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ และตั้งเป้าที่จะลดอาชญากรรมในท้องที่ให้ได้ที่ 50% รวมถึงการติดตั้ง Smart Pole ระบบติดตามคุณภาพอากาศเพื่อสุขภาพคนหัวหินและนักท่องเที่ยว

โดยร่วมมือกับทางบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เข้ามาเป็นผู้วางระบบ คาดว่าในช่วงกลางปี 2566 จะเห็นผลและเริ่มทดลองใช้ พร้อมทั้งการติดตั้ง Wired Network ที่ครอบคลุมอำนวยความสะดวกผู้มาเยือนส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ พร้อมรับมือปัญหาขยะจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นด้วยระบบ GPS Tracking ช่วยบริหารจัดการขยะ ตั้งเป้าลดขยะตกค้างในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 80% รวมถึงระบบจัดเก็บและบริหารข้อมูลของเมือง (City Data Platform: CDP) รวมศูนย์ข้อมูลเพื่อการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในพื้นที่และระหว่างท้องถิ่น เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับงบประมาณการพัฒนาเมืองอัจฉริยะหัวหินปี 2566 ระยะแรกจำนวน 9.4 ล้านบาท จะนำไปพัฒนาให้เมืองหัวหินเป็นเมืองอัจฉริยะทั้ง 5 ด้านที่มีความพร้อม ได้แก่ Smart Living, Smart People, Smart Governance, Smart Energy และ Smart Environment ซึ่งคาดว่าในระยะต่อไปงบประมาณที่ใช้จะไม่เกิน 10 ล้านบาท และหลังจากนี้ไปไม่เกิน 2 ปี เทศบาลเมืองหัวหินจะเป็นเมืองอัจฉริยะได้ภายในปี 2568 และตั้งเป้าที่จะเป็นเมืองห้องทำงานของโลก เพื่อให้เป็นหมุดหมายสำคัญในการรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งนักท่องเที่ยวจากฝั่งสแกนดิเนเวีย ยุโรป ที่เข้ามาพักผ่อน และรองรับไลฟ์สไตล์การทำงานแบบ Work From Anywhere ซึ่งในอนาคตคาดว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ส่วนความคืบหน้าเมืองอัจฉริยะหัวหิน ขณะนี้มีความคืบหน้าอยู่ที่ 20% และหลังจากที่สมาร์ทซิตีสำเร็จสมบูรณ์ภายในปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากเดิมที่นักท่องเที่ยวในปีที่ 2565 มียอดนักท่องเที่ยวกว่า 7,000,000 คน


กำลังโหลดความคิดเห็น