xs
xsm
sm
md
lg

NT เปิดบริการระบบ NSW จัดการเอกสารนำเข้า-ส่งออกครบวงจรได้ในหน้าเดียว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



NT เปิดให้บริการระบบ National Single Window รองรับการเชื่อมโยงเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ด้านการนำเข้า-ส่งออกครบวงจร เพื่อลดขั้นตอนและอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ

พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า หลังจาก NT ได้ร่วมกับกรมศุลกากร และหน่วยงานต่างๆ พัฒนาระบบกลางเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว หรือ National Single Window (NSW) ใหม่ต่อยอดจากระบบเดิมที่พัฒนาโดยกรมศุลกากร และได้ทดลองให้บริการมากว่า 1 ปี ปัจจุบัน NT มีความพร้อมในการเปิดให้บริการ NSW เต็มรูปแบบเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ลดการใช้กระดาษ และลดขั้นตอนการติดต่อระหว่างหน่วยงาน หรือการขออนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐ

โดยระบบ NSW ใหม่มีประสิทธิภาพสูง และรองรับรูปแบบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่เพิ่มขึ้น เช่น คำขอใบอนุญาตยางพารา เอกสารใบรับรองสุขอนามัยพืช หรือ e-Phyto Certificate ใบขนสินค้าอาเซียน ACDD (ASEAN Customs Declaration Document) และหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ e-Form หรือ ATIGA (ASEAN Trade In Goods Agreement) เป็นต้น โดย NT มีแผนที่จะขยายการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ ให้สามารถรองรับรูปแบบธุรกรรมได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับความง่ายในการประกอบธุรกิจ และสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2565

สำหรับการลงทุนในระบบ NSW ทางผู้บริหาร NT ระบุว่า การลงทุนในส่วนนี้เป็นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อต่อยอดการให้หน่วยงานอื่นๆ เข้ามาใช้งานผ่านระบบดังกล่าวได้ ซึ่งคาดว่าในอีก 4 ปีจะถึงจุดคุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งในปัจจุบันมีผู้เข้าใช้บริการผ่านระบบประมาณ 128 ล้านธุรกรรม

ด้านนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษีเปิดเผยว่า กรมศุลกากรไว้วางใจให้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เข้ามาพัฒนาระบบ National Single Window หรือ NSW ร่วมกับกรมศุลกากร ในฐานะ NSW Operator เนื่องจากเล็งเห็นในศักยภาพที่เพียบพร้อมของ NT ที่จะสามารถพัฒนาระบบ NSW จากเดิมที่กรมศุลกากรได้ออกแบบมาแล้วให้ดียิ่งขึ้น และตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่มีการทดลองใช้บริการระบบ NSW เต็มรูปแบบ พบว่าระบบดังกล่าวมีศักยภาพที่ดีเยี่ยม สามารถเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศให้สามารถบริการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวกับการนำเข้า ส่งออก นำผ่านจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้อย่างราบรื่นและขยายฐานข้อมูลเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก

โดยกรมศุลกากรหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การพัฒนาและการให้บริการระบบ NSW โดยมี NT เป็น NSW Operator ภายใต้การกำกับดูแลของกรมศุลกากร จะสามารถขยายขอบเขตการให้บริการให้รองรับทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ส่งออก และโลจิสติกส์ รวมไปถึงขยายการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลไปนอกภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย พ.ศ.2566-2570 ซึ่งเป็นกลไกสำคัญเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์สามารถสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับค่าบริการของผู้ใช้บริการระบบ NSW ของกรมศุลกากรเป็นไปตามประกาศที่กรมศุลกากรกำหนด มีค่าธรรมเนียมไม่เกิน 20 บาทต่อ 1 ธุรกรรม (Transaction) โดยในปัจจุบันให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งแบบ G2G, B2G และ B2B มากกว่า 10 ล้านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ต่อเดือน จำนวนผู้ประกอบการกว่า 15,000 ราย หน่วยงานภาครัฐ 37 หน่วยงาน และหน่วยงานต่างประเทศผ่านการเชื่อมต่อกับ ASEAN Single Window หรือ ASW โดยในปัจจุบันได้เชื่อมโยงข้อมูลได้ทั้ง 10 ประเทศ รวมถึงเชื่อมโยงกับ IPPC Hub (International Plant Protection convention Hub) จำนวน 9 ประเทศ ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันโดยตรงในประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่น และประเทศจีน

“NT มีความตั้งใจที่จะให้บริการและพัฒนาบริการ NSW อย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีช่องทางแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ปลอดภัย เกิดการบูรณาการการใช้ข้อมูล เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศและขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4.0” พ.อ.สรรพชัยย์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น