กลุ่มทรู ร่วมมือกับพันธมิตรส่งแคมเปญ “UP2U อัปเน็ตทรูไม่สะดุด อัปไลฟ์สไตล์ไม่ฉุดฟีล” มอบสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าเติมเงินและลูกค้ารายเดือน ตั้งเป้าผู้ใช้งาน 200,000 แพกเกจต่อปี
นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่ม (ร่วม) ด้านการพาณิชย์บริษัท ทรู คอรปอร์เรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มทรูมุ่งสรรหานวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมครบมิติมาโดยตลอด รวมถึงการนำดาต้ามาวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อเข้าใจความต้องการที่หลากหลายของไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันลูกค้า นำไปสู่การพัฒนาสินค้าและบริการที่ตรงใจและสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภคยุคดิจิทัล
ล่าสุด ได้นำเสนอแคมเปญ “UP2U อัปเน็ตทรูไม่สะดุด อัปไลฟ์สไตล์ไม่ฉุดฟีล” ครั้งแรกกับแพกเกจเสริมเน็ตลูกค้าทั้งแบบเติมเงินและแบบรายเดือน เพียงสมัครเสริมแพกเกจเสริม UP2U เดือนละ 200 บาท รับเน็ตเต็มสปีด 10GB พร้อมรับฟรีสิทธิประโยชน์ หรือคูปองแทนเงินสดล่าสุด 200 บาทจากพันธมิตรทั้งไมเนอร์ กรุ๊ป แมคโดนัลด์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เซโฟรา ZEPETO PUBG ทรูคอฟฟี่ และเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต
โดยสามารถสมัครแพกเกจนี้ได้ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.สมัครด้วยตนเองผ่านการกด USSD* และเลือกแพกเกจตามความต้องการ 2.สมัครผ่านแอปพลิเคชัน True iService, True Money, TrueID และ 3.ทรูช็อปทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทรูที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2566
เป้าหมายหลักของแคมเปญนี้ คือ การรักษาฐานลูกค้าเดิมของทรูไว้ และร่วมกับกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีฐานลูกค้าที่ต่างกันเพื่อขยายฐานให้กว้างขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้ทางกลุ่มทรูได้ จึงร่วมมือกับผู้ให้บริการที่เป็นอันดับหนึ่งของการบริการในทุกเซกเตอร์ของการให้บริการ ทั้งอาหารเครื่องดื่ม ความบันเทิง และความสวยความงาม
ทั้งนี้ หลังจากการประกาศแคมเปญนี้ได้ตั้งเป้าหมายผู้ใช้งาน 200,000 รายต่อปี และคาดว่าจะดันให้ธุรกิจโทรศัพท์มือถือเติบโตที่ 5-6% ขณะที่รายได้จากลูกค้าเติมเงิน (Prepaid) อยู่ที่ 90-110 บาท ซึ่งที่ผ่านมามียอดเติมเงินสูงสุดอยู่ที่ 160 บาท และลูกค้ารายเดือนอยู่ที่ 400 บาท โดยมีการคาดการณ์ถึงตัวเลขเฉลี่ยต่อเดือนอาจลดลงประมาณ 10-30% ตามวงจรของธุรกิจ (life cycle) จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ เนื่องจากผู้ใช้บริการอาจจะไม่ต่อแพกเกจในบางเดือน
“การรวมธุรกิจระหว่างทรูและพันธมิตรในครั้งนี้เป็นการสร้างรายได้ให้ทางทรูและคู่ค้าพันธมิตร เพราะยิ่งเติมเยอะยอดขายธุรกิจก็จะสูงขึ้น และเดินหน้าเจรจากับพันธมิตรด้านอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งมองว่ากลุ่มธุรกิจที่น่าจะไปได้ดีคือ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food& Beverage) บริการด้านความสวยความงาม (Beauty) และบริการด้านความบันเทิงและอุตสาหกรรมเกม (Entertainment) เพื่อสร้างความแตกต่างทางด้านบริการให้กลุ่มลูกค้าโดยเน้นเรื่องบริการและคุณภาพเป็นสำคัญ”