4 พันธมิตร “ซิสโก้-อีอีซี-แพลนเน็ตคอม-ซิลิคอนเทคพาร์ค” มั่นใจการติดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 400 Gbps ที่ปลอดภัยของซิสโก้ที่ซิลิคอนเทคพาร์ค จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งจะส่งผลดีถึงประเทศไทยในภาพรวม โดยเฉพาะการเกิดธุรกิจข้อมูล หรือดาต้าบิสิเนสที่จะบูมหนักในยุค 5G ตอกย้ำว่าถัดจาก 5G และไฮสปีดออินเทอร์เน็ต ก้าวต่อไปด้านเทคโนโลยีของอีอีซีคือ การตั้งคอมมอนดาต้าเลค ที่สามารถหยิบข้อมูลมหาศาลมาต่อยอด 12 อุตสาหกรรมไทยได้ตามฝันที่เคยวาดไว้
นายคณิศ แสงสุพรรณ ประธานที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี กล่าวว่าอีอีซีได้ร่วมมือกับภาคเอกชนพัฒนา “ศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีขั้นสูงบ้านฉาง” ในพื้นที่โครงการ EEC SILICON TECH PARK โดยใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 400 Gbps นับเป็นการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในพื้นที่อีอีซี เป็นที่ตั้งของคนทำงานยุคใหม่ผ่านนวัตกรรมขั้นสูง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้คุณภาพชีวิตที่ดี รองรับการลงทุนจากภาคเอกชน จูงใจบริษัทชั้นนำทั่วโลกเข้ามาลงทุนวิจัยพัฒนา (R&D) ต่อยอดธุรกิจด้านดิจิทัลในพื้นที่ในอีอีซี สร้างพื้นที่กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัปให้เข้ามาทำงานในอีอีซีเพิ่มขึ้น และจะเป็นศูนย์ฝึกอบรมการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลในพื้นที่อีอีซี
“อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะนำไปสู่การสร้างดาต้าบิสิเนสในประเทศไทย ที่ผ่านมา 5G มีส่วนทำให้ดาต้าเป็นเรื่องใหญ่ และบิ๊กดาต้าสามารถสร้างเป็นธุรกิจใหม่ได้ สำหรับประเทศไทยเองที่มี Data มากขึ้นจะสามารถทำ Data Lake ระบบกลาง เพื่อให้เกิดเป็นแอปพลิเคชันที่จะวิเคราะห์ต่อยอดได้ทั้งเรื่องเกษตรกรรม การบริหารจัดการ อุตสาหกรรมโรงงาน การท่องเที่ยว โรงแรม สำนักงาน และอื่นๆ ได้อีก”
คณิศ กล่าวว่า TECH PARK เป็นพื้นที่พิเศษที่ทำ Data Center ไว้แล้ว เป็นศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์กลางซึ่งแวดล้อมด้วยความน่าอยู่ของเมือง การทำ high speed internet ซึ่งเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถทำให้เกิดระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถสั่งการได้จากทางไกล การลงทุนนี้จะเป็นสะพานเชื่อมศูนย์ข้อมูลที่ Tech Park เชื่อว่าจะเกิดการใช้งานและพัฒนาธุรกิจ Data ขึ้นมาได้ด้วย
การติดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงคลุมพื้นที่ 600 ไร่ที่ EEC SILICON TECH PARK นี้มีกำหนดแล้วเสร็จปี 2566 คาดว่าทุกคนจะได้เห็นสิ่งที่คาดหวังไว้ในการเป็นสะพานเชื่อมข้อมูลและธุรกิจข้อมูล ทั้งนี้ โปรเจกต์นี้เป็นความร่วมมือที่เป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัล” หรือ Cisco’s Country Digital Acceleration (CDA) ของซิสโก้ในด้านการพัฒนาสมาร์ทซิตี โดยซิสโก้ได้ร่วมมือกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงแพลนเน็ตคอม (PlanetComm) บริษัทออกแบบติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานระบบโทรคมนาคมในประเทศไทย และซิลิคอนเทคพาร์ค (STP) อุทยานเทคโนโลยีขั้นสูง และบริษัทอสังหาฯ ที่บ้านฉาง จังหวัดระยอง
เบื้องต้น มีการเปิดเผยว่าบริษัทที่ขานรับการจูงใจและมีแนวโน้มสนใจร่วมลงทุนที่ EEC SILICON TECH PARK จากทั้งซาอุดีอาระเบีย ไต้หวัน อิสราเอล และสหรัฐอเมริกา โดย 4 พื้นที่นี้จะเป็นบันไดสู่เป้าหมายที่ EEC SILICON TECH PARK ตั้งความหวังว่าจะดึงดูดบริษัทนวัตกรรมที่ต้องการความเร็วในการเชื่อมต่อ หรืออาจจะเป็นบริษัทสตาร์ทอัป จนสร้างโอกาสลงทุนได้ตามเป้าหมาย 2.2 ล้านล้านบาท (61.97 พันล้านดอลลาร์) ภายในปี 2570
EEC SILICON TECH PARK ถือเป็นเมืองต้นแบบดิจิทัล หรือซิลิคอนวอลเลย์แห่งภาคตะวันออก ที่ถูกมองว่าจะสามารถดึงดูดการลงทุนด้านดิจิทัล และขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมอัจฉริยะให้กับประเทศไทย ด้วยการสร้างโอกาสลงทุน รวมทั้งช่วยพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล รองรับความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ New S-Curve สร้างตำแหน่งงาน และรายได้ที่ดีขึ้นอย่างสมดุลและยั่งยืน
โปรเจกต์นี้ไม่เพียงหวังให้ EEC SILICON TECH PARK เป็นพื้นที่จุดศูนย์กลางด้านดิจิทัลเทคโนโลยีเท่านั้น เพราะนอกจากจะให้บริการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและคลาวด์แล้ว ซิสโก้ยังเหมาดีลติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งนวัตกรรมสำหรับอาคารอัจฉริยะ สมาร์ทซิตี ระบบซิเคียวริตีเพื่อการทำงานไฮบริดที่ปลอดภัย และสมาร์ทเวิร์กเพลสอีกด้วย คาดว่าจะเป็นต้นแบบให้ขยายจากสมาร์ทซิตีที่บ้านฉาง ไปยังศูนย์ธุรกิจเมืองใหม่พื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ที่ห้วยใหญ่ จังหวัดชลบุรี ขณะเดียวกัน ซิสโก้และอีอีซีมีการทำ MOU พัฒนาบุคลากรร่วมกันหลายพันคนต่อปี ทั้งกลุ่มที่เป็นคนทำงานและกลุ่มครูผู้ฝึกอบรม
นายชิต เหล่าวัฒนา ที่ปรึกษาพิเศษด้านการพัฒนาบุคลากรฯ อีอีซี กล่าวว่า โครงการ EEC SILICON TECH PARK จะเป็นพื้นที่ศูนย์รวมงานวิจัยและเทคโนโลยีขั้นสูงของอีอีซี ที่ส่งเสริมและยกระดับความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากร ด้านหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และดิจิทัล ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซีจะได้รับความรู้ และเกิดการใช้ระบบผลิตอัตโนมัติแบบดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตขั้นสูงในพื้นที่ พร้อมกันนี้ จะสามารถฝึกอบรมทักษะใหม่ (New skill) เพื่อพัฒนาความชำนาญให้แก่บุคลากรที่จะเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมทักษะด้าน Robotics & Automation โดยตรง ซึ่งเป็นบุคลากรพิเศษเฉพาะด้าน โดยตั้งเป้าหมายจะพัฒนาให้ได้ประมาณ 5,000 คน ภายใน 5 ปี สร้างความพร้อมและจูงใจให้ผู้ประกอบการทั่วโลกสนใจลงทุนอุตสาหกรรมดิจิทัลในพื้นที่อีอีซี
ด้านนายทวีวัฒน์ จันทรเสโน กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประเทศไทยและพม่า ปฏิเสธที่จะเปิดเผยมูลค่าการลงทุน แต่แสดงความเชื่อมั่นว่าโปรเจกต์นี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกคนที่เข้าร่วม และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 400 Gbps ของ EEC SILICON TECH PARK ถือเป็นครั้งแรกที่เป็นการติดตั้งสำหรับใช้งานแบบ private และที่ผ่านมามีแต่การลงทุนเพื่อใช้งานในลักษณะ public ซึ่งแม้ความเร็วอินเทอร์เน็ตจะมีการเพิ่มขึ้น 10% ทุกปี ทำให้อัตราความเร็วนี้ครองตำแหน่งเร็วที่สุดได้ไม่นาน แต่ระบบของ Cisco ถูกออกแบบมาให้ขยายเพิ่มได้ตามต้องการ ซึ่งหากต้องการเพิ่ม bandwidth ก็สามารถดำเนินการได้ทันที เพื่อรองรับ Data Lake ที่อาจจะเกิดขึ้น
ขณะที่นายเอ็ดเวิร์ด แกรนท์ ที่ปรึกษาอาวุโสของ EEC SILICON TECH PARK ระบุว่า โปรเจกต์ที่เกิดขึ้นเป็นการลงทุนจากเอกชน และส่วนที่จะทำรายได้คือจากที่ดิน ซึ่งเมื่อคำนึงว่าสิงคโปร์นั้นอยู่ในสถานะที่แออัดเต็มพื้นที่ และประเทศอย่างอินโดนีเซียก็อยู่ไกลเกินไป ดังนั้น EEC SILICON TECH PARK จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการก่อตั้งอุตสาหกรรมใหญ่ เช่น ธุรกิจ data เชื่อว่าจะทำให้เกิดแพลตฟอร์มที่บูรณาการ ทำให้ไทยมีความก้าวหน้าทางดิจิทัล และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่จะทำให้อุตสาหกรรมดิจิทัลไทยกลับมาเซ็กซี่และแข่งขันในเวทีโลกได้ เพราะ EEC SILICON TECH PARK ยอมรับว่ายังต้องการความร่วมมือเพิ่มเติมอีกมากเพื่อให้ประเทศไทยกลับมาเป็นเบอร์หนึ่งได้อีกครั้งหนึ่ง โดยมองว่ายังต้องการให้มหาวิทยาลัยมาร่วมให้มากขึ้น เหมือนเช่นซิลิกอนวัลเลย์ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีมหาวิทยาลัยชั้นนำรายล้อม จุดนี้ แกรนท์มองว่าการพัฒนาเศรษฐกิจวันนี้อยู่ในมือของคนรุ่นใหม่ จึงควรมีแคมเปญบอกเยาวชนอย่างจริงจังว่านี่คืออนาคต มหาวิทยาลัยก็ต้องช่วยกัน เพราะจากมหาวิทยาลัยในเมืองไทยที่มีมากกว่า 100 แห่ง แต่กลับร่วมใน EEC เพียง 27 รายในขณะนี้ ซึ่งหากทำได้ EEC SILICON TECH PARK จึงจะเป็นสมาร์ทซิตีแห่งใหม่ได้สำเร็จ