SBN ยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับ ทำให้ไม่สามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกได้

หลังจากล่าสุดที่ กกท. และกลุ่มทรูยอมปลดล็อก IPTV ให้ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2 นัด เพียงกล่อง IPTV ส่งหนังสือแจ้งความประสงค์ และยืนยันไม่คิดค่าตอบแทน ทาง SBN ตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีการระบุถึงประกาศ Must Carry และยังมีการฟ้องศาลทรัพย์สินห้ามไม่ให้ SBN ถ่ายทอดอยู่

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ทาง กกท. ได้มีการส่งจดหมายถึงผู้ให้บริการ IPTV เรียกเงินสนับสนุน 22 ล้านบาท ในการรับสิทธิถ่ายทอดฟุตอบลโลก ตามด้วยในวันที่ 15 ธันวาคม กกท. ได้แจ้งอนุญาตให้ออกอากาศแบบคู่ขนานผ่าน IPTV ให้ดำเนินการถ่ายทอดสดได้ในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 17 และ 18 ธันวาคม

ล่าสุด ทาง SBN ได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังกกท. ทรู และศาลทรัพย์สิน เพื่อขอความชัดเจนในฐานะของผู้ให้บริการ IPTV ที่ได้รับอนุญาตจากทาง กสทช. ให้ถ่ายทอดได้ตามกฎ Must Carry เนื่องจากก่อนหน้านี้ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาได้มีคำสั่งห้าม SBN ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก และจนถึงเวลา (20.30 น.) นี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบรับจากทั้ง 3 แห่งกลับมาแต่อย่างใด ทำให้ไม่สามารถดำเนินการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกได้

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากบริษัท ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค (SBN) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้ทำหนังสือสอบถามกลับไปที่ทรู กกท. และศาลทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้ยืนยันว่าไม่ขัดข้องที่จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (ประกาศ must carry) 

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลประชาสัมพันธ์ล่าสุดของกลุ่มทรู ที่ระบุว่า “ทรู ไม่ขัดข้องปันสิทธิถ่ายทอดบอลโลกทั้ง 2 คู่ สุดท้ายรอบชิงชนะเลิศ ฝรั่งเศส-อาร์เจนตินา และรอบชิงที่ 3 โมร็อกโก-โครเอเชีย เพียงกล่องไอพีทีวีส่งหนังสือแจ้งความประสงค์ และทรูยืนยันไม่คิดค่าตอบแทน”

โดยแหล่งข่าวจาก SBN ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ทรูจะปลดล็อกให้ IPTV ถ่ายทอดสดจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อทรูยังฟ้องศาลทรัพย์สินห้ามไม่ให้ทาง SBN ถ่ายทอดสดอยู่ ทำให้การถ่ายทอดสดผ่าน IPTV ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ และทางทรูไม่เคยส่งจดหมายถึงผู้ให้บริการ IPTV อย่างเป็นทางการว่าอนุญาตให้ถ่ายทอดสด

นอกจากนี้ แม้ว่ากลุ่มทรูจะระบุว่า “ยืนยันไม่คิดค่าตอบแทน” แต่มีการระบุในรายละเอียดเพิ่มเติมว่า “ผู้ให้บริการในระบบไอพีทีวีที่ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มทรูในการเผยแพร่ออกอากาศการแข่งขันคราวนี้ยินดีที่จะให้ความร่วมมือต่างตอบแทนกับกลุ่มทรูในอนาคตเช่นกัน” ซึ่งไม่แตกต่างจากการคิดค่าตอบแทนในส่วนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เบื้องต้น จากข้อมูลของผู้ให้บริการ IPTV รายใหญ่ทั้ง 3 ราย พบว่า มีจำนวนลูกค้าใช้งานกล่อง AIS PLAYBOX 9.15 แสนราย 3BB GIGATV 5.7 แสนราย และ NT 1.2 แสนรายรวมแล้วมีลูกค้ากล่อง IPTV ที่ไม่สามารถรับชมฟุตบอลโลกตามประกาศ Must Carry ถึง 1.6 ล้านราย