ดีแทคย้ำจุดยืนดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Business) ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมทักษะดิจิทัล ความหลากหลายในการมีส่วนร่วม ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน จนถึงการต่อต้านคอร์รัปชัน และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โดยดีแทคได้รับการคัดเลือกเข้าสู่รายชื่อหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment : THSI) ประจำปี 2565 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG) ในปีนี้ บริษัทมีคะแนนเติบโตก้าวกระโดดในมิติสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกัน คะแนนในด้านสังคมและธรรมาภิบาลของบริษัทยังเติบโตจากปีก่อนหน้า เนื่องจากการดำเนินงานภายใต้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เคารพและปกป้องสิทธิของลูกค้า และแนวทางการรับมือกับคำขอของหน่วยงานภาครัฐที่ชัดเจนโปร่งใส
นอกจากนี้ ยังได้รับการประกาศรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) โดยดีแทคนั้นได้รับเลือกเป็นสมาชิกนับตั้งแต่ปี 2559 สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลของดีแทคที่มุ่งเน้นความโปร่งใส การสนับสนุนให้พนักงานกล้ารายงานสถานการณ์ที่ไม่ถูกต้องตามจริยธรรม และการไม่อดทนต่อการคอร์รัปชันทุกรูปแบบ
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนกลุ่มเทคโนโลยี ผมเชื่อว่าบริการโทรคมนาคมนั้นเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero และการเป็นสังคมดิจิทัลที่เท่าเทียม
ที่ผ่านมา ดีแทคทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อผู้คนให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการพื้นฐานที่สำคัญ และเราสนับสนุนสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพการแสดงออกบนโลกออนไลน์
อย่างไรก็ดี ดีแทคเล็งเห็นถึงความท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนในสภาพแวดล้อมที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ เราจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการยกระดับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนและธรรมาภิบาลในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจของเรา
ทั้งนี้ ในยุคดิจิทัล สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมโดยตรงนั้นหนีไม่พ้นสิทธิในข้อมูลข่าวสาร (Right to Information) และเสรีภาพในการแสดงออก (Freedom of Expression) และผู้ให้บริการโทรคมนาคมนั้นสามารถทำหน้าที่เป็น ‘ตัวกลาง’ ในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในยุคดิจิทัล
ดีแทคจึงมีการดำเนินงานใน 3 ระดับ ได้แก่ 1.การส่งเสริมการเข้าถึงอุปกรณ์และบริการการเชื่อมต่ออย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 2.การส่งเสริมการใช้งานอย่างปลอดภัย และ 3.การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากบริการการเชื่อมต่อและทักษะดิจิทัล
ขณะเดียวกัน ภายใต้กลยุทธ์การสร้างสังคมดิจิทัลที่เท่าเทียม (Digital Inclusion) ดีแทคมุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลและสร้างการเชื่อมต่อที่มีความหมาย (meaningful connectivity) บริการการเชื่อมต่อและบริการดิจิทัลที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ในราคาที่เอื้อมถึงได้ และการส่งเสริมการเข้าถึงทักษะดิจิทัลสำหรับกลุ่มคนเปราะบาง
ด้วยกลยุทธ์ Beyond Mobile Connectivity : นอกจากเจตนารมณ์ในการส่งมอบบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับทุกคนแล้ว ภายใต้ยังนำเสนอบริการอื่นๆ ที่นอกเหนือจากบริการโทรคมนาคม เช่น ประกันออนไลน์ บริการด้านการเงิน และโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยบริการเหล่านี้ถูกรวบรวมไว้บน dtac app ซึ่งออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานทุกกลุ่มและพยายามลดอุปสรรคในการเข้าถึงดิจิทัล
กลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้จำนวนผู้ใช้งานบน dtac app ที่เป็นลูกค้าเติมเงินนั้นเติบโตกว่า 3 เท่าจากปี 2563 โดยกว่า 124 เปอร์เซ็นต์นั้นมาจากผู้ใช้งานในต่างจังหวัด และปัจจุบันดีแทคมีผู้ใช้งานบนช่องทางดิจิทัลอยู่ที่ 7.6 ล้านราย และยังคงเติบโตต่อเนื่อง
ปัจจุบัน dtac app เปิดให้บริการใน 4 ภาษา ภายใต้แนวคิด “ค่ายไหนก็ใช้ได้” ไม่จำกัดเฉพาะลูกค้าดีแทคเท่านั้น และยังมาพร้อมฟีเจอร์ dtac app lite ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้เสมือนใช้งานอยู่บน dtac app โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน ตอบโจทย์ผู้ใช้งานโทรศัพท์ที่มีข้อจำกัดเรื่องหน่วยความจำ
พร้อมกันนี้ ยังมีการฝึกอบรมด้านดิจิทัลให้เด็กและเยาวชนมากกว่า 300,000 คน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในโครงข่ายสัญญาณตามเป้าในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง ‘ครึ่งหนึ่ง’ ภายในปี 2573 และลดการฝังกลบขยะเป็นศูนย์ภายในปี 2565