สคส.ตั้ง “ศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม” ลูกหม้อเนคเทค และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านไอซีที ดีป้า นั่งเลขาธิการ พร้อมขับเคลื่อนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผลักดันการทำงานร่วมประธานกรรมการ 4 คณะ
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ สคส. ในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้แต่งตั้งเลขาธิการคนแรก คือ นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม ซึ่งเคยทำงานเป็นนักวิจัย นักเรียนทุน และรองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และยังเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้าอีกด้วย
นายศิวรักษ์ เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 มีวาระ 4 ปี ซึ่งได้เข้าพบนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส เพื่อรับมอบนโยบายแล้ว โดยมีภารกิจเน้นเรื่องการสร้างความรู้ความเข้าใจและให้บริการอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ การร่วมหารือเรื่องการขับเคลื่อน สคส. ร่วมกับประธานกรรมการ 4 คณะภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งประกอบด้วย นายเธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พล.อ.เดชา พลสุวรรณ ประธานกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นางฤชุกร สิริโยธิน ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญ คณะที่ 1 (การเงินและเศรษฐกิจ) พล.อ.ภุชพงศ์ พงษ์ศิริ ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญ คณะที่ 2 (เทคโนโลยีดิจิทัลและอื่น ๆ)
สำหรับประเด็นการหารือ ได้แก่ เรื่องกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้วางกลไกการดูแลสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนผ่านการทำงานในรูปแบบของคณะกรรมการ ดังนี้ 1.คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (กคส.) มีหน้าที่ในการออกประกาศ ระเบียบ ข้อปฏิบัติ มาตรการหรือแนวทางเพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาที่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมาย
2.คณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นผู้กำหนดนโยบายการบริหารงาน และอนุมัติข้อบังคับ แผนการดำเนินงาน แผนการใช้จ่ายเงิน และงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน 3.คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ มีหน้าที่พิจารณาเรื่องร้องเรียน ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและออกคำสั่งเพื่อสั่งให้แก้ไขหรือสั่งห้ามดำเนินการหรือสั่งปรับทางปกครอง
ทั้งนี้ เลขาธิการฯ และ สคส.จะสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการทั้ง 4 คณะ อย่างดีที่สุด เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม อำนวยความสะดวกและเป็นที่พึ่งพาของประชาชน เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน สร้างกลไกความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของไทย รวมถึงสนับสนุนให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการใช้ประโยชน์ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและมั่นคงปลอดภัย
“บทบาทที่สำคัญของ สคส.คือการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศในภาพรวมอย่างเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐาน ครอบคลุมทุกกระบวนการที่ถูกต้องและชัดเจนในการปฏิบัติ เพื่อประโยชน์สูงสุดด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ประชาชนต่อไป” นายศิวรักษ์ กล่าว