เลอโนโว ในกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโซลูชัน (ISG) ชี้ตลาดประเทศไทยเติบโตสุดในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มภาคธุรกิจที่ลงทุนคลาวด์ และติดตั้งใช้งานซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใช้วิเคราะห์ข้อมูล รับการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ
สุเมียร์ บาเทีย ประธานประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก เลอโนโว อินฟราสตรักเจอร์ โซลูชัน กรุ๊ป กล่าวว่า กล่าวถึงเป้าหมายของ Lenovo ISG ด้วยการขึ้นเป็นท็อป 3 ผู้ให้บริการคลาวด์ โซลูชัน พร้อมกับการเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานในการประมวลผลที่ยืดหยุ่น (Hyperscale) โดยจะเป็นในลักษณะของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ และสตอเรจ ที่จำหน่ายอุปกรณ์ให้แก่ผู้ให้บริการคลาวด์ และดาต้าเซ็นเซอร์ต่างๆ
“จุดแข็งของ Lenovo ISG คือสามารถให้บริการแก่ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมตั้งแต่การติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี นำโซลูชันจากคลาวด์ทั้งไฮบริดคลาวด์ และไพรเวทคลาวด์ บริการประมวลผลทางด้าน AI ถึง Edge Computer และเน็ตเวิร์ก ภายในที่เดียวแบบครบวงจร”
ที่ผ่านมา เลอโนโว ISG สามารถทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ในหลายธุรกิจทั้งส่วนของคลาวด์ เซิร์ฟเวอร์ และสตอเรจ รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์ประมวลผลขั้นสูง (Hyper Performance Computing : HPC) ที่ได้รับการันตีติด Top 500 คอมพิวเตอร์ที่แรงที่สุดในโลก ทั้งในฝั่งของเครื่องใช้งาน Intel Xeon และ AMD EPYC
พร้อมกันนี้ ยังเตรียมนำความสามารถให้บริการได้ในลักษณะของ Lenovo TruScale ที่ยืดหยุ่น และสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมในแต่ละองค์กรธุรกิจเข้ามาให้บริการในประเทศไทย ซึ่งสามารถเลือกกำหนดต้นทุนในการใช้จ่ายตามปริมาณที่ใช้งาน รวมถึงรูปแบบการชำระเงินได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทางเลอโนโว มองว่าจะเป็นโอกาสของบรรดาผู้ให้บริการดิจิทัลเซอร์วิส เนื่องจากภาคธุรกิจต้องมีการลงทุนเพื่อให้เกิดการเติบโต ซึ่งการลงทุนทางด้านไอทีจะเข้ามาช่วยให้ธุรกิจเกิดการเปลี่ยนแปลง และรักษาการเติบโตท่ามกลางความท้าทายได้
ดังนั้น สิ่งที่ Lenovo ISG ต้องทำคือการเป็นพันธมิตรไว้วางใจได้ในการช่วยให้องค์กรธุรกิจเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค และทางเลอโนโวให้คำมั่นว่าจะเข้ามาลงทุนในไทย พร้อมเพิ่มบุคลากรเข้ามาดูแลตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง