ทรานส์ลูเซีย ทุ่ม 3,500 ล้านบาท จับมือทูบูลส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์ เพื่อการศึกษาและความบันเทิงจากประเทศออสเตรเลีย สร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาเมตาเวิร์สในออสเตรเลีย เพื่อนำผลวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ ปรับใช้ เชื่อมโยงระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน หวังขึ้นแท่นสู่ระดับโลก
นายชวัลวัฒน์ อริยวรารมณ์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร T&B Media Global และ CEO ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัททรานส์ลูเซีย (Translucia) กล่าวว่า บริษัททรานส์ลูเซีย โกลบอล อินโนเวชัน ร่วมกับพันธมิตร บริษัท ทูบูลส์ (Two Bulls) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์ เพื่อการศึกษาและความบันเทิงชั้นนำจากประเทศออสเตรเลีย จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านเมตาเวิร์ส ในประเทศออสเตรเลีย โดยใช้งบประมาณในการลงทุนเฟสแรกจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (3,500 ล้านบาท)
การก่อตั้งศูนย์วิจัยดังกล่าวเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าครั้งสำคัญ นับจากที่บริษัทแม่คือ T&B ประกาศทุ่มทุนพัฒนาโครงการจักรวาลเมตาเวิร์สระดับโลก รวมถึงการจัดฟอรัมนานาชาติ Metaverse Unlimited ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการและนักพัฒนาในสาขาที่เกี่ยวข้องเมื่อปลายปีที่แล้วนั้น โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์ส เข้ามาร่วมกันพัฒนาโครงการทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์สนี้ ซึ่งรวมถึงทูบูลส์ ก็เป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญขั้นสูงของเหล่าพันธมิตรนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะทำให้ความฝันและจินตนาการกลายเป็นจริงได้ ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์สแห่งนี้จะเป็นมากกว่าโลกเสมือนที่ทุกๆ คนรู้จัก โดยจะเป็นโลกแห่งความสุขและรอยยิ้มที่ทุกผู้คนสามารถใช้ชีวิต มีสังคมชุมชน ทำงาน ดำเนินกิจกรรมทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและความบันเทิงต่างๆ ในรูปแบบใหม่ และสามารถเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนได้อย่างไร้ขอบเขต
ด้านนายเจมส์ เคน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทูบูลส์ กล่าวว่า การก่อตั้งศูนย์วิจัยด้านเมตาเวิร์สครั้งนี้ ถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย เป็นปรากฏการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บุกเบิกเมตาเวิร์สรูปแบบใหม่ การได้ทำงานร่วมกับทรานส์ลูเซีย ได้สร้างโอกาสและความเป็นไปได้มากมาย ศูนย์วิจัยด้านเมตาเวิร์สจะสร้างโอกาสที่ดีในการดึงดูดกลุ่มคนที่มีวิสัยทัศน์ด้านเมตาเวิร์ส ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างมากทั้งต่อทีมทรานส์ลูเซียเองในการเติมเต็มวิสัยทัศน์ที่น่าทึ่งให้เป็นจริงได้ ส่งผลให้ผู้คนที่สนใจได้รับรู้ไอเดียของทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์สในมุมมองใหม่ที่สามารถสร้างความแตกต่างจากเมตาเวิร์สรายอื่นๆ ในโลกที่เคยเห็น
นายชวัลวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนั้นยังมีพันธมิตรอีกรายที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ เพลลาร์ เทคโนโลยี (Pellar Technology) ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบบล็อกเชนเทคโนโลยี เพื่อมารองรับกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นในจักรวาลทรานส์ลูเซีย ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาขึ้นมาใช้ในโลกเสมือนและเชื่อมโยงให้สามารถนำมาใช้ในโลกแห่งความจริงด้วย
สำหรับพันธมิตรรายแรกของทรานส์ลูเซียนั้น คือบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก มีการทำงานร่วมกันในการพัฒนาเมตาเวิร์สของ MQDC ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลทรานส์ลูเซีย โดยเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท เอคเซนเชอร์ (Accenture) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาธุรกิจและวางแผนกลยุทธ์เมตาเวิร์ส โดยทางเอคเซนเชอร์จะเข้ามาทำงานร่วมกันกับทีมพัฒนาเมตาเวิร์สของ MQDC อย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนารูปแบบเมตาเวิร์สนี้ให้แตกต่างและเต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่อสังหาริมทรัพย์ในโลกเสมือนเท่านั้น
