แอปเปิล (Apple) พัฒนาแมคบุ๊กรุ่นที่ขายดีที่สุดอย่าง MacBook Air ด้วยการปรับดีไซน์ใหม่ครั้งใหญ่ เลือกนำ MagSafe กลับมาใช้ พร้อมนำชิปเซ็ตรุ่นใหม่ Apple M2 มาใช้งาน พร้อมเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ดีไซน์เดิมด้วย
ความน่าสนใจของ MacBook Air รุ่นใหม่ คือการปรับดีไซน์ใหม่ มีให้เลือกด้วยกัน 4 สี คือ เงิน เทาสเปซเกรย์ มิดไนท์ และสตาร์ไลท์ โดยที่ยังคงไม่ต้องใช้พัดลมในการระบายอากาศเช่นเดิม โดยมากับที่ชาร์จแบบ MagSafe และพอร์ต Thunderbolt อีก 2 พอร์ต และช่องเสียบหูฟังให้ใช้งานกัน
ตัวเครื่องมากับหน้าจอ Liquid Retina 13.6 นิ้ว ที่แสดงผลระดับ 1 พันล้านสี ความสว่าง 500 นิต ทำให้ได้หน้าจอที่คุณภาพสูง พร้อมปรับปรุงกล้องหน้าให้มีความละเอียดขึ้นเป็น Full HD เมื่อทำงานร่วมกับชิป M2 ที่เข้าไปช่วยปรับแต่งภาพให้สวยงามขึ้น
ความบางตัวเครื่องเหลืออยู่ที่ 11.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 18 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็ว 67W ชาร์จได้ 50% ภายใน 30 นาที โดยมากับอะแดปเตอร์ USB-C 2 พอร์ตขนาด 35W ทำให้ชาร์จได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน
ในส่วนของ MacBook Pro 13 นิ้ว ยังคงใช้ดีไซน์เดิม แต่ปรับมาใช้ชิปเซ็ต Apple M2 เช่นเดียวกัน โดยจะใช้งานต่อเนื่อง 20 ชั่วโมง และมีตัวเลือกการใช้งานชิปเซ็ตที่หลากหลายกว่า
สำหรับความสามารถของชิปเซ็ตใหม่ Apple M2 ที่ทำงานบนสถาปัตยกรรม 5 นาโนเมตร รุ่นที่ 2 คือเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล ด้วยทรานซิสเตอร์ 2 หมื่นล้านตัว โดยมีจำนวนคอร์ซีพียูที่ 8 คอร์เท่าเดิม แต่เพิ่ม GPU เป็นสูงสุดที่ 10 คอร์ ทำให้ได้การประมวลผลซีพียูที่เร็วขึ้น 18% และประมวลผลภาพเร็วขึ้น 35%
พร้อมกับเพิ่มจำนวน Neural Engine 16 คอร์ ช่วยให้ประมวลผลได้เร็วขึ้น 40% รองรับหน่วยความจำเพิ่มเป็นสูงสุด 24 GB โดยมี Memory Bandwidth เพิ่มขึ้นเป็น 100 GB/s หรือเร็วขึ้นกว่าเดิม 50%
MacBook Air และ MacBook Pro พร้อมวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม ในราคาเริ่มต้น 43,900 บาท และ 46,900 บาท ตามลำดับ และปรับลดราคา MacBook Air M1 ลงเหลือเริ่มต้นที่ 32,900 บาท
