ไปรษณีย์ไทย ยืนยันคงอัตราค่าบริการส่งจดหมายน้ำหนักไม่เกิน 10 กรัม ที่ 3 บาทเช่นเดิม หลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ อนุมัติปรับอัตราค่าบริการไปรษณียภัณฑ์ ครั้งแรกในรอบ 18 ปี พร้อมเพิ่มส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ใช้บริการฝากส่งปริมาณมาก
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ตามที่มีมติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาและเห็นชอบการปรับอัตราค่าบริการไปรษณียภัณฑ์ ตามร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรนั้น ถือเป็นการปรับอัตราค่าบริการครั้งแรกในรอบ 18 ปี ของการดำเนินงานของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งเป็นเพียงการขึ้นราคาเฉพาะการส่งจดหมายและเอกสารสำคัญ และจะปรับเฉพาะบริการจดหมายในประเทศเท่านั้น
โดยอัตราค่าบริการพิกัดแรก น้ำหนักไม่เกิน 10 กรัม ซึ่งเป็นพิกัดน้ำหนักที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้บริการ ยังคงไว้ที่ 3 บาทเช่นเดิม ส่วนเอกสารหรือจดหมายที่มีน้ำหนักเกินจากที่กำหนดจำเป็นต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจและการแบกรับต้นทุน
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ภาคธุรกิจซึ่งฝากส่งเอกสารและจดหมายกับไปรษณีย์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง หรือการส่งปริมาณมากๆ จะมีการมอบส่วนลดในอัตราพิเศษ
นอกจากนี้ เพื่อให้การส่งจดหมายและเอกสารสำคัญเกิดประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ไปรษณีย์ไทยได้พัฒนาบริการรองรับและเป็นทางเลือก คือ การจัดการด้านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร เพิ่มช่องทางการส่งเอกสารที่สะดวกรวดเร็วขึ้น การเป็นตัวกลางในการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน การประทับรับรองเวลาอิเล็กทรอนิกส์ให้เอกสารสำคัญของหน่วยงาน/องค์กร เพื่อให้สามารถยืนยันได้ว่าเอกสารนั้นเป็นตัวจริง โดยเป็นระบบที่มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน รองรับการจัดการเอกสารในยุคดิจิทัล
“ไปรษณีย์ไทยยังคงเดินหน้าเป็นพลังสำคัญ สนับสนุนสังคมและเศรษฐกิจ เพื่อเปิดทางให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ช่วยเซฟค่าส่งได้มากขึ้น การเข้ารับฝากสิ่งของถึงบ้านโดยที่ผู้ใช้บริการไม่ต้องออกจากบ้าน การพัฒนาระบบดิจิทัลให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจและชีวิตประจำวันของผู้ค้าขายและประชาชน”