xs
xsm
sm
md
lg

เทรนด์ใหม่บล็อกเชน! NTT DATA ลุยแพลตฟอร์ม TradeWaltz เน้นเชื่อมต่อข้ามระบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอ็นทีที ดาต้า (NTT DATA) เปิดเทรนด์ใหม่บล็อกเชน เชื่อมต่อข้าม Ecosystem มุ่งสู่โลกไร้ศูนย์กลางสมบูรณ์แบบ พร้อมส่งแพลตฟอร์ม TradeWaltz ลงตลาด 

นายฮิโรนาริ โทมิโอกะ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นทีที ดาต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีบล็อกเชนได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เสมือนเป็นกระดูกหลังใหม่ของโลก ด้วยคุณสมบัติเชื่อมโยงข้อมูลได้แบบไร้ศูนย์กลาง มีความโปร่งใส เนื่องจากเก็บข้อมูลโดยการเชื่อมต่อทุกระบบการทำงาน และระบบความปลอดภัยด้วยการจำกัดสิทธิผู้เข้าถึงข้อมูล ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตามความเหมาะสม ส่งผลให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยสูง ช่วยลดการจัดทำรายงานแบบ manual และลดระยะเวลาการทำงาน โดยที่ผ่านมาจะเห็นภาพที่ชัดเจนในมิติของการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง หรือ DeFi (Decentralize Finance) เพื่อตัด “ตัวกลาง” โดยใช้บล็อกเชนพร้อมกับสัญญาณอัจฉริยะ (Smart contact) ในการทำธุรกรรมเป็นหลัก เช่น การทำธุรกรรมฝาก-โอน-ถอน ซื้อประกัน ซื้อกองทุน การแลกเปลี่ยนเงินตราทั้งในและต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย นำมาซึ่งค่าธรรมเนียมต้นทุนธุรกรรมที่ต่ำลง มีความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการในมุมของผู้บริโภค ในขณะที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเงินสามารถลดต้นทุน สร้างประสบการณ์ที่ดีด้านบริการแก่ผู้ใช้บริการมายิ่งขึ้น

“NTT DATA มองว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจพัฒนาได้ในทุกมิติ โดยจะเข้าไปมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการแพทย์ การศึกษา หน่วยงานภาครัฐ องค์กรเพื่อสังคม ประกันภัย อุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะการช่วยพัฒนากระบวนการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานแบบ manual รูปแบบเดิม เพิ่มความโปร่งใสในทุกขั้นตอนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลการทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นตลอดระบบซัปพลาย เพื่อส่งเสริมกระบวนการทำงานร่วมกัน ซึ่งแม้ในปัจจุบันบล็อกเชนส่วนใหญ่จะถูกใช้เฉพาะในอุตสาหกรรมการเงิน โดยที่ผ่านมา NTT DATA ได้ร่วมพัฒนาสร้างระบบ ecosystem บนบล็อกเชนเพื่อเชื่อมโยงระบบการทำงานระหว่างบริษัทผลิตและพัฒนายานยนต์รายใหญ่ของประเทศเยอรมนี เข้ากับระบบการทำงานของบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก เพื่อพัฒนาระบบซัปพลายเชนตั้งแต่กระบวนการก่อนการผลิตจนถึงการจัดส่งชิ้นส่วนอะไหล่ไปยังตัวแทนจำหน่ายตามความต้องการ โดยพัฒนาบล็อกเชนเพื่อสร้างจุดเชื่อมต่อการทำงานแบบอัตโนมัติ ครอบคลุมการทำงานระบบซัปพลายเชนได้ 17 ประเทศทั่วโลก สามารถจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูล และตรวจสอบผ่านแดชบอร์ดได้แบบเรียลไทม์ นับตั้งแต่เวลาสั่งซื้อไปตลอดจนถึงการส่งมอบในขั้นสุดท้าย ทำให้ช่วยลดระยะเวลาการทำงาน นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของวงการบล็อกเชน”

ฮิโรนาริ โทมิโอกะ
บริษัท เอ็นทีที ดาต้า (ประเทศไทย) จำกัด นั้นเป็นบริษัทภายใต้เครือบริษัท เอ็นทีที ดาต้า คอร์ปอเรชัน จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการด้านไอทีชั้นนำระดับโลก การโชว์เทคโนโลยีบล็อกเชนนี้สะท้อนถึงเมกะเทรนด์ทรงศักยภาพ เป็นกุญแจเชื่อมโลกที่สำคัญ ไม่จำกัดเฉพาะอุตสาหกรรมการเงิน แต่จะกระจายออกไปเป็นกระดูกสันหลังใหม่ของทุกอุตสาหกรรม ทั้งประกัน อุตสาหกรรมยานยนต์ โลจิสติกส์ การแพทย์ การแลกเปลี่ยนสกุลเงินข้ามประเทศ จับตาการสร้าง Ecosystem บนบล็อกเชนเพื่อเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างอุตสาหกรรม ต่อยอดและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีการเปิดเคสตัวอย่าง ค่ายผลิตยานยนต์สัญชาติเยอรมันและผู้ประกอบการโลจิสติกส์ระดับโลกร่วมสร้างบล็อกเชน เพื่อพัฒนาการทำงานร่วมกันระหว่างอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็วและโปร่งใส ทั้งยังชูแพลตฟอร์ม TradeWaltz เชื่อมโยงบล็อกเชนรับเทรนด์ใหม่เพื่อธุรกิจการค้าแบบไร้รอยต่อ

นอกจากโลกการเงิน เทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังแทรกซึมเข้าไปมีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม จากรายงานของ NelsonHall ระบุว่าในตลาดทั่วโลกมีมูลค่าบริการบล็อกเชนอยู่ที่ 496 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 53.3% ไปจนถึงปี 2025 ซึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดใน 5 ปีข้างหน้า โดยกลุ่มธนาคารและการเงิน โทรคมนาคมและสื่อ และภาครัฐจะเติบโตมากที่สุด ซึ่งกลุ่มธนาคารและการเงินจะเป็นภาคส่วนที่ใช้บริการบล็อกเชนมากที่สุด เนื่องจากมีการพัฒนาบริการใหม่ๆ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลเพื่อรองรับความต้องการของตลาด รวมถึงการยืนยันตัวตน การออกเอกสารแบบเรียลไทม์ผ่านระบบดิจิทัล จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีบล็อกเชน


นายฮิโรนาริ กล่าวทิ้งท้ายว่า NTT DATA เชื่อมั่นในศักยภาพของบล็อกเชนที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต ด้วยการเชื่อมต่อหลายบล็อกเชนที่แม้จะอยู่คนละ ecosystem เข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดการต่อยอดทางธุรกิจระหว่างกันได้ง่ายและทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มการแบ่งปันข้อมูลทางการค้าระหว่างประเทศ TradeWaltz (เทรด-วอลซ์) ที่สร้างขึ้นโดยอาศัยข้อมูลที่ได้รับจากกลุ่มบริษัท (Consortium) ในหลายอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันระบบการค้าระหว่างประเทศทั่วโลกสู่ระบบดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการจัดทำเอกสารทางการค้าบนระบบดิจิทัลและทำให้มั่นใจว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้นครบถ้วนถูกต้อง แพลตฟอร์มนี้สามารถรับประกันความถูกต้องของเอกสารดิจิทัลและการถ่ายโอนสิทธิผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ช่วยแชร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์และการอัปเดตสถานะด้วยระบบการจัดการกระบวนการทางธุรกิจ ทั้งยังลดความเสี่ยงของการสูญหาย ถูกขโมย และการปลอมแปลงเอกสาร 

คุณสมบัติโดดเด่นของแพลตฟอร์มนี้คือการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันต่อเจ้าของข้อมูล ส่งเสริมให้เกิดการใช้ข้อมูลอย่างครอบคลุมในหลากหลายธุรกิจและไม่จำกัดเขตแดน สนับสนุนการค้าระหว่างประเทศให้ดำเนินธุรกิจที่ลื่นไหลบนโลกธุรกิจยุคดิจิทัล และในฐานะผู้นำธุรกิจดิจิทัลระดับโลก NTT DATA สามารถให้บริการสร้าง ecosystem ของ บล็อกเชนได้แบบ end-to-end นับตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบระบบ และการพัฒนาระบบด้วยการบูรณาการ (Integrate) ระบบจากหลายบริษัทที่อยู่ภายใต้บล็อกเชนด้วยการเชื่อมต่อผ่าน API ตลอดจนการบำรุงรักษาระบบเพื่อสร้างมูลค่า และคุณค่าให้บริษัท




กำลังโหลดความคิดเห็น