xs
xsm
sm
md
lg

SKY ICT พัฒนา e-KYC นำ AI เสริมการสแกนใบหน้าขณะเคลื่อนไหว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สกาย ไอซีที” พัฒนาแพลตฟอร์ม e-KYC ด้วยการนำ AI เสริมประสิทธิภาพการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนด้วยภาพเคลื่อนไหว เปรียบเทียบอัตลักษณ์บุคคลอย่างแม่นยำ ป้องกันการปลอมแปลงใบหน้า พร้อมเปิดให้ทดลองสำหรับภาคธุรกิจ เล็งนำร่องกลุ่ม Digital Asset-ธนาคาร-ประกัน
 
นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY กล่าวว่า บริษัทได้ยกระดับเทคโนโลยีการทำความรู้จักลูกค้าด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) หนึ่งในเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อความปลอดภัยของธุรกิจและแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วยการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีส่วนช่วยพัฒนาฟีเจอร์ยืนยันตัวตนผ่านการสแกนใบหน้า (Facial Authentication) พร้อมทั้งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยขั้นสูงขณะทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ให้แก่ทั้งผู้ใช้และภาคธุรกิจ รองรับการเติบโตของบล็อกเชน 

สำหรับแพลตฟอร์ม e-KYC จากสกาย ไอซีที ประกอบด้วย 7 ฟีเจอร์เด่น ที่จะช่วยให้การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้ามีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประกอบด้วย 5 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่ 1.การตรวจจับใบหน้า (Face Detection) โดยใช้ระบบ 2D ในการสแกนใบหน้าเพื่อแปลงอัตลักษณ์ให้เป็นข้อมูลอ้างอิงชีวมิติ 2.การปรับคุณภาพรูปถ่าย (Face Quality) จากการวิเคราะห์และตรวจสอบความคมชัดของใบหน้าจากรูปภาพเพื่อให้ได้มาตรฐาน

3.การจำแนกข้อมูลอัตลักษณ์จากใบหน้า (Face Attributes) ด้วยการวิเคราะห์องค์ประกอบของใบหน้าเพื่อระบุคุณลักษณะ เช่น เพศ อายุ การสวมใส่แว่นตาหรือหน้ากากอนามัย 4.การเปรียบเทียบใบหน้า (Face Comparison) เพิ่มประสิทธิภาพในการพิสูจน์ตัวตนให้แม่นยำมากขึ้น ด้วยการเทียบใบหน้าปัจจุบันเข้ากับฐานข้อมูล 5.การตรวจจับภาพหน้าจริง (Photo Liveness Detection) ตรวจจับภาพนิ่งว่าเป็นภาพใบหน้าจริง ป้องกันการนำรูปถ่ายหรือหน้ากากมาแอบอ้างในการยืนยันตัวตน

และอีก 2 ฟีเจอร์ใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจับภาพเคลื่อนไหว หรือ Interactive Face Liveness Detection ได้แก่ 6.การตรวจจับใบหน้าจริงแบบภาพเคลื่อนไหว (Video Silent Liveness Detection) เพื่อป้องกันการนำไฟล์วิดีโอมาแอบอ้างในการยืนยันตัวตน และ 7.การตรวจจับภาพเคลื่อนไหวแบบตอบสนอง (Video Interactive Liveness) ด้วยการยืนยันตัวตนโดยเคลื่อนไหวตามคำร้องขอของระบบ ทั้ง 2 ฟีเจอร์ถือเป็นจุดแตกต่างที่บริษัทมุ่งพัฒนาให้มีประสิทธิภาพโดดเด่นกว่าตลาดในประเทศไทย  

การพัฒนาแพลตฟอร์ม e-KYC ร่วมกับ SenseTime International นำเทคโนโลยี Interactive Face Liveness Detection เข้ามาเสริมประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลชีวมิติ (Biometric Presentation Attack) เช่น นำภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวใบหน้าของผู้อื่นมาซ้อนทับขณะสแกนใบหน้า เพื่อแอบอ้างตัวตัวในการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์

ขณะเดียวกัน ได้ปรับรูปแบบการทำงานของเทคโนโลยีให้เข้ากับบริบทสภาพแวดล้อมและสังคมไทย ตลอดจนลักษณะทางกายภาพของคนไทย เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการยืนยันตัวตนและความปลอดภัย รองรับความต้องการใช้งานของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ และสร้างความแตกต่างจากแพลตฟอร์ม e-KYC ทั่วไปที่นิยมซื้อสิทธิการใช้งานมาจากต่างประเทศโดยตรงและไม่ได้พัฒนาให้เข้ากับบริบทของไทย
  
ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม e-KYC จากสกาย ไอซีที สามารถตอบโจทย์ความต้องการความปลอดภัยขั้นสูงแก่ลูกค้าองค์กรถึง 4 ด้าน ได้แก่ 1.มีความแม่นยำสูง (High Accuracy) จากการใช้แพลตฟอร์ม e-KYC ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดบน NIST 2.ดูแลความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) โดยทำงานผ่านระบบ Cloud-Based Solution ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก 3.ลดเวลาในการรับส่งข้อมูล (Low Latency Data) ส่งข้อมูลได้รวดเร็วกว่าโดยไม่ลดประสิทธิภาพในการทำงาน และ 4.ใช้ต้นทุนน้อยกว่า (Cost Reduction) ช่วยลดต้นทุนต่อการทำธุรกรรม (Transaction) ของผู้ประกอบการธุรกิจ


กำลังโหลดความคิดเห็น