NT จับมือ กอช.นำดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพการออมเงิน

NT จับมือ กอช. นำเทคโนโลยีบริหารจัดการฐานข้อมูล-เพิ่มประสิทธิภาพการออมเงินแบบดิจิทัล พร้อมช่วยกันส่งเสริมการขายซึ่งกันและกัน รวมถึงการจัดแพกเกจซิมการ์ดเฉพาะสมาชิก กอช.ให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตราคาถูก

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) กับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในการเป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและระบบดิจิทัลให้ กอช. เช่น การพัฒนาระบบแพลตฟอร์มการออมเงิน การจัดเก็บข้อมูลและบริหารจัดการข้อมูลลูกค้า เป็นต้น นอกจากนี้ ยังร่วมกันส่งเสริมการขายซึ่งกันและกันเพื่อให้ฐานสมาชิกของ กอช.และลูกค้าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ NT เพิ่มขึ้น ขณะที่ศูนย์บริการของ NT จะเป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้สำหรับสมาชิก กอช. ในการใช้งานแอปพลิเคชันออมเงินของ กอช.ด้วย

ทั้งนี้ การสนับสนุนระบบการให้บริการการจัดการดังกล่าวสอดรับกับแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ.2561-2580) NT ในฐานะหน่วยงานในสังกัดที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลมาอย่างยาวนาน จะช่วยส่งเสริมให้ กอช. สามารถบรรลุตามเป้าประสงค์ในการให้บริการและการดำเนินงานในทุกๆ ด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือในการบูรณาการข้อมูลของภาครัฐ และการบริการสาธารณะให้มีความสอดคล้อง เชื่อมโยงและปลอดภัย และเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาทักษะ “Digital Literacy” ที่ทุกคนเข้าใจและใช้เทคโนโลยีได้อย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัย เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ซึ่งความสำเร็จของโครงการ นอกจากจะส่งผลดีแก่ผู้เข้าร่วมโครงการที่จะได้รับความสะดวก รวดเร็วจากการใช้บริการแล้ว ยังจะส่งผลสัมฤทธิ์ให้ประชาชนตระหนักรู้เรื่องการออมเงิน เพื่อสร้างหลักประกันที่มั่นคงในชีวิตของตนเอง และเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต


ด้าน น ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เป็นหน่วยงานภาครัฐ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มีหน้าที่ดูแลด้านการออมเพื่อการชราภาพของประชาชนให้ทั่วถึง มีจุดมุ่งหมายสำคัญในการสร้างหลักประกันที่มั่นคงในชีวิตให้ประชาชนที่มีอาชีพอิสระ ชาวไร่ ชาวนาที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมหรือข้าราชการ ปัจจุบันมีประชาชนกลุ่มนี้อยู่ประมาณ 7 ล้านคนทั่วประเทศ โดยเป็นสมาชิก กอช.ประมาณ 2 ล้านคน วงเงินการออมอยู่ที่ประมาณกว่าหมื่นล้านบาท

สำหรับการออมกับ กอช. เปรียบเสมือนการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ หรือพนักงานของรัฐ สามารถรับบำนาญในยามเกษียณได้เช่นเดียวกัน โดยออมตั้งแต่อายุ 15-60 ปี เริ่มออมขั้นต่ำครั้งละ 50 บาทไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี เมื่อเริ่มต้นวางแผนการออมเงินกับ กอช. ได้รับสิทธิประโยชน์จากการออมเพิ่มถึง 3 ต่อ

ต่อที่ 1 รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐตามช่วงอายุของสมาชิก อายุ 15-30 ปี รัฐสมทบให้ 50% ของเงินออม ไม่เกินปีละ 600 บาท อายุ > 30-50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออม ไม่เกินปีละ 960 บาท อายุ > 50-60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออม ไม่เกินปีละ 1,200 บาท ต่อที่ 2 ผลตอบแทนของเงินออมสะสม และเงินสมทบที่นำไปลงทุน และต่อที่ 3 ลดหย่อนภาษีประจำปีตามจำนวนเงินออมสะสม

ขณะที่นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ NT เปิดเผยว่า NT ในฐานะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดีอีเอส ได้มีการกำหนดกรอบการดำเนินงานให้สนองตามแนวนโยบายของกระทรวงที่ต้องการสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันทันสมัยมาช่วยพัฒนาประเทศอย่างรอบด้าน NT จึงมีความตั้งใจที่จะนำความรู้ทางวิชาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนการดำเนินงานของ กอช. ให้ประสบผลสำเร็จ และพร้อมที่จะนำบริการด้านดิจิทัลและสื่อสารโทรคมนาคมประเภทต่างๆ ที่มีมาส่งเสริมและร่วมกันพัฒนาการให้บริการของ กอช. ให้เป็นไปตามภารกิจและเจตนารมณ์ที่ตั้งใจไว้ ซึ่งความร่วมมือของทั้ง 2 หน่วยงานในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ NT มีความภูมิใจ เพราะเราได้มีส่วนร่วมต่อการช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทย