นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้น สิ่งหนึ่งที่คนไทยปรับตัวได้อย่างรวดเร็วคือการเข้าถึงบริการดิจิทัล ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในช่องทางหลักในการเข้าถึงบริการของภาครัฐ รวมถึงการใช้งานของภาคเอกชนต่างๆ ที่เปิดช่องทางติดต่อผ่านดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น
ดีแทค นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เห็นความสำคัญของบริการดิจิทัลมาตลอด ด้วยการผลักดันตั้งแต่ผู้ใช้งาน จนถึงพนักงานฝ่ายบริการให้เข้าสู่บริการดิจิทัลที่กลายเป็นพื้นฐานของการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่สำคัญ ช่วยให้แต่ละสาขาให้บริการลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะข้อมูลทุกอย่างเชื่อมต่อเข้าสู่ศูนย์กลางผ่านระบบคลาวด์อยู่แล้ว
ในปี 2564 ดีแทค ได้เริ่มกลยุทธ์อย่าง Fast Forward Digital ขึ้น ทำให้สามารถกวาดลูกค้ามาใช้บริการดิจิทัลเพิ่มขึ้นได้ถึง 7 แสนราย รวมเป็นจำนวนผู้ใช้งานดิจิทัลกว่า 6.7 ล้านคนต่อเดือน และใช้งานแอ็กทีฟ 1 ล้านคนต่อวัน จากฐานลูกค้าทั้งหมด 19.6 ล้านรายในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา และเพิ่มเป็นผู้ใช้งานกว่า 7.3 ล้านรายในปัจจุบัน
ข้อมูลการเติบโตของผู้ใช้งานดิจิทัลที่เกิดขึ้นและมีความน่าสนใจคือกลุ่มผู้ใช้งานในระบบเติมเงินเติบโตถึง 49% ที่แสดงให้เห็นว่าไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้ใช้ในต่างจังหวัดเริ่มไม่แตกต่างจากระบบรายเดือน โดยเฉพาะการแลกรับสิทธิพิเศษจาก dtac reward coins ที่ส่งผลให้ลูกค้าสมัครใช้บริการดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า มีการใช้งาน dtac coins ไปกว่า 1 หมื่นล้านคอยน์
ขณะเดียวกัน ดีแทคยังได้เริ่มขยายบริการดิจิทัล นอกจากที่นำมาให้บริการแก่ลูกค้าในการทำธุรกรรมอย่างสมัครแพกเกจ บริการเสริม ชำระค่าบริการ เติมเงิน และแลกรับสิทธิพิเศษต่างๆ แล้ว ยังได้ขยายบริการดิจิทัลให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในส่วนของบริการเติมเงินเกม และเปิดทางให้คนไทยเข้าถึงประกันสุขภาพ และอุบัติเหตุต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
‘ฮาว ริ เร็น’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ในระยะเวลาหลังจากเริ่มให้บริการค้นหาแผนประกันภัยที่ดีแทค ดีชัวรันส์ เพียง 2 เดือน มีผู้สนใจเข้ามาค้นหาข้อมูลมากกว่า 2.5 ล้านครั้ง และกว่า 25% ไม่ใช่ลูกค้าดีแทค
ส่วนบริการเติมเกมผ่านแหล่งรวมเกมชั้นนำอย่าง Gaming Nation ที่เปิดให้เกมเมอร์ที่เล่นเกมดังอย่างPUBG Mobileและเกม อื่นๆ สามารถเติมเงินเกมพร้อมรับสิทธิพิเศษ ด้วยการชำระเงินผ่านเบอร์ดีแทค ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
แน่นอนว่า แม้ปัจจุบันดีแทคกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการควบรวมกิจการกับทางกลุ่มทรู ทำให้เข้าใจว่าจะไม่มีการลงทุน หรือนำบริการใหม่มาให้แก่คนไทยแล้ว แต่ในความเป็นจริง ดีแทคยังคงเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องในประเทศไทยเพื่อให้บริการลูกค้า
“สิ่งที่เกิดขึ้นคือดีแทค เห็นข้อมูลของปริมาณการใช้งานดาต้าที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตัวเลขของการเข้าถึงบริการดิจิทัลที่เติบโต ที่กลายเป็นโอกาสสำคัญในการที่ดีแทคจะก้าวข้ามการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม สู่การเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลที่เปิดให้คนไทยทุกคนเข้ามาใช้งานได้”
นอกจากนี้ ดีแทคยังได้วางงบลงทุนเพื่อขยายเครือข่าย และให้บริการเพิ่มเติมในปีนี้ไว้ราว 12,000-14,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ดีแทคสามารถเห็นอัตราการเติบโตของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้ามามากยิ่งขึ้น
***เชื่อมต่อโทรคมนาคมผ่านไลฟ์สไตล์ดิจิทัล
สำหรับ 3 แกนใหม่ของบริการดิจิทัลที่ ดีแทค เพิ่มเติมเข้ามาในปีนี้เพื่อตอกย้ำถึงการก้าวข้ามผู้ให้บริการโทรคมนาคม สู่บริการดิจิทัลที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคน ประกอบด้วย 1.ด้านการปกป้อง และคุ้มครองผู้ใช้งาน 2.ตอบสนองผู้ใช้งานในกลุ่มเกมเมอร์มากขึ้น และ 3.การเป็นแพลตฟอร์มให้บริการทางการเงิน
ภายใน 3 ส่วนนี้จะแยกย่อยออกมาเป็นบริการให้ลูกค้าใช้งานที่หลากหลาย เริ่มกันตั้งแต่ dtac safe บริการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ที่จะเข้าไปช่วยปกป้องการโจมตีทางไซเบอร์ต่างๆ โดยเฉพาะการป้องกันลิงก์ หรือเว็บไซต์ปลอมที่หลอกให้เข้าไปดาวน์โหลดติดตั้งไฟล์ รวมถึงหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว บัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ
แน่นอนว่า บริการอย่าง dtac safe อาจจะไม่ป้องกันภัยคุกคามอย่างการหลอกให้โอนเงิน หรือการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่การมีฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อสกรีนการเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนจะช่วยเสริมความปลอดภัยในการใช้งานได้ระดับหนึ่ง เพราะปัจจุบันกลายเป็นว่าข้อมูลสำคัญหลายๆ อย่างถูกจัดเก็บไว้บนสมาร์ทโฟนหมดแล้ว ซึ่งบริการนี้จะเริ่มให้บริการในราคาเดือนละ 29 บาท และเปิดให้ทดลองใช้งานฟรีก่อน 2 เดือน
ถัดมาคือบริการอย่าง dtac Gaming SIM เพื่อจับกลุ่มผู้บริโภคที่เน้นเล่นเกมโดยเฉพาะ ด้วยการเปิดช่องทางใช้งานดาต้าพิเศษสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ แยกจากช่องทางใช้งานปกติ ทำให้สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลมากกว่าเดิม และยังผสมผสานสิทธิพิเศษจาก Gaming Nation เข้าไป ทำให้สามารถรับส่วนลดในการเติมเกม ซื้อแอป ซื้อสติกเกอร์ ได้
จะเห็นได้ว่าบริการอย่าง Gaming SIM ถือเป็นการนำความสามารถของการบริหารจัดการเครือข่ายอัจฉริยะมาใช้งาน ซึ่งในอนาคตสามารถต่อยอดบริการนี้ไปยังรูปแบบการใช้งานอื่นๆ ตามกลุ่มผู้ใช้งาน อย่างก่อนหน้านี้ มีการทำซิมสำหรับพ่อค้าแม่ค้าอีคอมเมิร์ซ ซิมสำหรับใช้งานโซเชียล และมีโอกาสที่จะขยายไปยังกลุ่มอื่น เช่น ซิมพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการดูหนัง ฟังเพลงเป็นหลัก
สุดท้ายคือในแง่ของบริการทางการเงินดิจิทัลอย่าง Pay Via dtac ที่จะเข้าไปช่วยเหลือในแง่ของการจัดการบิล และใบเสร็จต่างๆ ด้วยตัวเลือกการชำระเงินผ่านดีแทค โดยไม่ต้องใช้งานบัตรเครดิตเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนสามารถชำระค่าสินค้าและบริการดิจิทัลรวมทั้งยังสามารถควบคุมแผนการเงินได้
***ใครๆ ก็ใช้ได้
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การอัปเดตครั้งใหญ่ของดีแทคแอป ที่ได้เพิ่มความสามารถใหม่ในการเชื่อมต่อโลกดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่จำกัดเฉพาะคนไทยที่ใช้งานดีแทคแต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติ เพราะปัจจุบันดีแทคแอป รองรับการใช้งานถึง 4 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ พม่า และกัมพูชา ทำให้แรงงานต่างชาติที่เข้ามาใช้งานในไทยเข้าถึงบริการดิจิทัลได้ด้วย
ขณะเดียวกัน เพื่อขยายฐานลูกค้าที่ใช้งานดีแทคแอปให้กว้างขึ้นไปอีก จึงไม่ได้ปิดกั้นให้บริการดิจิทัลเฉพาะลูกค้าดีแทคเท่านั้น แต่เปิดกว้างให้ลูกค้าที่ใช้งานเบอร์โทรศัพท์ค่ายอื่นสามารถเข้าถึงบริการอย่าง Gaming Nation และดีชัวรันส์ได้ ผ่าน dtac app lite ในรูปแบบของเว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานมือถือทุกรุ่น
พร้อมกันนี้ ในแอปพลิเคชันเวอร์ชันใหม่ ได้มีการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการคัดเลือกข้อมูลที่ลูกค้าสนใจเพื่อนำเสนอให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด รวมถึงการพัฒนารูปแบบการเข้าถึงสิทธิพิเศษจากดีแทค รีวอร์ด และดีแทค รีวอร์ด คอยน์ ให้ลูกค้ามีความสนุก ได้มีส่วนร่วมจากรางวัลต่างๆ ทำให้ลูกค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มและเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นดิจิทัลในวงที่กว้างขึ้น
นอกจากนี้ ล่าสุด ดีแทคยังเพิ่มความพิเศษในการใช้งานด้วยการเข้าไปร่วมมือกับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย นำบริการเข้าไปช่วยเหลืออย่างคอลเซ็นเตอร์ภาษามือ การจัดทำสื่อวิดีโอออนไลน์ เพื่อสร้างมุมมองการรับรู้ต่อผู้พิการ พร้อมทำแพกเกจพิเศษให้ผู้พิการสามารถสื่อสารกันได้อย่างต่อเนื่อง
เรียกได้ว่า ดีแทคต้องการผลักดันบริการดิจิทัลให้เข้าถึงคนไทยทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ด้วยการสร้างโอกาสในการเข้าถึงช่องทางดิจิทัล ช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น โดยวางเป้าหมายไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการดิจิทัลของดีแทคมากกว่า 10 ล้านคน