การ์ดเนอร์ (Gartner) ชูอีริคสันเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G สำหรับผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร ในรายงานการ์ทเนอร์เมจิค ควอดเรนท์ (Gartner Magic Quadrant) ประจำปี 2565
เฟรดริก เจดลิง รองประธานผู้บริหารและหัวหน้าเครือข่ายอีริคสัน กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่วิสัยทัศน์ด้าน 5G ของอีริคสันตั้งแต่ความเป็นผู้นำทางความคิดไปจนถึงการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพกับภาคอุตสาหกรรม และความสามารถในการดำเนินงานด้านโครงสร้าง 5G ที่โดดเด่นไม่เป็นรองใครของบริษัทได้รับการยอมรับจากการ์ทเนอร์อีกครั้งในฐานะผู้นำของอุตสากรรม
“การได้รับการยอมรับใน Magic Quadrant for 5G Network Infrastructure for Communications Service Providers โดยการ์ทเนอร์ตอกย้ำให้เห็นจุดยืนของบริษัทฯ และเป็นสิ่งยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเรา โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญเสมอ”
อีริคสันถือเป็นบริษัทที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ปีนี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันซึ่งจากรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อีริคสันได้รับเลือกให้เป็นผู้นำอันดับสูงสุดในด้านความสามารถในการดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G สำหรับผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร ทั้งนี้ อีริคสันเคยได้รับเลือกให้เป็นผู้นำในรายงานประจำปี 2564 ปีแรกที่การ์ทเนอร์จัดทำรายงานดังกล่าว
แถลงการณ์ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญของการ์ทเนอร์ได้ประเมินและวัดผลอย่างครอบคลุมและตรงไปตรงมากับบริษัทต่างๆ ที่นำเสนอโซลูชัน 5G แก่ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร โดยครอบคลุมทั้งในภาพรวมวิสัยทัศน์และความสามารถในการดำเนินงานเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G เพื่อนำเสนอและสรุปเป็นภาพรวมตลาดถึงความสามารถในโครงสร้าง 5G
ด้านอีริคสันย้ำถึงความตระหนักดีว่าผู้ขายโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G แบบครบวงจรถูกประเมินจากความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพแก่ผู้ให้บริการไอทีเพื่อให้แข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยส่งผลเชิงบวกต่อการสร้างรายได้ การรักษาฐานลูกค้า และชื่อเสียงในมุมมองการตลาดของการ์ทเนอร์ ซึ่งการประเมินดังกล่าวยังรวมถึงความสามารถในการดำเนินการด้านผลิตภัณฑ์และบริการของอีริคสันที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและติดตามบันทึกการดำเนินกิจกรรมทางการตลาด ประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับและภาพรวมของศักยภาพทางธุรกิจ
ปัจจุบัน อีริคสันมีสัญญา 5G เชิงพาณิชย์กับผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs) มากกว่า 170 ฉบับ และเปิดให้บริการ 5G แล้วถึง 114 เครือข่ายทั่วโลก พร้อมพัฒนาการให้บริการ 5G แบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง 5G RAN และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพใน Ericsson Radio System, Cloud RAN, Ericsson Silicon, 5G Core, Orchestration, BSS และ 5G สำหรับคมนาคม (5G Transport) ตลอดจนบริการระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้แนะนำโซลูชันนวัตกรรมซอฟต์แวร์ เช่น Ericsson Spectrum Sharing, 5G Carrier Aggregation และ Uplink Booster ที่ช่วยเพิ่มความครอบคลุมของเครือข่ายสัญญาณ สมรรถนะในการทำงานของผู้ใช้ และประสิทธิภาพของคลื่นความถี่อย่างมีนัยสำคัญ
"โซลูชันเหล่านี้สนับสนุนผู้ให้บริการในการปรับใช้และพัฒนา 5G เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้ปลายทางจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ Ericsson Radio System ที่มีจำหน่ายตั้งแต่ปี 2558 สามารถรองรับความสามารถ 5G New Radio (NR) ผ่านการติดตั้งด้วยซอฟต์แวร์จัดการจากระยะไกล" แถลงการณ์ระบุ
สำหรับบริการ Ericsson Digital Services นำเสนอโซลูชัน 5G Core แบบดูอัลโหมดบนคลาวด์เนทีฟสำหรับเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอัจฉริยะโดยช่วยผู้ให้บริการด้านการสื่อสารสามารถนำเสนอโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้มือถือและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้
ขณะที่โซลูชัน 5G Core ของอีริคสันรวมฟังก์ชัน Evolved Packet Core และฟังก์ชันเครือข่าย 5G Core เข้ากับแพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟปกติที่รองรับ 5G NR แบบสแตนด์อะโลน และแบบไม่สแตนด์อะโลน เช่นเดียวกับโซลูชันรุ่นก่อนหน้าที่ช่วยประหยัดต้นทุนทั้งหมดในการเป็นเจ้าของ และการย้ายไปยังเครือข่าย 5G อย่างราบรื่น