หัวเว่ย (Huawei) ประกาศเปิดตัวคอนเซ็ปต์สมาร์ทออฟฟิศ “Super Device” การันตีเป็นโซลูชันใหม่ที่จะยกระดับการเชื่อมต่อข้ามอุปกรณ์และการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ของหัวเว่ยที่รองรับการใช้งานเทคโนโลยี Super Device เช่นกัน
Huawei ระบุในแถลงการณ์ว่า ฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์นี้สอดคล้องกับแนวคิด “ชีวิตเอไอไร้รอยต่อ” หรือ Seamless AI Life ที่หัวเว่ยผลักดันตลอดมา โดยหัวเว่ยตั้งมั่นว่าจะสามารถนำมาใช้งานได้กับ 5 กลุ่ม ได้แก่ สุขภาพและการออกกำลังกาย การเดินทาง สมาร์ทออฟฟิศ ความบันเทิง และสมาร์ทโฮม โดย ‘Super Device’ นี้ เปิดตัว ณ กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565
Huawei อธิบายว่าในฐานะที่เป็นหนึ่งในสถานการณ์การใช้งานหลัก ตามแนวคิด “ชีวิตเอไอไร้รอยต่อ” หัวเว่ยจึงมาพร้อมวิสัยทัศน์ “การสร้างสรรค์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด” (Boundless Creation) และ “การเชื่อมโยงกันแบบไร้รอยต่อ” (Seamless Communication) มาใช้กับสมาร์ทออฟฟิศ โดยมุ่งเป้าให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์การทำงานที่มีประสิทธิภาพด้วยดิจิทัล จากการผสานศักยภาพสำคัญ 2 ประการของหัวเว่ย อันได้แก่ การทำงานข้ามดีไวซ์ (Cross-Device Collaboration) และการผสานพลังอีโคซิสเต็ม (Ecosystem Integration) โดยการทำงานข้ามดีไวซ์จะทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์เข้าด้วยกันเพื่อการใช้งานที่เป็นหนึ่งเดียว ส่วนการผสานพลังอีโคซิสเต็มนั้นจะเข้ามาปิดช่องว่างระหว่างวินโดวส์และแพลตฟอร์มอุปกรณ์พกพา กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และยกระดับประสิทธิภาพการสื่อสาร
สำหรับในปัจจุบันนี้ที่ผู้บริโภคจำนวนมากมีสมาร์ทดีไวซ์ในครอบครองมากกว่า 1 เครื่องขึ้นไป หลายคนจึงประสบปัญหาของการใช้ 2 อีโคซิสเต็มที่ต่างกันและไม่เชื่อมต่อถึงกัน เช่น ใช้แล็ปท็อปทำงานและใช้สมาร์ทโฟนเพื่อความบันเทิง เนื่องจากยังไม่มีดีไวซ์ไหนที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ทั้งหมดในเครื่องเดียว ดังนั้น ความสามารถในการใช้จุดแข็งของกันและกัน และสร้างเป็นประสบการณ์หนึ่งเดียวอันเป็นเอกภาพนั้นจึงกลายมาเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าครั้งไหน โดยเฉพาะเมื่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกับความต้องการรักษาประสิทธิภาพการทำงานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
"การทำงานข้ามดีไวซ์ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทำงานได้ลื่นไหลไร้รอยต่อยิ่งขึ้น และหัวเว่ยก็เป็นหนึ่งในผู้นำแนวหน้าในการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เชื่อมต่อหลายดีไวซ์เข้าด้วยกัน นับตั้งแต่เปิดตัวฟีเจอร์ OneHop ในปี 2018 ซึ่งสามารถส่งไฟล์จากสมาร์ทโฟนเข้าแล็ปท็อปได้ในสัมผัสเดียว ต่อมาในปี 2020 ก็ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Multi-Screen Collaboration ซึ่งเป็นทำงานร่วมกันระหว่าง 2 อุปกรณ์ เช่น แล็ปท็อปกับแท็บเล็ต แล็ปท็อปกับสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟน เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ทำให้เกิดฟังก์ชันการใช้งานใหม่ๆ เช่น การลากส่งไฟล์ระหว่าง 2 อุปกรณ์ และการเปิดไฟล์ที่อยู่บนสมาร์ทโฟนได้จากบนแล็ปท็อปโดยตรง ปัจจุบันหัวเว่ยมีเป้าหมายที่จะทลายขีดจำกัดของการทำงานระหว่างดีไวซ์โดยการนำฟีเจอร์ Super Device ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อปี 2021 มาใช้ในสมาร์ทออฟฟิศ เพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับการใช้งาน ทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นหนึ่งเดียว" Huawei ระบุ
Huawei ชี้ว่าขณะนี้ Super Device พร้อมให้ใช้งานบนแล็ปท็อปของหัวเว่ยผ่านอินเทอร์เฟซ “ลากเพื่อเชื่อมต่อ” แสนง่ายของ Super Device ใน Control Centre ของแล็ปท็อป ช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงรูปภาพและไฟล์ต่างๆ บนมือถือ รวมทั้งการเชื่อมต่อหน้าจออัจฉริยะเพื่อพรีเซนต์งานได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ซึ่งจะทำให้ทำงานได้อย่างลื่นไหล และมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถทำงานข้ามไปมาระหว่างดีไวซ์ได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ ด้วยฟีเจอร์ Pop-Up Pairing[2] แล็ปท็อปของหัวเว่ยยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ ของหัวเว่ยได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นหูฟังไร้สาย ลำโพง เมาส์และคีย์บอร์ดบลูทูธ ยกระดับประสบการณ์สมาร์ทออฟฟิศได้อย่างครบวงจร
เมื่อเชื่อมต่อแล้ว สมาร์ทโฟนจะทำหน้าที่เสมือน external drive ให้แล็ปท็อป เพราะผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงไฟล์บนสมาร์ทโฟนได้อย่างอิสระเหมือนใช้งานอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอื่นๆ ซึ่งจะใช้ UI แบบเดียวกับบนแล็ปท็อปที่ผู้ใช้คุ้นเคยอยู่แล้ว
และด้วยฟีเจอร์ Super Device อินเทอร์เฟซของสมาร์ทโฟนยังสามารถไปปรากฏบนจอแล็ปท็อป รวมทั้งสามารถใช้งานฟีเจอร์ Multi-Screen Collaboration เปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันมือถือจากบนจอแล็ปท็อปได้ถึง 3 แอปพลิเคชันพร้อมกันเพื่อการทำงานแบบ multi-tasking นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึงและรับส่งไฟล์ต่างๆ ที่บันทึกไว้บนสมาร์ทโฟนจากแล็ปท็อปด้วยการลากและวาง รวมถึงสามารถแก้ไขไฟล์ที่อยู่บนสมาร์ทโฟนผ่าน HUAWEI MateBook ได้ โดยทุกการเปลี่ยนแปลงจะถูกบันทึกไปยังสมาร์ทโฟนโดยอัตโนมัติ พร้อมให้แชร์ไฟล์ต่อได้ทันที
เทคโนโลยีนี้ยังมีรายละเอียดอื่นอีกมาก สำหรับผู้บริโภคชาวไทย Huawei ย้ำว่าเตรียมพบกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ และสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ Super Device ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเร็วๆ นี้