อินเทล เพิ่มไลน์โปรเซสเซอร์โมบาย Intel Core เจเนอเรชัน 12 โดยมีทั้งรุ่นประสิทธิภาพสูง และประหยัดพลังงานใน Intel P ซีรีส์ และ Intel U ซีรีส์ กว่า 20 รุ่นย่อยที่จะทยอยวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมนี้ มากกว่า 250 รุ่น จากแบรนด์พีซีชั้นนำ
คริส วอล์คเกอร์ รองประธานบริษัทอินเทล และผู้จัดการทั่วไปฝั่งแพลตฟอร์มอุปกรณ์พกพา หลังจากการเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายที่เร็วและแรงที่สุดสำหรับคอเกม อินเทลพร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ตระกูลโปรเซสเซอร์โมบาย Intel Core เจเนอเรชัน 12 เพื่อส่งมอบขุมพลังทรงประสิทธิภาพก้าวสำคัญให้แก่แล็ปท็อปดีไซน์บาง น้ำหนักเบา
“ไลน์ซีพียูนี้จะเข้าไปอยู่ในโน้ตบุ๊กตั้งแต่ฟอร์มแฟกเตอร์บางเฉียบ ไปจนถึงประสิทธิภาพการทำงานระดับ Enthusiast Grade ที่มาพร้อมดีไซน์อันมีเอกลักษณ์โดดเด่น อินเทลพร้อมนำเสนอประสิทธิภาพแห่งความเป็นผู้นำและเทคโนโลยีล้ำสมัยแก่ลูกค้าผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับเจเนอเรชัน 12 โปรเซสเซอร์โมบายถูกออกแบบโดยอิงจากสถาปัตยกรรมไฮบริดประสิทธิภาพของอินเทล ที่มีการผสมผสานระหว่าง Performance-cores (P-cores) และ Efficient-cores (E-cores) ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานตั้งแต่วิดีโอคอล ไปจนถึงการท่องเว็บ หรือการแก้ไข ตัดต่อภาพต่างๆ ปริมาณเวิร์กโหลดจะถูกวางอย่างชาญฉลาด บนคอร์ที่ถูกต้อง ในเวลาที่เหมาะสม
นอกเหนือจากการออกแบบที่บางเบาแล้ว ยังมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมหลักใหม่ทั้งหมดที่มีมากถึง 14 คอร์ (6 P-cores และ 8 E-cores) กราฟิก Intel Iris Xe ติดตั้งในตัวที่มีหน่วยประมวลผลสูงถึง 96EU รองรับหน่วยความจำสำหรับ DDR5/LPDDR5 และ DDR4/LPDDR4 ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นเกือบ 2 เท่า สำหรับการเรนเดอร์งาน 3D พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Intel Wi-Fi 6E (Gig+) และ Thunderbolt 4 ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม หรือต่อจอมอนิเตอร์เพิ่มเติมได้สะดวกขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน อินเทลได้ประกาศยกระดับมาตรฐาน Intel Evo เวอร์ชันที่ 3 จะต้องผ่านการทดสอบเพิ่มเติม ในแง่ของประสบการณ์วิดีโอคอลล์ พร้อมโหมดการปลุกเครื่องแบบ instant wake และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ตามการใช้งานจริง รวมทั้งการชาร์จที่รวดเร็ว
ทำให้แล็ปท็อป Intel Evo ซึ่งมาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel Core เจเนอเรชัน 12 สามารถตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลาย โดยยังคงรักษาการเชื่อมต่อไว้อย่างดีเยี่ยม พร้อมให้คุณภาพของภาพและเสียงที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสนทนาทางวิดีโอแบบหลายคน
ด้วยความร่วมมือด้านวิศวกรรมกับพันธมิตรทางธุรกิจถึง 150 ราย ทำให้คาดว่าจะมี Intel Evo มากกว่า 100 ระบบที่ผ่านการตรวจสอบในปีนี้ โดยสำหรับระบบในครั้งแรกนี้จะรวมถึงจอแสดงผลแบบพับได้ และการออกแบบด้วย Intel Core H-series เจเนอเรชัน 12
