42 บางกอก (42 Bangkok) ลุยผลิต “โปรแกรมเมอร์หัวกะทิ” ลุยตลาดงานอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ชี้เทรนด์การเรียนสุดล้ำปี 2022 “ไม่มีค่าเทอม ไม่มีครู ไม่มีใบปริญญา” ชวนส่องลิสต์ “เทคจ็อบส์” ไปต่อได้ไกลในอุตสาหกรรมดิจิทัล ทั้งเอไอ (AI) ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) คริปโตกราฟี (Cryptography) และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science)
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยยันต์ เจตนาเสน Director of 42 Bangkok เปิดเผยว่า 42 บางกอก (42 Bangkok) เป็นสถาบันโปรแกรมเมอร์ระดับโลก ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้จัดตั้งขึ้นด้วยเล็งเห็นถึงโอกาสและแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลในไทย ผ่านการพัฒนาศักยภาพโปรแกรมเมอร์ร่วมขับเคลื่อนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย (Digital Industry) ที่นับได้ว่ามีรูปแบบการเรียนการสอนยุคใหม่ปี 2022 และพร้อมเปิดรับผู้เรียนที่สนใจทั้งชาวไทยและต่างประเทศแบบออนไซต์ (On-Site) ครั้งแรก ด้วยรูปแบบการเรียนที่ถอดแบบมาจากสถาบันต้นกำเนิด “Ecole 42” กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในลักษณะ “ไม่มีค่าเทอม ไม่มีครู ไม่มีปริญญา” ซึ่งได้รับความสนใจจากโปรแกรมเมอร์ทั่วโลกยื่นสมัครเรียนมากกว่าหนึ่งแสนคนต่อปี
นอกจากนี้ ผู้เรียนยังสามารถเลือกช่วงเวลาหรือสถานที่เรียนที่เปิดสอนทั่วโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงล็อกอิน (Log In) เข้าระบบผ่านไอแมค (iMac)
สำหรับขั้นตอนของการสมัครและรูปแบบการเรียนที่ 42 Bangkok จะแบ่งออกเป็น 6 ขั้นตอนดังนี้ 1.ทดสอบความรู้เพื่อเป็นผู้เรียนตัวจริง (The Piscine) ผ่านการเรียนเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐานแบบเข้มข้นภายใน 4 สัปดาห์ พร้อมทดลองแก้โจทย์โดยมีผู้เรียนอื่นร่วมวิเคราะห์ผลงาน 2.ปูพื้นฐานการเขียนโปรแกรม (Basics of Programming) โดยแบ่งการเรียนเป็น Level 1-7 3.ฝึกงานกับองค์กรชั้นนำ (First Internship) เมื่อเรียนครบ 7 เลเวลแล้วต้องฝึกงานกับองค์กร/สถานประกอบการ 4.ลงลึกเรื่องการเขียนโปรแกรม (Mastering Programming) ในสาขาเฉพาะด้านต่างๆ ที่ครอบคลุม Level 8-21 เช่น ความปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security) เอไอ (AI) เว็บไซต์ (Web) แอปพลิเคชัน (Application) 5.ประเมินผลการฝึกงาน (Final Internship & Part Time)
เมื่อถึง Level 14 และผ่านการประเมินการฝึกงานครั้งแรกสามารถฝึกงานเฉพาะทางตามที่เลือกเรียนได้ 6.จบคอร์สพร้อมเริ่มจริง (Reach level 21 or find a job) หลังจากฝึกงานนักเรียนสามารถเลือกที่จะเรียนให้ครบ 21 Level ได้ หรือเลือกที่จะไปทำงานเลยได้
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะใน 2 ด้านสำคัญคือ 1.‘Hard Skill’ ทักษะทางวิชาชีพที่จำเป็นต่อการทำงาน เช่น เรียนรู้พื้นฐานของอัลกอริทึมและเอไอ (Algorithms & AI) จัดการฐานข้อมูล (DB & Data) ฝึกเขียนโปรแกรมระบบ (System Programming) ด้วยภาษาต่างๆ ทั้งภาษาโกหรือโกแลง (Go/ Golang) ภาษาไพทอน (Python) ภาษารูบี (Ruby) เรียนรู้การประมวลผลข้อมูลแบบขนาน (Parallel computing) ฝึกประสบการณ์กับสถานประกอบการ (Company experience) ตลอดจนเรียนรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) 2.‘Soft Skill’ ทักษะทางสังคม เช่น การพูดและการเขียนเพื่อการสื่อสาร (Verbal & written communication) การจัดการ (Organization) การตระหนักรู้/เข้าใจตนเอง (Self-awareness) การทำงานเป็นทีม/การสื่อสารระหว่างบุคคล (Group & Interpersonal) และการประยุกต์ใช้/ความคิดสร้างสรรค์ (Adaptation & Creativity)
อย่างไรก็ดี ทักษะที่ผู้เรียนจะได้รับติดตัวไปในข้างต้นนั้นสามารถต่อยอดในเส้นทางอาชีพได้ถึง 10 สายงาน ได้แก่ เอไอ (AI) ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) โมบาย แอปพลิเคชัน (Mobile Application) เกม (Gaming) เน็ตเวิร์กและคลาวด์ (Network & Cloud) คริปโตกราฟี (Cryptography) การเข้าและถอดรหัสข้อมูลที่ปลอดภัยขั้นสูง คอมพิวเตอร์กราฟิก (Computer Graphic) เว็บไซต์ (Web) การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคขั้นสูงหรือวิทยาการข้อมูล (Data Science) และบริหารจัดการเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กร (System Administration) ทั้งนี้ นับได้ว่าสายงานดังกล่าวเป็นที่ต้องการในกลุ่มธุรกิจและองค์กรชั้นนำจำนวนมากที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ข้อมูล บริษัท ซีพีเอฟ ไอทีเซ็นเตอร์ จำกัด (CPF IT Center) บริษัท ซีดีจี ซิสเต็มส์ จำกัด (CDG) บริษัท ไลน์แมน วงใน (LINEMAN Wongnai) บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จํากัด
ทั้งนี้ จากข้อมูลการคาดการณ์มูลค่าอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตสูงถึง 8 แสนล้านบาท (ข้อมูล : สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA), เดือนกันยายน 2564) ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้ว่าภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมดิจิทัลมีความต้องการแรงงานที่มีทักษะและศักยภาพสูงในด้านดิจิทัลจำนวนมาก ขณะที่รายงานอัตราเงินเดือนของพนักงานไทย ปี 2564 (Salary Report 2021) โดยบริษัท จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด (JobsDB) ยังระบุถึงฐานเงินเดือนของสายงานไอที ตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ หัวหน้างาน ผู้จัดการ และผู้บริหาร เริ่มต้นที่ 23,000-105,000 บาท ขณะที่ฐานเงินเดือนในต่างประเทศพบสูงถึง 90,750-133,750 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ 2,992,708.13-4,412,412.50 บาท (ข้อมูล : ดีมานด์ 10 อาชีพสายไอที (Tech Jobs) ปี 2022 จากซีไอโอ อาเซียน (CIO ASEAN) องค์กรด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคอาเซียน, 2564) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยยันต์ กล่าวทิ้งท้าย
ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.อนุวัฒน์ จางวนิชเลิศ รักษาการแทนอธิการบดี สจล. กล่าวเสริมว่า จุดเด่นของการเรียนที่ 42 Bangkok คือ ได้เรียนในเรื่องที่ต้องรู้จริง โดยไม่ต้องเสียเวลาเรียนในรายวิชาที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังสามารถเลือกช่วงเวลาเรียนด้วยตนเองได้ หากมีความตั้งใจที่จะจบการศึกษาในระยะสั้นที่ 1 ปี พร้อมเริ่มทำงานทันทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มงาน “เทคจ็อบส์” (Tech Jobs) ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจ/องค์กรดิจิทัลเป็นอย่างมาก และยังเป็นที่ยอมรับในสายงานไอทีและคอมพิวเตอร์ทั่วโลก
"เพราะจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นผลให้ทุกองค์กรทั้งระดับประเทศและสากลต่างปรับตัวสู่การเป็น “องค์กรดิจิทัล” อีกทั้งการดำเนินนโยบายของภาครัฐที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เช่นเดียวกับ สจล. ที่มีแนวทางในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนางานวิจัยใหม่ๆ หรือกระทั่งเปิดสอนในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL) เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมในหลากมิติ"
นอกจากนี้ ภายในงานเปิดห้องเรียนแบบ On-Site ครั้งแรกยังมีการจัดกิจกรรม “Company Talk Session” เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและโอกาสการต่อยอด Coding ในการดำเนินธุรกิจยุคดิจิทัล นำโดย นายธีรพงษ์ วิชญเรืองรมย์ รองกรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ และ Digital Transformation บริษัท ซีเอฟพี จำกัด (CFP) นายอธิพัชร์ จารุโรจนอนันต์ Assistant General Manager บริษัท Defense Innovation (DFI) บริษัท ซีดีจี ซิสเต็มส์ จำกัด (CDGS) นายภัทราวุธ ซื่อสัตยาศิลป์ Chief Technology Officer (CTO) LINEMAN Wongnai นายอภิชาติ สัจจพงษ์ Client Technology Lead บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จํากัด รวมถึง ดร.ปานระพี รพิพันธุ์ นักวิชาการและผู้ประกาศข่าว ที่มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ด้านไอทีและคอมพิวเตอร์ รองศาสตราจารย์ ดร.อนุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย