คึกคักตลาดแก้วิกฤตแบรนด์บนโลกโซเชียล "ไทยคอนเน็กซ์ชัน" (THAICONNEXION) ลุยตลาดด้วยการตีแผ่จุดเปราะบางโลกออนไลน์ อ่อนไหวต่อข่าวเชิงลบ สู่การสร้างกระแสในสังคมที่ มั่นใจสามารถลุกลามถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์และยอดขาย
นายสุเมธ ครองเพียรเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยคอนเน็กชั่น จำกัด (THAICONNEXION) เผยว่า แม้ช่องทางการทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดียจะยังขยายตัวได้ดี และเป็นช่องทางหลักที่ธุรกิจใช้ในการสื่อสารภาพลักษณ์ และทำการตลาดในยุคปัจจุบัน แต่ก็ถือเป็นความท้าทายต่อแบรนด์อย่างมากในการบริหารจัดการ ทั้งในด้านการแก้ปัญหาข้อมูลเชิงลบ การแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ และการโจมตีจากผู้ใช้งานทางโซเชียลมีเดีย
"ข้อมูลจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง 30 มิถุนายน 2564 มีจำนวนผู้โพสต์ข่าวปลอมถึง 587,039 คน และมีจำนวนผู้แชร์ข่าวปลอมถึง 20,294,635 คน ซึ่งกรณีนี้หากเป็นข่าวสารที่เกิดขึ้นกับธุรกิจอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และองค์กร ลุกลามบานปลายไปจนถึงยอดขายและผลประกอบการอย่างคาดไม่ถึง"
บริษัท ไทยคอนเน็กชั่น จำกัด วางตัวเป็นดิจิทัลเอเยนซีที่ดำเนินธุรกิจบริการให้คำปรึกษาและบริหารจัดการรับมือภาวะวิกฤตของแบรนด์ Social Issue & Crisis Management จุดเด่นที่บริษัทมองคือความเชี่ยวชาญ ทำให้บริษัทอาสาแก้ไขปัญหาวิกฤตแบรนด์บนโลกโซเชียลโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้วยประสบการณ์กว่า 14 ปี พา 20 องค์กรชั้นนำฝ่าวิกฤตอย่างมืออาชีพมากกว่า 500 เคส ด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ พร้อมสนับสนุนการใช้ Social Media อย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างสังคมที่ดีบนโลกออนไลน์
ด้วยความเชื่อว่า การบริหารจัดการสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดของแบรนด์ที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียลอย่างทันท่วงทีจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจรอดพ้นจากภาวะวิกฤตได้ บริษัทฯ จึงจัดทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานควบคู่กับผู้ให้บริการ Social Listening Tools หลากหลายบริษัทซึ่งจะมอนิเตอร์รับฟังเสียงของผู้บริโภคที่กล่าวถึงแบรนด์และองค์กร ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Twitter, Instagram, Youtube รวมถึง Online Community และเว็บบอร์ดต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรายงานผลแบบ Real-Time เพื่อให้สามารถรับมือ และแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ หากพบเห็นสัญญาณที่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ในทางลบต่อแบรนด์ก็จะเตรียมป้องกัน และเตรียมแผนรับมือกับภาวะวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ไปจนถึงขั้นตอนการแก้ปัญหาและการหาแนวทางฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ และองค์กรหลังภาวะวิกฤต โดยตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีลูกค้าที่เป็นองค์กรธุรกิจชั้นนำกว่า 20 บริษัท และช่วยแก้ไขปัญหา Social Crisis บนโลกออนไลน์ให้ลูกค้ามาแล้วมากกว่า 500 เคส
“ทีมงานของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถทำงานร่วมกับ Social Listening Tools ทุกรายที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน และมีความเชี่ยวชาญ Big Data Analytics ที่จะช่วยดูแลครอบคลุม Crisis Life Cycle อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่กระบวนการก่อนเกิดภาวะวิกฤต (Pre-Crisis Management) การจัดการในภาวะวิกฤต (Crisis Event) และการฟื้นฟูหลังภาวะวิกฤต (Post-Crisis Management) เพื่อที่จะช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดต่อแบรนด์ในโลกโซเชียลให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนให้เกิดการใช้งาน Social Media อย่างสร้างสรรค์ ทั้งการใช้ถ้อยคำ การแชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง รวมถึงส่งเสริม Positive Conversation ให้เกิดขึ้นในแพลตฟอร์มช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างสังคมที่ดีบนโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน” นายสุเมธ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อว่าจะยังคงสานต่อความเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการด้านจัดการภาวะวิกฤตบนโลกออนไลน์ Social Issue & Crisis Management Experts โดยจะขยายฐานการให้บริการแบรนด์และองค์กรต่างๆ ไปในทุกอุตสาหกรรม
“การมีทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาบริหารจัดการวิกฤตบนโลกออนไลน์ เปรียบเหมือนการซื้อประกันความเสี่ยง เพื่อรักษาชื่อเสียง รวมถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ และองค์กร ซึ่งในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงทีมงานจะช่วยแก้ไข หรือบรรเทาความรุนแรงให้เบาบางลง รวมทั้งสร้างความเข้าใจอันดีต่อสังคมให้เกิดขึ้นอีกด้วย” นายสุเมธ กล่าวทิ้งท้าย