ซัมซุง (Samsung) ออกมาเปิดเผยวิสัยทัศน์ “Together for Tomorrow” หลังจากที่รวทหน่วยธุรกิจมือถือ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน กลายเป็น ‘ฝ่ายสร้างประสบการณ์ลูกค้า (DX - Device eXperience) พร้อมชูนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในทุกวัน
โดยหัวใจสำคัญของวิสัยทัศน์เพื่ออนาคตนี้ ต่อยอดจากสิ่งที่ซัมซุงเรียกว่า “ความยั่งยืนในทุกวัน” หรือ “Everyday Sustainability” ในการสานต่อกระบวนการผลิตรูปแบบใหม่ที่มีผลกระทบต่ำ บรรจุภัณฑ์ที่ลดการสร้างคาร์บอนฟุตพรินต์ และประสบการณ์ของลูกค้าที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น รวมถึงการจัดการกับผลิตภัณฑ์เมื่อสิ้นสุดวงจรการใช้งาน
จองฮี ฮาน รองประธาน ซีอีโอ และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างประสบการณ์ลูกค้า ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า การพัฒนาก้าวสำคัญนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประสบการณ์ความยั่งยืนสู่ผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคจะได้สัมผัส เพื่อส่งมอบไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนแก่ทุกคน
ในปีที่ผ่านมา ชิปหน่วยความจำของซัมซุงได้ผ่านการรับรองจาก Carbon Trust ว่าสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ราว 700,000 ตัน ไม่เพียงแค่เซมิคอนดักเตอร์เท่านั้น แต่กระบวนการเพื่อความยั่งยืนยังขยายรวมไปถึงการใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตผลิตภัณฑ์อีกด้วย
ขณะเดียวกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ กลุ่มธุรกิจภาพและเสียงของซัมซุงจึงได้ตั้งเป้าการใช้พลาสติกรีไซเคิลให้มากขึ้นกว่าปี 2021 ถึง 30 เท่า และจะขยายการใช้วัสดุรีไซเคิลกับสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าใน 3 ปีข้างหน้าอีกด้วย
“นวัตกรรมดังกล่าวจะถูกนำไปต่อยอดพัฒนาเพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้าของซัมซุง เช่น เพื่อให้ตอบรับกับเป้าหมายในการกำจัดแบตเตอรี่มากกว่า 200 ล้านก้อนจากสถานที่ฝังกลบ”
นอกจากนี้ ภายในปี 2025 ซัมซุงยังตั้งเป้าพัฒนาอุปกรณ์ชาร์จทีวีและสมาร์ทโฟนที่ลดการใช้พลังงานในโหมดสแตนด์บายลงให้ได้มากที่สุดหรือแทบจะไม่ใช้เลย เพื่อลดการใช้พลังงานเมื่อไม่ได้ใช้งาน
“นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยลำพัง เพราะเราเชื่อมั่นว่าการเปิดกว้างทางนวัตกรรมและความร่วมมือซึ่งกันและกัน คือหัวใจสำคัญในการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปกป้องโลก”
พร้อมกันนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานแบบไร้รอยต่อ ซัมซุงยังได้ประกาศว่าจะทำให้ SmartThings เป็นฟีเจอร์ที่ติดตั้งมาพร้อมใช้งานในผลิตภัณฑ์ทีวีปี 2022 สมาร์ทมอนิเตอร์ และตู้เย็น Family Hub เพื่อการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้า
รวมถึงบทบาทสำคัญในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้งของ Home Connectivity Alliance (HCA) หรือองค์กรที่รวบรวมผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าสมาร์ทโฮมไว้ด้วยกัน โดยไม่คำนึงถึงแบรนด์ และมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างดีไวซ์จากแบรนด์ต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น และเพื่อเพิ่มความความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ