xs
xsm
sm
md
lg

Nokia สรุป 5 ความเคลื่อนไหว 5G ก่อนปิดปี 64

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โนเกีย (Nokia) สรุป 5 ความเคลื่อนไหว 5G ช่วงไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ.2564 ไฮไลต์ใน 5 ความเคลื่อนไหวนี้มีการเพิ่มรายได้ใหม่ให้สนามกีฬาด้วย 5G รวมถึงการค้นพบของศูนย์วิจัยระดับรางวัลอย่าง Nokia Bell Labs

นายนิฌาน ภัทรา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และเทคโนโลยี ของโนเกีย กล่าวเน้นย้ำถึงวิวัฒนาการและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านเครือข่าย 5G ที่เปลี่ยนวิธีการที่โนเกียใช้และมีประสบการณ์กับอินเทอร์เน็ต โดยอธิบายเกี่ยวกับระบบที่จะปรับระดับขีดความสามารถของมนุษย์ (Human augmentation) และการผสานระบบดิจิทัลและกายภาพ ซึ่งเป็น 2 ปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันปริมาณการใช้ข้อมูลและก่อให้เกิดวิวัฒนาการด้านเครือข่ายซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือที่มากขึ้นกว่าเดิมในส่วนของผู้นำทางเทคโนโลยีทั้งหลาย

ความเคลื่อนไหวแรกที่โนเกียมองว่าโดดเด่นในช่วงปลายปี คือ ศูนย์วิจัย Nokia Bell Labs โดยโนเกียอธิบายว่า ในยุคที่ปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุค 5G โนเกียเองได้เดินหน้ากรุยทางสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีระบบสื่อสารเคลื่อนที่อย่าง 6G ที่หลอมรวมโลกทางกายภาพ ดิจิทัล และมนุษย์เข้าด้วยกันเพื่อนำพาพวกเราเข้าสู่ประสบการณ์เหนือจินตนาการที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ศูนย์วิจัย Nokia Bell Labs พบว่ามีสาขาด้านเทคโนโลยีอยู่ 6 สาขาที่จะขับเคลื่อน 6G ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง (machine learning) ย่านความถี่ (spectrum bands) เครือข่ายประสาทสัมผัส (sensory networks) ระบบเครือข่ายแบบอัตโนมัติ (extreme network) สถาปัตยกรรมเครือข่ายใหม่ (new network architectures) และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

ความเคลื่อนไหวที่ 2 คือ การเพิ่มรายได้ใหม่ให้สนามกีฬาด้วย 5G เรื่องนี้โนเกียอธิบายถึงการเชื่อมต่อ 5G ว่า ช่วยให้ผู้ชมและผู้คนทั้งหลายในสนามกีฬาเชื่อมต่อกันได้ตลอดการถ่ายทอดสด ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต หรือการแข่งขันกีฬา เทคโนโลยี 5G นำเสนอการเชื่อมต่อที่มีเวลาหน่วงต่ำและความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งมันไม่เพียงแต่ยกระดับประสบการณ์ให้ผู้ชมภายในสนามกีฬาเท่านั้น หากยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่รับชมอยู่ทางบ้านเสมือนได้ร่วมในกิจกรรมนั้นจริง ดังนั้น 5G จึงเป็นตัวแปรสำคัญในอุตสาหกรรมบันเทิงและกีฬาที่เป็นผลสืบเนื่องจากโรคระบาดที่แพร่ไปทั่วโลกในเรื่องของโอกาสในการสร้างรายได้

ส่วนที่ 3 คือ V3C เทคโนโลยีที่พลิกโฉมการเสพเนื้อหาวิดีโอแห่งอนาคต โดยโนเกียได้สาธิตให้เห็นวิธีการที่ Visual Volumetric Video-based Coding (V3C) จะเปลี่ยนรูปแบบการรับชมวิดีโอของทุกคนไปอย่างสิ้นเชิงได้อย่างไร ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้พร้อมกับจุดรับสัญญาณหลัก (mainstream reception) สำหรับ AR และ VR ที่ไม่เพียงเอื้อให้คนสามารถชมเนื้อหาวิดีโอได้เท่านั้น แต่ยังสามารถเชื่อมโยงตัวเองเข้าไปเสมือนอยู่ในเนื้อหานั้นเองด้วย สิ่งนี้จะเปลี่ยนรูปแบบประสบการณ์ในการรับชมเนื้อหาที่มองเห็นด้วยตาให้ผู้รับชม ไม่ว่าจะเป็นรายการสตรีมมิ่ง การแข่งขันแบบถ่ายทอดสด หรือแม้แต่การชมงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์ก็ตาม

ส่วนที่ 4 คือ รายงานข่าวกรองด้านภัยคุกคามของโนเกีย ซึ่งพบการโจรกรรมด้านการเงินผ่านมัลแวร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะโมบายแบงกิ้งเติบโต โดยรายงานข่าวกรองภัยคุกคามของโนเกีย (Nokia Threat Intelligence Report) ในปี 2564 ที่เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ระบุว่า ภัยคุกคามมัลแวร์แบงกิ้งได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้คนหันมาใช้โมบายแบงกิ้งบนสมาร์ทโฟนกันมากขึ้น ซึ่งอ้างอิงข้อมูลที่รวบรวมจากเครือข่ายปริมาณการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ติดตามการใช้ของเครื่องสมาร์ทโฟนมากกว่า 200 ล้านเครื่องทั่วโลก ยังแสดงให้เห็นว่า 80% ของโทรจันโมบายแบงกิ้งที่เพิ่มขึ้นพุ่งเป้าไปที่การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต และข้อความ sms ที่ปรากฏรหัสผ่านสำหรับใช้งานครั้งเดียว (OTP)

ส่วนที่ 5 คือ โนเกียเรียกร้องให้เห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนดิจิทัลไลเซชันและพลังงานสีเขียว โดยตั้งเป้าที่จะเห็นการใช้พลังงานไฟฟ้าสีเขียวภายในปี 2568

โนเกียอธิบายว่า จากการเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือคอป 26 ที่จัดขึ้นในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ โนเกียได้ย้ำให้เห็นถึงพันธกิจขององค์กรที่จะใช้พลังงานที่สามารถทดแทนได้กับสถานประกอบการของโนเกียทุกแห่งภายในปี 2568 ในการรณรงค์ให้สังคมโลกก้าวผ่านช่วงดิจิทัลไลเซชันเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (net zero emissions) นั้น มร.เป็กก้า ลุนด์มาร์ก ประธานและซีอีโอของโนเกีย อธิบายว่า 5G และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างอุตสาหกรรมอื่นๆ ให้มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น