ILINK เผยผลประกอบการไตรมาส 3/64 รายได้ 1,551.77 ล้านบาท เติบโต 16.61% ทำกำไร 78.85 ล้านบาท รับการเติบโตของเทรนดิจิทัล มั่นใจโค้งสุดท้ายของปีพุ่งสู่เป้า 6,000 ล้านบาท
วริษา อนันตรัมพร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด กล่าวถึงผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 ว่า มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,551.77 ล้านบาท เติบโต 16.61% จากทั้ง 3 ธุรกิจ เมื่อเทียบกับ 1,330.79 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกันมีกำไรสุทธิ (ส่วนที่มีอำนาจควบคุม) 78.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.55% เมื่อเทียบกับ 54.55 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้มั่นใจได้ว่าแนวโน้มรายได้และกำไรสุทธิปี 2564 นี้ มุ่งสู่จุดสูงสุดในรอบ 5 ปี
ทั้งนี้ ธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) มีรายได้จากการขายรวม 597.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.99% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเติบโตของกระแสดิจิทัล รวมถึงการดำเนินธุรกิจที่ปรับตัวได้เป็นอย่างดี แม้จะประสบกับสถานการณ์ล็อกดาวน์ แต่สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายกลับสวนทางตอบรับปัจจัยการสนับสนุนและเติบโตจากเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ
ในขณะที่ธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom) มีรายได้จากการให้บริการรวม 518.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.03% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยการเติบโตนี้มาจากการรับรู้รายได้ในส่วนงานบริการโครงข่ายของโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (USO Phase 2) ตามการส่งมอบ รวมถึงมีจำนวนลูกค้ารายใหม่ที่เพิ่มขึ้นระหว่างงวด
นอกจากนี้ การให้บริการติดตั้งที่สำคัญและรับรู้รายได้ในงวดนี้ คือ โครงการจัดหารถยนต์ปฏิบัติการพร้อมติดตั้งระบบตรวจจับและรบกวนสัญญาณควบคุมอากาศยานไร้คนขับของหน่วยงานภาครัฐรายหนึ่ง จำนวน 86.53 ล้านบาท งานจ้างเหมา ออกแบบ จัดหา และติดตั้งเคเบิลใยแก้วนำแสงของหน่วยงานภาครัฐรายหนึ่ง จำนวน 67.78 ล้านบาท และงานจ้างเหมาตรวจซ่อมและบำรุงรักษาโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนําแสงของหน่วยงานภาครัฐรายหนึ่ง จำนวน 14.32 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆ และเตรียมลงนามในสัญญาต่อเนื่อง พร้อมต่อยอดการให้บริการให้มีความหลากหลายอย่างครบวงจรมากขึ้นในอนาคตผ่านแผนการเข้าซื้อบริษัท เวทเธอเรีย อี ซึ่งเป็น Holding Company ถือหุ้น 51% ในบริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และให้บริการระบบไอที เช่น Cyber Security, CCTV & Security Solution เป็นต้น
ส่วนธุรกิจวิศวกรรม (Engineering) มีรายได้รวมอยู่ที่ 425.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.85% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากการรับรู้รายได้ของงานโครงการที่สำคัญ ได้แก่ โครงการ CC4 หรืองานจัดซื้อพร้อมติดตั้งรถไฟฟ้าไร้คนขับ APM ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบการทำงานร่วมกันของแต่ละระบบ และทดสอบการเดินรถไฟฟ้า (System Demonstration) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสูงสุด รวมถึงโครงการจ้างก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยในจังหวัดราชบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดเป็นไปตามแผน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้รอรับรู้ในมือ (backlog) จากงานโครงการภาครัฐและภาคเอกชนอีกกว่า 1,100 ล้านบาท