xs
xsm
sm
md
lg

VMware วางเป้า "ง่ายบวกเร็ว" บุกตลาดธนาคารไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท VMware
วีเอ็มแวร์ (VMware) เผยเป้าหมายล่าสุดเพื่อบุกตลาดองค์กรกลุ่มบริการด้านการเงินและธนาคาร หรือ financial services ในไทย อาสาเป็นตัวช่วยที่ง่ายและเร็วซึ่งจะติดอาวุธดิจิทัลให้ธนาคารไทยต่อสู้กับฟินเทคได้ดีขึ้น มองเทรนด์บริการธนาคารบนโซเชียลในรูปแบบ "แบงก์แอสอะเซอร์วิส" เกิดแน่ ยืนยันการลงทุนปีนี้ยังขยายเพราะดีมานด์โตต่อเนื่อง

เอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท VMware กล่าวถึงผลการศึกษาล่าสุดว่าคนไทยมองว่าตัวเองตื่นตัวกับการใช้งานดิจิทัลสูงกว่าใครในโลก สถิติล่าสุดคือ 86% สูงกว่าค่าเฉลี่ย 78% ที่วัดได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงสูงกว่า 65% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของประเทศอังกฤษ ความตื่นตัวนี้ตอกย้ำสถานการณ์ที่ธนาคารไทยจะต้องเร่งนำระบบขึ้นคลาวด์หลายเจ้า (มัลติคลาวด์) และการปรับแอปพลิเคชันให้ทันสมัย ส่งให้เป้าหมายทางธุรกิจในกลุ่มลูกค้าธนาคารของ VMware คือการช่วยเหลือลูกค้าให้ทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในภาพใหญ่ เพิ่มความเชื่อมั่นเรื่องความง่ายและรวดเร็วได้ชัดเจน

“เราวางเป้าให้ลูกค้าเห็นการทำงานของระบบออนพริมและคลาวด์บนรูปแบบเดียวกัน แม้จะย้ายจากระบบเซิร์ฟเวอร์ดั้งเดิมไปบนคลาวด์ แต่การพัฒนาแอปพลิเคชันจะยังใช้ได้ในแบบเดิม การทำแบบนี้จะเกิด 2 เรื่อง คือ 1.ง่ายต่อการดำเนินการ เพราะพนักงานองค์กรไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ และ 2.คือการเปิดใช้บริการใหม่จะทำได้เร็วขึ้นเพราะแพลตฟอร์มเหมือนกัน แต่สามารถตอบความต้องการในยุคดิจิทัลได้ต่างกัน”


สำหรับผลการสำรวจ ผู้บริหารเชื่อว่าเหตุผลที่คนไทยส่วนใหญ่มองตัวเองเป็นผู้ที่พร้อมสำหรับประสบการณ์ดิจิทัลที่เข้มข้นขึ้น คือประเทศไทยมี “พร้อมเพย์” ก่อนประเทศอื่น ประกอบกับสถาบันการเงินไทยมีแผนที่จะทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน หรือเปลี่ยนบริการให้เป็นดิจิทัลอยูแล้ว ซึ่งแม้ก่อนหน้านี้จะไม่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก แต่ขณะนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและเร่งรีบ ประกอบกับหลายนโยบายที่ปรับเป็นดิจิทัลในช่วงกักตัวอยู่บ้าน จึงเกิดแรงผลักดันให้มีการใช้งาน mobile banking พุ่งสูงที่สุดในอาเซียน

การสำรวจพบว่าผู้ใช้ชาวไทยต้องการติดต่อผู้ให้บริการการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล แทนที่จะต้องไปที่สาขา ตัวเลขนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียนและสิงคโปร์ นอกจากนี้ ผู้ใช้ไทยยังมีแนวโน้มที่จะลงทุนตามที่ระบบแนะนำ มากกว่าลงทุนตามคำแนะนำจากพนักงาน สรุปได้ว่าผู้ใช้ไทยมีความเชื่อมั่นว่าระบบ AI มีประโยชน์ และให้ความเชื่อถือกับเทคโนโลยีใหม่

"นอกจากประสบการณ์ของผู้ใช้ สิ่งที่สำคัญมากคือความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล การใช้งาน mobile banking ที่มากขึ้นเปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีมีช่องทางก่ออาชญากรรมมากขึ้นตามไปด้วย ผู้บริโภคจึงต้องการความปลอดภัยที่สูงขึ้น รวมถึงความเป็นส่วนตัวที่ไม่อยากให้มีการติดตาม ผู้ใช้จึงต้องการบริการที่ได้มาตรฐาน ซึ่งแม้ในไทยจำเป็นต้องเลื่อนการบังคับใช้ PDPA ออกไปอีก 1 ปี แต่ก็มีการปรับใช้งานแล้วในองค์กรจำนวนมาก"






สำหรับภาพรวมการลงทุนของตลาดช่วงโควิด-19 ผู้บริหาร VMware ยอมรับว่า การระบาดใหญ่มีผลผลักดันทุกอุตสาหกรรมในไทย แต่กลุ่มธนาคารจะมีผลค่อนข้างมากเนื่องจากลูกค้ามีการปรับใช้ช่องทางดิจิทัลมากกว่าสาขา ธนาคารจึงต้องเร่งดำเนินการทุกด้านเพื่อให้เป็นดิจิทัลให้ได้มากที่สุด หลายธนาคารจึงเริ่มลงทุนมากขึ้น

ในส่วนของ VMware ผู้บริหารยืนยันว่าในช่วงไตรมาส 3 จะมีโซลูชันใหม่กลุ่มบล็อกเชนเข้ามาทำตลาด เบื้องต้น ประเมินว่าบริการธนาคารบนโซเชียลในรูปแบงก์แอสอะเซอร์วิส (Bank as a service) จะสามารถให้บริการในประเทศไทย เชื่อว่าบริการนี้จะเปิดทางให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมการเงินบนแพลตฟอร์มได้เลย

"อนาคตจะเห็นธนาคารเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์มโซเชียล อาจจะทำให้โซเชียลนั้นมีระบบชำระเงินได้เลยโดยไม่ต้องกลับมาบนระบบของธนาคาร เป็น Bank as a service ที่ติดต่อกันได้โดยตรงในรูปโซลูชันออนท็อป"

ผู้บริหาร VMware ยืนยันว่า จะมีการขยายธุรกิจและการลงทุนต่อเนื่องในไทยช่วงปีนี้ เนื่องจากมีความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้นและเห็นความสามารถในการทำกำไร นอกจากนี้ความต้องการใช้ mobile banking ของคนไทยที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ไม่ได้แปลว่าธนาคารไทยจะมีแนวโน้มลงทุนสูงที่สุดในกลุ่ม แต่จะเน้นสร้างสรรค์วิธีการใหม่ในการตอบโจทย์มากกว่าเดิม จนทำให้ไทยนำหน้ากว่าประเทศอื่น


กำลังโหลดความคิดเห็น