xs
xsm
sm
md
lg

เดลล์มองพีซี "เหมือนเกิดใหม่" ทั่วโลกรวมไทยขายดียุคโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์ ยอมรับว่าตลาดพีซีวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ชัดเจนว่าความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือพีซีในกลุ่มผู้บริโภคและตลาดเชิงพาณิชย์มีความแข็งแกร่งตลอดช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากผู้คนจำนวนมากต้องใช้เวลาหน้าจอที่บ้านมากขึ้นเพื่อทำงาน เรียน และการประชุมออนไลน์

สถานการณ์นี้ทำให้ทั้งเดลล์ (Dell Technologies) เลอโนโว (Lenovo) และเอชพี (HP Inc.) ซึ่งเป็นแบรนด์ Top 3 ในตลาดพีซีต่างรายงานรายรับที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 1 ปี 64 ก้าวกระโดดหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของ 1-2 ปีก่อน จุดนี้มีการวิเคราะห์กันว่านอกเหนือจากความต้องการพีซีที่เกี่ยวข้องกับภาวะนิว นอร์มอล การขาดแคลนซิลิคอนในช่วงปีที่ผ่านมายังช่วยลดการแข่งขันด้านราคาของพีซีลงด้วย เพราะด้วยจำนวนชิปที่มีอยู่อย่างจำกัด บริษัทผู้ผลิตชิปจึงมุ่งเน้นไปที่การผลิตชิประดับไฮเอนด์สำหรับอุปกรณ์ระดับพรีเมียมในช่วงก่อนหน้านี้ ผลคือราคาพีซีในตลาดจึงเปลี่ยนไปเป็นระดับพรีเมียมตามไปด้วยในช่วงต้นปี กลายเป็นประโยชน์ทั้งกับรายได้และกำไรแบบ 2 เด้งให้แก่ผู้เล่นในวงการ

ผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในตลาดพีซีโลกนาทีนี้คือเดลล์ ธุรกิจ Client Solutions Group ที่ทำเงินจากการจำหน่ายพีซีและโน้ตบุ๊กนั้นทำรายรับให้เดลล์ 1.33 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี เม็ดเงินราว 3.5 พันล้านเหรียญมาจากตลาดคอนซูเมอร์ และ 9.8 พันล้านเหรียญมาจากลูกค้าเชิงพาณิชย์ โดยในตลาดไทย ยอดขายของเดลล์ในตลาดพีซีไตรมาสแรกมีอัตราการเติบโตเป็นเลข 2 หลัก และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ตารางยอดขายพีซีของ 3 แบรนด์หลักช่วงไตรมาส 1 ย้อนหลัง 3 ปี
นพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์ ยอมรับว่าตลาดพีซีวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เพราะเหมือนกลับมา ‘เกิดใหม่’ และสิ่งที่พีซีมีอยู่แล้วในอดีตก็ถูกปรับให้ดียิ่งขึ้น เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น รวมถึงเฉลียวฉลาดกว่าเดิม เป็นวิวัฒนาการความเก่งขึ้นที่ทำให้พีซีเป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนต้องมีในการทำงานและการใช้ชีวิตในอนาคต

***ของมันต้องมี

นพดลย้ำว่า ธุรกิจพีซีนั้นเป็นธุรกิจหลักของเดลล์ หลักการพัฒนาสินค้าของเดลล์คือการเน้นให้พีซีมีความฉลาด ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้การเชื่อมต่อเครือข่ายทำได้เร็วขึ้นแบบอัตโนมัติ สามารถเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ได้ง่าย และบริหารจัดการระบบจากทางไกลได้ดี

‘พีซีในอนาคตจะรักษาตัวเองได้ วิเคราะห์ได้ว่าตอนนี้ระบบเป็นอย่างไร ดำเนินการแก้ไขได้โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ เป็นพีซีที่ดูแลตัวเองและแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง’

เดลล์อธิบายว่า พีซีในอนาคตจะต้องรู้ใจผู้ใช้ ว่าจะเปิดหรือปิดกล้องเมื่อใด คู่กับการยกระดับเรื่องความปลอดภัยด้วยการวิเคราะห์ประวัติการทำงานแล้วปรับการตั้งค่าของระบบตามกิจวัตรนั้น ผลคือพีซีจะเป็นเครื่องมือที่ใกล้ชิดมนุษย์ตลอดเวลา นอกจากนี้ พีซีในอนาคตจะต้องเชื่อมต่อ 5G ความเร็วสูงได้จากทุกที่ทุกเวลาอย่างปลอดภัยและรองรับการทำงานร่วมกันบนยูสเคส 5G มากมายที่จะเกิดตามมา ทั้งการรักษาโรคทางไกล การควบคุมการผลิตและหุ่นยนต์ การใช้พีซีนอกออฟฟิศ รวมถึงแอปพลิเคชันใหญ่ที่จะต้องใช้คลาวด์ (cloud) ทำงานได้แบบไม่มีรอยต่อ

หลักคิดในการพัฒนาพีซีของเดลล์ยังเน้นเรื่องการดีไซน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ใช้งานง่ายในทุกเซกเมนต์ เช่นเดียวกับระบบความปลอดภัยซึ่งเดลล์มองว่าการรักษาความปลอดภัยของพีซีจะต้องดีขึ้นอีกเมื่อผู้คนใช้งานพีซีนั้นนอกพื้นที่ออฟฟิศ ดังนั้น ในพีซีเดลล์จึงต้องมีซอฟต์แวร์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ด้วยเครื่อง เพื่อให้ระบบจับมัลแวร์ได้ก่อนการฝังตัว ซึ่งจะเป็นฟังก์ชันในอนาคตที่พีซีต้องจัดการให้ได้ก่อนที่จะเกิดความเสียหายที่มีผลต่อการทำงาน

นอกจากการทำให้พีซีทันสมัย สวยงาม และพรีเมียมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า ผู้บริหารเดลล์มองว่าในอนาคตพนักงานไอทีขององค์กรจะดูแลนวัตกรรมได้เสรีขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาดูแลความพร้อมของผู้ใช้งานอีกต่อไป เบื้องต้น ผู้บริหารย้ำว่าภาวะนี้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ทำให้พนักงานไอทีไม่ต้องเหนื่อย เนื่องจากทุกอย่างถูกเตรียมมาแล้วจากโรงงานผลิตพีซีสำหรับส่งมอบให้ผู้ใช้ตามบ้าน

สุดท้ายคือนโยบายเรื่องความยั่งยืน เดลล์ระบุว่าต้องการปกป้องโลกด้วยการดึงขยะออกจากสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด ดังนั้นเดลล์จึงมีแผนนำเอาขยะกลับมาใช้ใหม่ทั้งการรียูสในกระบวนการผลิตสินค้า รวมถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ที่จะรีไซเคิล ตามภารกิจที่ตั้งไว้ว่า 9 ปีนับจากนี้ เดลล์จะรียูสวัสดุให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้โลกเกิดปัญหา

Latitude 7320 Detachable แยกจอและคีย์บอร์ดของโน้ตบุ๊กออกจากกันได้
ในขณะที่ประสบการณ์ลูกค้ามีความสำคัญ และความยั่งยืนก็จะช่วยโลก เดลล์ยืนยันว่าไม่ลืมมองความรับผิดชอบต่อลูกค้าด้วยการให้บริการพีซีแอสอะเซอร์วิส (PC as a service) หรือบริการสุดยืดหยุ่นให้ลูกค้าได้เช่าใช้พีซี โดยเดลล์จะเสนอพีซีรุ่นล่าสุดให้ใช้งานได้ตลอดอายุสัญญาที่ทำ เป็นบริการที่โฟกัสเรื่องความปลอดภัยข้อมูลลูกค้าอย่างเคร่งครัดด้วย

เดลล์ชี้ว่า ธุรกิจบริการเช่าพีซีไม่ได้เติบโตขึ้นตามวิกฤตเศรษฐกิจยุคโควิด-19 เนื่องจากเป็นรูปแบบบริการที่คิดมาให้เหมาะกับลูกค้าที่ไม่ได้ตั้งงบซื้อพีซี แต่มีงบเช่าใช้เต็มรูปแบบ เบื้องต้น เดลล์ยังอยู่ในช่วงเริ่มนำเสนอให้ลูกค้า ยังต้องใช้เวลาจึงจะทราบอัตราการเติบโตของโมเดลธุรกิจนี้ แต่เชื่อว่าน่าจะตอบโจทย์ลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่อยากบริหารเทคโนโลยี และสะดวกเป็นผู้ใช้ โดยไม่ต้องปวดหัวกับการแก้ปัญหา เพราะมีงบใช้งานอุปกรณ์ให้เกิดประโยชน์เท่านั้น

1 ใน 2 ไฮไลต์รุ่นเด่นที่เดลล์เตรียมมาบุกตลาดปี 64 คือ Latitude 9520 2-in-1 พีซีอัลตร้า-พรีเมียมสำหรับธุรกิจที่มี AI ภายใน พีซีรุ่นนี้ได้รับรางวัลออกแบบเบาบางไม่มีขอบจอ ทำให้ขนาดจอขยายเพิ่มขึ้นมาเป็น 15 นิ้วทั้งที่ใช้ตัวเครื่องขนาดเท่ารุ่น 14 นิ้ว อีกรุ่นคือ Latitude 7320 Detachable ที่แยกจอและคีย์บอร์ดของโน้ตบุ๊กออกจากกันได้ สามารถทำงานไลฟ์สไตล์บนหน้าจอใหญ่ 13 นิ้วซึ่งใหญ่กว่า Detachable ทั่วไป และใส่ซิมได้ สนนราคาทั้ง 2 รุ่นขึ้นอยู่กับสเปก คาดว่าไม่ต่ำกว่าหลัก 4 หมื่นบาท

Dell UltraSharp Webcam สามารถปรับวัตถุที่ขยับซ้ายหรือขวาให้อยู่ตรงกลางภาพได้อัตโนมัติ
ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่เดลล์จะทำตลาดกล้องเว็บแคมอย่างจริงจังในชื่อ Dell UltraSharp Webcam เดลล์มั่นใจว่ากล้องนี้จะยกระดับประสบการณ์การประชุมผ่านวิดีโอเพราะภาพจากกล้องให้คุณภาพระดับเดียวกับกล้อง DSLR มืออาชีพ ขณะที่มาพร้อมกับมีความชาญฉลาด (intelligent) และใช้งานง่าย มีการตัดสัญญาณรบกวนให้ภาพเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น สามารถปรับวัตถุที่ขยับซ้ายหรือขวาให้อยู่ตรงกลางภาพได้อัตโนมัติ กล้องนี้ได้รับการรับรองจากบริการประชุมทางไกลทั้งไมโครซอฟทีมส์และซูม ยังไม่เปิดราคาในไทย แต่ราคาในต่างประเทศคือ 200 เหรียญสหรัฐ

***พีซีไทยคึกคักต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมตลาดพีซีไทยครึ่งปีหลัง ผู้บริหารเดลล์มั่นใจว่าการเติบโตเป็นเลข 2 หลักในไตรมาสแรกของปี จะยังมีผลต่อเนื่องให้เกิดขึ้นอีกในไตรมาส 2 โดยเฉพาะความต้องการใช้งานโน้ตบุ๊กที่ยังเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

‘ช่วงครึ่งหลังของปีนี้กลุ่มพีซีและโน้ตบุ๊กจะยังดีอยู่ การสำรวจจากการ์ทเนอร์พบว่า ปี 64 ตลาดพีซีและโน้ตบุ๊กจะเติบโตขึ้น 9.5% ตัวเลขนี้คำนวณเฉพาะดีไวซ์ ซึ่งถ้ารวมฮาร์ดแวร์ดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ก็จะยิ่งเติบโตขึ้นอีก’ นพดล ระบุ

ปีนี้สถานการณ์ชิปขาดตลาดจะดีขึ้น ผู้บริหารเดลล์บอกว่าภาวะชิปขาดแคลนช่วงปลายปีที่แล้วนั้นไม่ได้กระทบแต่ภาคพีซี แต่รวมทั้งอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และระบบอัตโนมัติ จนขณะนี้หลายส่วนเริ่มเข้ามาช่วยเหลือและร่วมมือกันวางแผนเชิงรุก ทำให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น รวมถึงไทยที่สามารถวางแผนการผลิตได้ดีขึ้น ทำให้การเตรียมความพร้อมส่งมอบเครื่องดีขึ้นตามลำดับ

วิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด-19 ไม่มีผลเชิงลบกับธุรกิจเดลล์ ประเด็นนี้เดลล์ย้ำว่า สามารถสร้างสถิติยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ได้ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ถือเป็นสถานการณ์ไม่คาดคิดว่าธุรกิจดีไวซ์จะเติบโตได้ขนาดนี้ ซึ่งบริษัทจะเน้นวางแผนให้ลูกค้านำเอาเทคโนโลยีไปใช้เพื่อให้ผ่านวิกฤตนี้ไปได้ และเตรียมพร้อมรับสิ่งที่จะอาจจะตามมาอีกในอนาคต

"การไม่ได้ออกงานไอทีหรืองานแฟร์ไอที ไม่มีผลกับยอดขายเดลล์ เพราะเดลล์ปรับวิธีการทำงาน ทั้งในการนำเสนอสินค้าแบบเวอร์ชวล เราได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งเดลล์และลูกค้าต่างปรับตัวไปพร้อมกัน ไม่ขึ้นกับสถานที่แล้ว"

ผู้บริหารเดลล์มั่นใจว่าการเติบโตเป็นเลข 2 หลักในไตรมาสแรกของปี จะยังมีผลต่อเนื่องให้เกิดขึ้นอีกในไตรมาส 2
เดลล์มองว่าภาวะโควิด-19 ที่ทำให้เกิดการทำงานนอกออฟฟิศนั้นตอกย้ำความถูกต้องของแนวทางพัฒนา self-healing หรือการรักษาเครื่องด้วยตัวเอง ที่ผ่านมา เดลล์ได้พัฒนาให้ลูกค้ากดปุ่ม power คู่กับ f12 เพื่อให้เครื่องตรวจสอบระบบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นที่ไหน ขณะเดียวกัน ก็ให้บริการผู้ช่วยซัปพอร์ต (support assistant) ซึ่งลูกค้าจะได้รับข้อมูลว่าควรไปดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ใดมาเพิ่มเติม หรือสามารถกดคลิกเพื่อดาวน์โหลดลงเครื่องได้โดยตรง และแม้การแก้ปัญหาด้านฮาร์ดแวร์อาจจะยากกว่า แต่เดลล์ก็ยังดำเนินการได้ โดยเมื่อลูกค้าคลิกตรวจสอบ ระบบจะแสดงรหัสเพื่อให้ผู้ใช้แจ้งกับพนักงานผ่านโทรศัพท์ จากนั้นพนักงานจะจัดเตรียมฮาร์ดแวร์ที่ต้องใช้เพื่อนำไปส่งให้ที่บ้านของลูกค้าในวันรุ่งขึ้น (หากแจ้งก่อนเวลา 14.00 น.)

"ความพยายามนี้ถือว่าทำมานานแล้ว และจะทำต่อไป สำหรับกระแส work from home ที่เกิดขึ้น สิ่งที่เดลล์มองเห็นคือนอกจากอุปกรณ์ที่เหมาะสม บางเบา และเชื่อมต่อได้ แต่การรับประกันก็จะต้องให้ดีขึ้นด้วย"

ความอัจฉริยะของพีซีเดลล์ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้คือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ด้วยเครื่อง (ML) ที่ยกระดับขึ้นกว่าซอฟต์แวร์ที่เพิ่งออกมาเมื่อปีที่แล้วพร้อมซีพียู Gen 10 CPU สำหรับปีนี้ที่ใช้ชิป Gen 11 เดลล์พัฒนาเป็นซอฟต์แวร์ Optimus 2.0 ที่เปลี่ยนจากเดิมต้องใช้หลายซอฟต์แวร์เพื่อควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ต่างกัน มาเป็นรวมอยู่ในหน้าจอเดียว ทำให้จัดการได้หลายส่วนในพื้นที่เดียว ขณะเดียวกัน ความพิเศษของซอฟต์แวร์ฟรีอย่าง Optimus 2.0 ในปีนี้ยังอยู่ที่การเพิ่มส่วนเชื่อมต่อ ให้ระบบเรียนรู้ได้ว่าผู้ใช้เคยเชื่อมต่อเครือข่ายใด ทำให้ระบบหาเครือข่ายนั้นได้เร็ว และเชื่อมต่อได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าโน้ตบุ๊กปัจจุบัน

เดลล์ชี้ว่าขณะนี้พีซีและโน้ตบุ๊กมีการใช้งานเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มองค์กรที่ต้องการให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องในยุคโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานที่นำอุปกรณ์ไปใช้ work from home มากขึ้น กลุ่มที่ 2 คือภาคการศึกษา เพราะเยาวชนที่เคยไปโรงเรียนปกติโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ จะเปลี่ยนมาจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ประจำตัวไว้ใช้งาน

ตลาดพีซีจึง ‘เหมือนเกิดใหม่’ ในยุคนิว นอร์มอลอย่างแท้จริง


กำลังโหลดความคิดเห็น