ฟอร์ติเน็ต (Fortinet) เปิดตัวอุปกรณ์ไฟร์วอลล์ระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ FortiGate 7121F ใหม่เพื่อยกระดับความปลอดภัยในเครือข่าย 5G จุดเด่นคือ อุปกรณ์ขับเคลื่อนโดย SPU ASIC กรรมสิทธิ์เฉพาะของฟอร์ติเน็ตให้การปกป้องเครือข่าย 5G และสร้าง Zero Trust Access ได้อย่างรวดเร็ว
ชาญวิทย์ อิทธิวัฒนะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฟอร์ติเน็ต กล่าวว่า ฟอร์ติเน็ตได้ลงทุนอย่างมากในการพัฒนาพอร์ตโฟลิโอด้านความปลอดภัยสำหรับเครือข่าย 5G การเปิดตัว FortiGate 7121F ไฟร์วอลล์ประเภทเน็กซ์เจเนอเรชันที่สามารถยืนยันได้ว่ามีประสิทธิภาพทำงานได้เร็วที่สุดในโลก จะช่วยให้ผู้ให้บริการในประเทศไทยสามารถใช้อุปกรณ์ในราคาที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งถึง 10 เท่าตามเกณฑ์มาตรฐานในปัจจุบัน
"นอกจากนี้ อุปกรณ์ FortiExtender ใหม่นี้ยังช่วยองค์กรเอ็นเตอร์ไพรส์มีการเชื่อมต่อเอสดีแวนให้แก่พนักงานที่ทำงานจากที่บ้านได้อย่างสมบูรณ์ รวดเร็ว ปลอดภัย"
ฟอร์ติเน็ตระบุว่า ในปัจจุบันองค์กรและผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ MNO ต่างเร่งสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ โดยใช้ 5G ที่มีค่าความหน่วงต่ำและให้ประสิทธิภาพสูงเป็นช่องทางหลักในการเชื่อมต่อเข้าสู่ส่วนกลางมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เกิดกลุ่มผู้ค้าระบบเทคโนโลยีการดำเนินงาน (Operational Technology : OT) ผู้ค้าระบบควบคุมในงานอุตสาหกรรม (Industrial Control) และผู้ค้าระบบคลาวด์สาธารณะร่วมมือกันสร้างแอปพลิเคชันและบริการใหม่ๆ เพื่อปฏิรูปเปลี่ยนแปลงกลุ่มองค์กรประเภทอุตสาหกรรม ส่งให้ระบบนิเวศของ 5G ขยายตัวใหญ่มากขึ้น ซึ่งเป็นการขยายพื้นผิวความเสี่ยงการถูกโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้นด้วยเช่นกัน องค์กรและผู้ให้บริการจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ธุรกิจหยุดชะงัก ในขณะที่เครือข่ายยังคงต้องมีค่าความหน่วงต่ำ มีประสิทธิภาพสูง มีความน่าเชื่อถือสูง ยืดหยุ่นและปรับขนาดได้อย่างคล่องตัวสูง
ฟอร์ติเน็ตจึงได้ส่งโซลูชันไฟร์วอลล์รุ่น FortiGate 7121F ใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับช่วยเสริมความมั่นคงปลอดในการเชื่อมต่อจากระบบเครือข่าย 5G โดยเฉพาะ ซึ่งรองรับการใช้งานสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการ MNO และระบบนิเวศของเครือข่ายส่วนตัวและสาธารณะดังกล่าว
ทั้งนี้ ในการทำงานจากที่บ้านและทุกที่ของพนักงานในยุคปัจจุบันนั้นจำเป็นต้องมีเชื่อมต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตระดับ Ultra-fast 5G เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ฟอร์ติเน็ตจึงส่งอุปกรณ์ขยายสัญญาณ FortiExtender 511F-5G Wireless WAN รุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อยกระดับเชื่อมโยงเครือข่ายแอสดีแวนและแพลตฟอร์มแซสซี (Secure Access Service Edge : SASE) ให้สูงได้ถึง 6Ghz 5G ทั้งนี้ อุปกรณ์มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยอยู่ในส่วนการเข้าถึงเครือข่ายเบ็ดเสร็จในตัวจึงกลายเป็นโซลูชัน Secure SD-WAN ชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรม ให้ทั้งความปลอดภัยสูงและการเชื่อมต่อแบบไฮบริดแวนที่ยืดหยุ่น ผู้ใช้งานจึงมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น ราบรื่นขึ้น นอกจากนี้ อุปกรณ์ FortiExtender ยังมีการเชื่อมต่อจากบริเวณเครือข่ายเอจเข้ากับแพลตฟอร์ม FortiSASE ของฟอร์ติเน็ตด้วยความเร็ว 5G เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและให้บริการด้านความปลอดภัยบนคลาวด์อยู่แล้ว จึงทำให้อุตสาหกรรมการค้าปลีก โอที และด้านสาธารณสุขสามารถใช้อุปกรณ์ FortiExtender มีการเชื่อมต่อดังกล่าวสร้างแวนไร้สายอันรวดเร็วและปลอดภัยได้ทันที
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไฟร์วอลล์ FortiGate 7121F ใหม่นี้ทำงานร่วมกับไฟร์วอลล์ฟอร์ติเกตรุ่นอื่นๆ บนโครงข่ายความปลอดภัยซิเคียวริตีแฟบริก จะสามารถปกป้ององค์กรอุตสาหกรรมและผู้ให้บริการเครือข่าย MNO สามารถให้ความปลอดภัยที่สม่ำเสมอทั่วทั้งเครือข่าย 5G ส่วนตัวและสาธารณะ OT รวมถึงระบบประมวลผล Multiaccess Edge Compute (MEC) รวมถึงระบบคลาวด์ส่วนตัวและสาธารณะ
นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดตัว FortiGate 7121F NGFW ซึ่งใช้ SPU ASIC รุ่นใหม่ที่ฟอร์ติเน็ตมุ่งมั่นพัฒนาให้สามารถทำความเร็วในการประมวลผลได้สูง ส่งผลให้มีดัชนีตัวเลขด้านประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรมในหลายด้านด้วยกัน รวมถึงดัชนี Security Compute Rating (ตัวคูณประสิทธิภาพ) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมของไฟร์วอลล์เน็กซ์เจเนอเรชันในหมวดหมู่ต่างๆ ที่อยู่ในช่วงราคาเดียวกันในท้องตลาด นอกจากนี้ ในการทำงานด้านป้องกันภัยคุกคาม (Threat Protection) FortiGate 7121F ยังเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมถึง 2 เท่า และเร็วกว่าคู่แข่งอื่นๆ ถึง 19 เท่าในการทำงานถอดรหัส SSL (SSL Inspection)